ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ชื่อเรื่อง รายงานการวิจัย เรื่อง การพัฒนาเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยโปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามท

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มทดลอง ก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามทฤษฎีเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม (2) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มควบคุม ระยะก่อนการทดลองกับระยะหลังการทดลอง (3) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม (4) เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มทดลอง ระยะหลังการทดลองกับระยะติดตามผล

กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนชุมชนวัดไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้จากการคัดกรองนักเรียนตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนชุมชนวัดไทรน้อย ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มมีปัญหา และได้สอบถามความสมัครใจเข้าร่วมการทดลอง จำนวน 18 คน ซึ่งเป็นเพศหญิงทั้งหมด หลังจากนั้นจัดกลุ่มด้วยวิธีการจับสลากสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งเป็นชั้นภูมิ (Stratified Sampling) เป็นกลุ่มทดลอง 9 คน และกลุ่มควบคุม 9 คน ดังนี้ (1) กลุ่มทดลอง 9 คน ประกอบด้วย (ก) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 3 คน (ข) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 3 คน (ค) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 คน (2) กลุ่มควบคุม 9 คน ประกอบด้วย (ก) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 3 คน

(ข) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 คน (ค) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามทฤษฎีเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม (2) แบบวัดเจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที

ผลการศึกษาพบว่า

1. เจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มที่ใช้โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามทฤษฎีเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม หลังใช้โปรแกรมสูงกว่าก่อนใช้โปรแกรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2. เจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มที่ไม่ได้ใช้โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามทฤษฎีเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม ระยะหลังการทดลองไม่แตกต่างกับระยะก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. เจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มทดลองที่ใช้โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามทฤษฎีเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม ระยะหลังทดลองมีเจตคติสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. เจตคติต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มที่ใช้โปรแกรมการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มตามทฤษฎีเหตุผล อารมณ์และพฤติกรรม ระยะติดตามผลสูงกว่าระยะหลังใช้โปรแกรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

โพสต์โดย ครูองุ่น : [20 พ.ค. 2564 เวลา 08:13 น.]
อ่าน [4676] ไอพี : 115.87.237.190
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 35,850 ครั้ง
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)
การทักทาย วิธีเรียงประโยค(ภาษาจีน)

เปิดอ่าน 9,783 ครั้ง
พระสังฆราชประทานพระโอวาทวันอาสาฬหบูชา
พระสังฆราชประทานพระโอวาทวันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 15,017 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา

เปิดอ่าน 25,005 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ

เปิดอ่าน 29,602 ครั้ง
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ

เปิดอ่าน 18,154 ครั้ง
จวกยับเนื้อหาวิชาสังคมฯ ม.4-6 ไม่ตรงข้อเท็จจริง
จวกยับเนื้อหาวิชาสังคมฯ ม.4-6 ไม่ตรงข้อเท็จจริง

เปิดอ่าน 13,058 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี

เปิดอ่าน 13,655 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2013
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2013

เปิดอ่าน 28,713 ครั้ง
วิธีการปลูกผักชี
วิธีการปลูกผักชี

เปิดอ่าน 4,195 ครั้ง
พิกเซล (Pixel)
พิกเซล (Pixel)

เปิดอ่าน 11,767 ครั้ง
ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของญี่ปุ่น
ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 15,691 ครั้ง
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก
ผู้อยู่ลำดับสี่ในตารางสัมภาษณ์งาน มีโอกาสได้งานทำมากที่สุด ผลการวิจัยบอก

เปิดอ่าน 48,904 ครั้ง
"กระทุ่ม" ดอกหอมเป็นยา
"กระทุ่ม" ดอกหอมเป็นยา

เปิดอ่าน 15,627 ครั้ง
รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52
รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52

เปิดอ่าน 16,748 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"

เปิดอ่าน 11,738 ครั้ง
ทำตัวเตี้ย เทรนด์ฮา จากเกาหลี บอกเลยกำลังฮิตสุดๆ
ทำตัวเตี้ย เทรนด์ฮา จากเกาหลี บอกเลยกำลังฮิตสุดๆ
เปิดอ่าน 22,398 ครั้ง
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก
เปิดอ่าน 14,917 ครั้ง
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น
เปิดอ่าน 11,344 ครั้ง
 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
เปิดอ่าน 5,657 ครั้ง
รวม 4 เทคนิค ออนไลน์-ออนไซต์ จากคลาสแอคทีฟเลิร์นนิ่ง กระตุ้นสัมพันธ์ "นักเรียน – ครู" แบบไม่น่าเบื่อ
รวม 4 เทคนิค ออนไลน์-ออนไซต์ จากคลาสแอคทีฟเลิร์นนิ่ง กระตุ้นสัมพันธ์ "นักเรียน – ครู" แบบไม่น่าเบื่อ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ