ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึ

บทคัดย่อ

วิจัยเรื่อง : รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร

เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้วิจัย : นางรอมีบ๊ะ มิง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

ที่ทำงาน : โรงเรียนบ้านตะบิงตีงี อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี

สังกัดกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ปีที่วิจัย : 2562-2563

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 85/85 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อประเมินความคิดเห็นและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตะบิงตีงี อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี สังกัดกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 16 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยวิธีการจับสลากโดยใช้หน่วยโรงเรียนในการสุ่ม ซึ่งผู้วิจัย เป็นครูประจำวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 5 ชนิด ดังนี้ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานอย่างง่าย “นักวิทยาศาสตร์น้อย” (PAKIDS Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 ชั่วโมง ๆ ละ 1 แผน รวมทั้งสิ้น 20 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบแบบคู่ขนาน 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบแบบคู่ขนาน 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 4) แบบประเมินจิตนิสัยทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานอย่างง่าย “นักวิทยาศาสตร์น้อย” (PAKIDS Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ข้อ และ 5)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ค่าที และค่าดัชนีประสิทธิผล

ปรากฏผลการวิจัยและพัฒนา ดังนี้

1. สภาพปัจจุบันและความต้องการในการจัดการสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปรากฏผลดังนี้

1.1 สภาพปัจจุบันครูมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับปานกลาง

1.2 ความต้องการของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ครูประจำวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเขตคุณภาพที่มีขนาดปานกลางอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี สังกัดกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน 5 คน มีความต้องการในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2. การพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปรากฏผลดังนี้

2.1 ความเหมาะสมของรูปแบบโครงงานเป็นฐานอย่างง่าย “นักวิทยาศาสตร์น้อย” (PAKIDS Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ครูประจำวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

2.2 ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 คือ ปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืดหยุ่นระยะเวลาในการเรียนให้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรม และเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนต้องบริหารเวลาให้เหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอนตามความยาวของเนื้อหา

2.3 ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.50/86.13 เป็นไปตามเกณฑ์ 85/85

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปรากฏผลดังนี้

3.1 ดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6892 หรือคิดเป็นร้อยละ 68.92

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานอย่างง่าย “นักวิทยาศาสตร์น้อย” (PAKIDS Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (ว 22101) ในภาคเรียนที่ 1 ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานอย่างง่าย “นักวิทยาศาสตร์น้อย” (PAKIDS Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.4 จิตนิสัยทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมาก

3.5 ความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ (ว 22101) เรื่อง สารและสมบัติสาร เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมาก

4. ผลประเมินความคิดเห็นและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานอย่างง่าย “นักวิทยาศาสตร์น้อย” (PAKIDS Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

คำสำคัญ : วิจัยและพัฒนา, รูปแบบการจัดการเรียนรู้, การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน, นักวิทยาศาสตร์น้อย, รูปแบบการจัดการเรียนรู้พาคิดส์, ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์, จิตวิทยาศาสตร์, ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

โพสต์โดย ครูรอมีบ๊ะ : [6 พ.ค. 2564 เวลา 19:14 น.]
อ่าน [3896] ไอพี : 113.53.133.245
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,872 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ

เปิดอ่าน 23,071 ครั้ง
ไอเดีย..โครงสร้างศธ.รูปแบบใหม่สลาย5แท่งหวนสู่ "กรม"!
ไอเดีย..โครงสร้างศธ.รูปแบบใหม่สลาย5แท่งหวนสู่ "กรม"!

เปิดอ่าน 35,052 ครั้ง
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 9,445 ครั้ง
ลดความอ้วนด้วยตะเกียบ ช่วยถ่วงให้กินได้ช้าลงและคำเล็กลง
ลดความอ้วนด้วยตะเกียบ ช่วยถ่วงให้กินได้ช้าลงและคำเล็กลง

เปิดอ่าน 4,714 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน

เปิดอ่าน 33,017 ครั้ง
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)

เปิดอ่าน 20,301 ครั้ง
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 92 ครั้ง
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS

เปิดอ่าน 28,794 ครั้ง
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ

เปิดอ่าน 18,821 ครั้ง
เตรียมตัวให้พร้อม...ผลไม้ไทย ทานอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง
เตรียมตัวให้พร้อม...ผลไม้ไทย ทานอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง

เปิดอ่าน 11,142 ครั้ง
The Six Math Problem และวิธีหาคำตอบ ชมที่นี่
The Six Math Problem และวิธีหาคำตอบ ชมที่นี่

เปิดอ่าน 58,304 ครั้ง
ระบบการสอนของเคมพ์ (Jerrold/Kemp)
ระบบการสอนของเคมพ์ (Jerrold/Kemp)

เปิดอ่าน 8,218 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (2)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (2)

เปิดอ่าน 13,698 ครั้ง
คนแห่ขอยา "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งฟรี ยอดพุ่ง 30 เท่าต่อวัน
คนแห่ขอยา "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งฟรี ยอดพุ่ง 30 เท่าต่อวัน

เปิดอ่าน 17,136 ครั้ง
คลิปโฆษณาสร้างสรรค์สังคม ชุด "พี่โน๊ตขอออออ... ก่อนลงไปมีเรื่องกับใคร สูดหายใจลึกๆ"
คลิปโฆษณาสร้างสรรค์สังคม ชุด "พี่โน๊ตขอออออ... ก่อนลงไปมีเรื่องกับใคร สูดหายใจลึกๆ"

เปิดอ่าน 9,413 ครั้ง
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ
เปิดอ่าน 12,041 ครั้ง
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"
ชื่นชมพระบารมี สมเด็จพระเทพฯ ทรงขับร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"
เปิดอ่าน 22,086 ครั้ง
โรคเหน็บชา สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 9
โรคเหน็บชา สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 9
เปิดอ่าน 20,001 ครั้ง
ภูมิปัญญาชาวบ้าน
ภูมิปัญญาชาวบ้าน
เปิดอ่าน 141,718 ครั้ง
จำนวนครูเกษียณอายุราชการ และความต้องการครู แยกตามสาขาวิชา
จำนวนครูเกษียณอายุราชการ และความต้องการครู แยกตามสาขาวิชา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ