ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางอุรา กรมพะไมย
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาความต้องการในการพัฒนาการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มเป้าหมายคือครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 4 เขตอำเภอกันทรลักษ์ จำนวน 34 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายคือผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง
3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้ (3.1) ศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้
(3.2) เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3.3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองงูเหลือม(คุรุราษฎร์รัฐกิจโกศล)ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทยผลการศึกษาความต้องการพัฒนาการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมาตรฐาน ท 2.1 การเขียน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 และเมื่อเรียงอันดับพบว่าความต้องการพัฒนาในมาตรฐานที่ 2.1 ตามลำดับความต้องการจากมากไปน้อยคือ 1) การเขียนเรียงความ 2) การเขียนแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ 3) การเขียนคำขวัญ คำคม คติพจน์4) การเขียนเรื่องจากภาพ และ 5) การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด ผู้วิจัยจึงได้นำมากำหนดเนื้อหาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามความเหมาะสมของวัยและพัฒนาการ ดังนี้ข
1) การเขียนคำขวัญ คำคม คติพจน์ 2) การเขียนแสดงความคิดเห็น 3) การเขียนโฆษณาสินค้า
4) การเขียนเรียงความ 5) การเขียนเรื่องจากภาพ 6) การแต่งเรื่องตามจินตนาการ และ7) การแต่งคำประพันธ์
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน
เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2.1 ผลการศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการเรียนการสอนการเขียน
เชิงสร้างสรรค์ สามารถสรุปสาระสำคัญของแนวคิดทฤษฎีเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการร่างรูปแบบการเรียนการสอนได้ ดังนี้ 1) แนวคิดทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 2) แนวคิดจิตวิทยากลุ่มเกสตัลท์ 3) แนวคิดกลยุทธ์ส่งเสริมต่อการเรียนรู้สแคฟโฟลดิง และ 4) แนวคิดการถ่ายโยงการเรียนรู้
2.2 ผลการนำข้อมูลพื้นฐานที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล และแนวคิดทฤษฎีและข้อสรุป
ที่ศึกษาไว้ มาดำเนินการยกร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน
เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการแนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการสอน มี 5 ขั้นตอน คือ (1) เตรียมความพร้อม (2) จัดการความคิด (3) ลำดับงานเขียน (4) สร้างสรรค์งานเขียน และ (5) นำเสนอผลงาน 4) ระบบสังคม5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน
3. ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียน
เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้
3.1 ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า รูปแบบ
การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.05/80.33
3.2 ผลการเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ก่อนเรียน
และหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3.3 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบ
การจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการ
เรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเท่ากับ 4.51