|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มี
ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่าน การเขียน เรื่อง
มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถม
ศึกษาปีที่ ๓
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางชมพูนุท ณ เกาะลอย
โรงเรียน โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร
เทศบาลเมืองตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
ปี พ.ศ. ๒๕๖๑
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ วัตถุประสงค์ข้อ ๑ เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พบว่า ด้านสภาพปัจจุบันครูมีการจัดการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน การเขียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อยู่ในระดับปานกลาง ( = ๒.๘๘ , S.D. = .๓๑) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านครูผู้สอน พบว่า สภาพปัจจุบันมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการอ่าน การเขียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = ๒.๗๖ , S.D. = .๒๑) โดยมีข้อเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการพัฒนากระบวนการอ่าน การเขียน อยู่ในระดับปานกลาง( = ๓.๐๐ , S.D. = .๗๑) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบวิธีหรือนวัตกรรมการเรียนการสอนที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน การเขียนของนักเรียน อยู่ในระดับปานกลาง ( = ๒.๖๐ , S.D. = .๘๙) ส่วนด้านการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อส่งเสริมการอ่าน การเขียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า สภาพปัจจุบันการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน การเขียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อยู่ในระดับปานกลาง ( = ๒.๙๖ , S.D. = .๔๓) โดยมีข้อเฉลี่ยมากที่สุด คือ ใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน การเขียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ฝึกความสัมพันธ์หรือความเชื่อมโยงขององค์ประกอบต่าง ๆ อยู่ในระดับปานกลาง ( = ๓.๔๐ , S.D. = .๕๕) ข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การใช้คำถามกระตุ้นเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกการคิดเพื่อหาคำตอบ ( = ๒.๔๐ , S.D. = .๕๕) วัตถุประสงค์ข้อ ๒ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ผลการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการสอนภาษาไทย จำนวน ๕ ท่าน ได้ค่าความเหมาะสม/สอดคล้องมีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๔๕ , S.D. = .๑๕) และค่าเฉลี่ย ( ) ตั้งแต่ ๔.๒๒ - ๔.๗๘ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ตั้งแต่ .๔๔ - .๘๗ ซึ่งแสดงว่า พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม/สอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้และผลการหาประสิทธิภาพ (E1/ E2) โดยการทดลองภาคสนาม (Field Tryout) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนโดยรวมเท่ากับ ๘๒.๑๔/๘๑.๗๙ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ๘๐/๘๐ วัตถุประสงค์ข้อ ๓ เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พบว่า หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ นักเรียนมีทักษะการอ่าน การเขียน ทักษะกระบวนการทางภาษาไทย และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ วัตถุประสงค์ข้อ ๔ เพื่อประเมินผลและปรับปรุงพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ ๔ MAT ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่าน การเขียน เรื่อง มาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ด้านบรรยากาศโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๗ , S.D. = .๑๕) ด้านการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๔ , S.D. = .๓๖) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๕๑ , S.D. = .๑๗) และด้านการวัดและประเมินผล โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๔๘ , S.D. = .๒๔) เป็นลำดับสุดท้าย
|
โพสต์โดย นุท : [20 พ.ค. 2564 เวลา 18:00 น.] อ่าน [4466] ไอพี : 159.192.192.56
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,586 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,352 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,616 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,840 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,103 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,801 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,694 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,214 ครั้ง
| เปิดอ่าน 161,623 ครั้ง
| เปิดอ่าน 55,489 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,238 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,112 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,215 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,906 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 64,285 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,253 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,697 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,232 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,900 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|