การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
รายวิชา โปรแกรมประมวลผลคำ รหัสวิชา 20204-2102 โดยใช้จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) กับ การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย
สำหรับผู้เรียน ชั้นปีที่ 1 (ปวช.1) ประเภทวิชา พาณิชยกรรม
สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
พุทธศักราช 2562
นางอัญชลีพร ลาบุญ
วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
ตุลาคม 2562
ชื่อผลงาน การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเจตคติต่อการเรียนรายวิชา โปรแกรม
ประมวลผลคำ รหัสวิชา 20204-2102 สำหรับผู้เรียน ชั้นปีที่ 1 (ปวช.1) ประเภทวิชา พาณิชยกรรม สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กับการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย
ผู้รายงาน นางอัญชลีพร ลาบุญ
ปีที่รายงาน 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัยไว้ดังนี้
1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา โปรแกรมประมวลผลคำ รหัสวิชา 20204-2102 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา โปรแกรมประมวลผลคำ รหัสวิชา 20204-2102 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) กับ การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา โปรแกรมประมวลผลคำ รหัสวิชา 20204-2102 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ที่สอนโดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา โปรแกรมประมวลผลคำ รหัสวิชา 20204-2102 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ที่สอนโดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย ก่อนเรียนและหลังเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียน โดยการใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย มี คะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผู้เรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบบรรยาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) กับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบบรรยายนั้นแตกต่างกัน