เรื่อง : การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา
ประจำปีการศึกษา 2563
ผู้ประเมิน : นางสาวรัตนาวดี นำนาผล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไพรสะเดา
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ประจำปีการศึกษา 2563 จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ประจำปีการศึกษา 2563 ตามรูปแบบการประเมิน CIPP Model และ ประเมินความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ประจำปีการศึกษา 2563 โดยประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่ใช้การประเมินโครงการในรูปแบบของ CIPP Model ทั้ง 4 ด้าน คือ 1. การประเมินสภาวะแวดล้อม 2. การประเมินปัจจัยนำเข้า 3. การประเมินกระบวนการดำเนินงาน และ 4. การประเมินผลผลิต ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา จำนวน 9 คน ครูโรงเรียนบ้านไพรสะเดา จำนวน 14 คน นักเรียนโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ที่ศึกษาในปีการศึกษา 2563 จำนวน 233 คน และผู้ปกครองนักเรียน ที่ศึกษาในปีการศึกษา 2563 จำนวน 233 คน รวมประชากรที่ใช้ในการศึกษา ทั้งสิ้น 489 คน ใช้แบบประเมินเป็นแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีของลิเคิร์ท (Likerts rating scale) เคราะห์ข้อมูลด้วยการประมวลผลโปรแกรมสําเร็จรูป SPSS for Windows และใช้สถิติ คือ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (µ,x̄) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ, S.D.)
ผลการประเมินพบว่า
1. เพื่อประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ประจำปีการศึกษา 2563 ตามรูปแบบการประเมิน CIPP Model ใน 4 ด้าน
1.1. การประเมินสภาวะแวดล้อมของโครงการ (context evaluation)
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็นได้แก่ บุคลากรในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายของการดำเนินงาน และร่วมดำเนินงานไปโดยพร้อมเพรียงกันวัตถุประสงค์ของโครงการมีความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโรงเรียน และสภาพแวดล้อมของโรงเรียนเหมาะสมต่อการดำเนินโครงการ
1.2. การประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการ (input evaluation)
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็น ได้แก่ บุคลากรในโรงเรียนมีความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ในการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ผู้บริหารมีการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการอย่างเพียงพอ และ ระยะเวลาในการดำเนินงานตามโครงการ มีความเหมาะสม
1.3. การประเมินกระบวนการดำเนินงานโครงการ (process evaluation)
1.3.1 การบริหารจัดการในภาพรวม
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็น ได้แก่ โรงเรียนมีนโยบาย โครงการ แนวทาง/รูปแบบ ในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายและเชื่อมโยงการเสริมสร้างทักษะชีวิตเพื่อพัฒนานักเรียน โรงเรียนดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนครบทั้ง 5 ขั้นตอนโดยคำนึงถึงผู้เรียนเป็นสำคัญ และ โรงเรียนมีการส่งเสริม สนับสนุน นิเทศ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อนำไปพัฒนางานในปีถัดไป
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก แยกรายประเด็น ได้แก่ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนานักเรียนที่หลากหลายตามความสนใจของนักเรียน เช่น การเล่นกีฬา การเล่นดนตรี เกษตรพอเพียง โดยเชื่อมโยงกับการเสริมสร้างทักษะชีวิต โรงเรียนมีการดูแลนักเรียนทั้งโครงการอาหารกลางวัน การดื่มนมและจัดหาทุนการศึกษาให้นักเรียนเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของนักเรียน และ โรงเรียนให้ความสำคัญกับการดูแลนักเรียนทั้งการเรียนและการใช้ชีวิตที่บ้าน
1.3.2. ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก แยกรายประเด็น คือ มีการรายงานและสรุปผลด้านการรู้จักผู้เรียนรายบุคคลเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือนักเรียนที่เหมาะสม มีการจัดทำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวของนักเรียน เช่น การเยี่ยมบ้าน การสัมภาษณ์ผู้ปกครองนักเรียน การสังเกต และ มีการนำข้อมูลของนักเรียนมาวิเคราะห์เพื่อคัดกรองนักเรียนเป็นรายบุคคล
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก แยกรายประเด็น คือ มีการข้อมูลสารสนเทศในการเก็บรวมรวมข้อมูลนักเรียนและรักษาข้อมูลนักเรียนเป็นความลับ มีวิธีการที่หลากหลายในการเก็บข้อมูลของนักเรียน เช่น การเยี่ยมบ้าน การใช้ Facebook การใช้แอพพลิเคชั่น Line ในการทำให้ทราบข้อมูลของนักเรียนรายบุคคล มีกิจกรรมการเยี่ยมบ้าน และ ใช้แอพพลิเคชั่น Line ของผู้ปกครองและคุณครูประจำชั้นเพื่อร่วมกันดูแลนักเรียน ตามลำดับ
1.3.3. ด้านการคัดกรองนักเรียน
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็น คือ มีการนำผลการคัดกรองนักเรียนไปสู่การช่วยเหลือนักเรียนที่เป็นรูปธรรม มีการวางแผนงานด้านการคัดกรองนักเรียน และมีระบบการคัดกรองนักเรียนตามเกณฑ์การคัดกรองนักเรียน
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก แยกรายประเด็น คือ มีการร่วมกับผู้ปกครองนักเรียนประเมินการจัดกลุ่มของนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มมีปัญหา มีความร่วมมือของผู้ปกครองและครูประจำชั้นที่จะพูดคุยถึงปัญหาที่นักเรียนพบเจอและมีส่วนร่วมกันในการแก้ไขปัญหานั้นๆ และ ทางโรงเรียนมีการเก็บข้อมูลการคัดกรองของนักเรียนเป็นความลับ และประสานงานกับผู้ปกครองเป็นรายกรณี
1.3.4. ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็น คือ มีการจัดกิจกรรมที่หลายหลายเพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีสัมพันธ์ภาพที่ดีกับผู้อื่นและมีการเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิต จากกิจกรรมโฮมรูม และกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ และ มีกระบวนการการให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่นักเรียนกลุ่มเสี่ยงและมีแนวทางในการช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายกรณี มีความร่วมมือระหว่างครู ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานภายนอกในการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน และมีการรายงานและประเมินผลด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนเพื่อนำไปสู่การพัฒนางานในปีถัดไป
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก แยกรายประเด็น คือ มีการจัดกิจกรรมที่หลายหลายและนักเรียนได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนและมีการเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิต จากกิจกรรมโฮมรูม และกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ มีกิจกรรมให้นักเรียนได้ทำตามความสนใจ ทั้งการเล่นกีฬา การเล่นดนตรี การเรียนรู้การทำเกษตรด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้การทำอาหาร เรียนรู้จากครูภูมิปัญญาท้องถิ่น และเมื่อนักเรียนมีปัญหาสามารถปรึกษาเพื่อนหรือครูเพื่อให้การช่วยเหลือ
1.3.5. ด้านการป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็น คือ มีการจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มมีปัญหาที่เหมาะสมตามศักยภาพของนักเรียน มีความร่วมมือระหว่างครู ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานภายนอกในการป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ และ มีการวางแผนงานด้านการป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก แยกรายประเด็น คือมีการให้ความช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายกรณีตามปัญหาที่นักเรียนเจออย่างเร่งด่วน มีการประชาสัมพันธ์ด้านการป้องกันและให้ความช่วยเหลือนักเรียน ทั้งใน Facebook การใช้แอพพลิเคชั่น Line และ มีการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ตำรวจ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในการให้ความรู้ด้านการป้องกันภัยรอบตัวที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน และ ครูประจำชั้นดูแลและให้ความรู้แก่นักเรียนในการป้องกันภัยรอบตัวตามวัยที่เหมาะสม
1.3.6. ด้านการประเมินด้านการส่งต่อ
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด แยกรายประเด็นพบว่า มีการประสานความร่วมมือกันภายในหน่วยงานเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานักเรียนร่วมกัน และ มีการรายงานและสรุปผลด้านการส่งต่อมีการรายงานและสรุปผลเพื่อนำไปสู่การพัฒนางานในปีถัดไป มีขั้นตอนการส่งต่อนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ มีการวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนในกลุ่มที่มีปัญหาและมีระบบการส่งต่อเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม และ มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานักเรียนร่วมกัน
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า มีความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก พิจารณาแยกรายประเด็นพบว่า มีการดูแลนักเรียนโดยความร่วมมือของครูประจำชั้นและผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานักเรียน และ มีการร่วมมือกันของคุณครูในโรงเรียนดูแลและเอาใจใส่นักเรียนและร่วมมือกันภายในหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหานักเรียน
1.4. การประเมินผลผลิตของโครงการ (product evaluation)
คณะกรรมการสถานศึกษาและครู มีความเห็นว่า ความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด พิจารณาแยกรายประเด็นพบว่า การวัดผล ประเมินผลของโครงการสามารถนำมาพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสรุปผลลัพธ์ของการดำเนินงานโครงการได้ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ นักเรียนได้รับการดูแลจากระบบช่วยเหลือของทางโรงเรียนเป็นอย่างดี และ ทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการดูแลนักเรียนอย่างเต็มที่
นักเรียนและผู้ปกครอง มีความเห็นว่า ความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมาก พิจารณาแยกรายประเด็นพบว่า กิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดขึ้นถือเป็นกิจกรรมการพัฒนาที่เกิดผลดีต่อนักเรียนอย่างแท้จริง นักเรียนได้รับการดูแลจากโรงเรียนอย่างทั่วถึงและเป็นอย่างดี ผู้ปกครองและทางโรงเรียนได้มีส่วนร่วมในการดูแลนักเรียนส่งผลให้พฤติกรรมของนักเรียนดีขึ้น และนักเรียนได้รับการพัฒนาจากกิจกรรมที่หลากหลายทำให้มาสามารถนำไปต่อยอดในการเรียนต่อได้อย่างเหมาะสม ตามลำดับ
2. เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ประจำปีการศึกษา 2563
คณะกรรมการสถานศึกษา ครู นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนบ้านไพรสะเดา มีความเห็นว่าความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านไพรสะเดา ประจำปีการศึกษา 2563 ความสอดคล้องเหมาะสมในภาพรวมในระดับมากที่สุด พิจารณาแยกรายประเด็นพบว่า โครงการนี้มีประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างแท้จริง ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ดำเนินการได้อย่างเหมาะสม และมีการประเมินผลการดำเนินโครงการและนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือของนักเรียนในโรงเรียนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น