ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธากระยาราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนวัดราษฎร์

ศรัทธากระยาราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร

ชื่อผู้ประเมิน นายถวิล แซ่ตั้ง

ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินโครงการครั้งนี้ เป็นการรายงานการประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนักเรียนโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธากระยาราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบท (Context Evaluation) ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า(Input Evaluation) ด้านกระบวนการดำเนินงาน (Process Evaluation) และด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPP ของ สตัฟเฟิลบีมและคณะ (Stufflebeam, D. L. & et al,1971:216-265) มาเป็นรูปแบบในการประเมิน ประชากร ที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย คณะครูโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธากระยาราม จำนวน 16 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน(ยกเว้นผู้แทนครูและผู้บริหารสถานศึกษา) จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 100 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 100 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รวมทั้งสิ้น 223 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ ประกอบด้วยแบบสอบถาม จำนวน 5 ฉบับ ดังนี้ 1) ประเมินด้านบริบท มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.79 2) ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.77 3) ประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 4) ประเมินด้านผลผลิต มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 และ 5) ประเมินความพึงพอใจ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมินโครงการแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมิน ด้านบริบทของโครงการ (Context evaluation) ตามความคิดเห็นของคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในภาพรวมพบว่าระดับความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือความสอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษาอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือปัญหาและความจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุดและความต้องการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input evaluation) ตามความคิดเห็นของคณะครู

ในภาพรวม พบว่า ระดับความพอเพียงอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดความพอเพียงของสื่อวัสดุอุปกรณ์และอาคารสถานที่อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือรูปแบบการจัดกิจกรรมอยู่ในระดับมากที่สุดและความพอเพียงของงบประมาณอยู่ในระดับมากส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือความพร้อมและความเหมาะสมของบุคลากรอยู่ในระดับมาก

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานโครงการ (Process evaluation) ตามความคิดเห็นของครูในภาพรวมพบว่าระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดได้แก่ด้านการดำเนินงาน (Do)อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือการกำกับนิเทศติดตามและประเมินผล(Check)อยู่ในระดับมากที่สุดและการวางแผน(Plan)อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดคือการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานและรายงานผล (Act)

อยู่ในระดับมาก

4. ด้านผลผลิต (Product evaluation) ตามความคิดเห็นของคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียนในภาพรวมพบว่า

4.1 พฤติกรรมสุขภาพนักเรียนตามวัตถุประสงค์ของโครงการ พบว่า ระดับพฤติกรรมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ โดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อยสามลำดับ ได้แก่ นักเรียนนำความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพไปเผยแพร่ต่อชุมชนผู้ปกครองและคนในครอบครัว อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือนักเรียนรู้จักเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อความรุนแรง อยู่ในระดับมากที่สุด และนักเรียนรู้จักป้องกันอุบัติภัยในท้องถนน อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเท่ากับ นักเรียนรักการออกกำลังกาย และ นักเรียนรู้จักป้องกันอุบัติภัยในท้องถนน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ นักเรียนเป็นแกนนำนักเรียนส่งเสริมสุขภาพ อยู่ในระดับมาก

4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจตามความคิดเห็นของคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อโดยเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อยสามลำดับ ได้แก่ โครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพมีประโยชน์ต่อนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือกิจกรรมของโครงการมีความน่าสนใจและมีประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด และกิจกรรมของโครงการมีความหลากหลายและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ นักเรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นายถวิล แซ่ตั้ง : [5 พ.ค. 2564 เวลา 18:14 น.]
อ่าน [3565] ไอพี : 171.5.218.100
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 166,209 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด

เปิดอ่าน 21,992 ครั้ง
รู้หรือเปล่าว่าปลาร้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
รู้หรือเปล่าว่าปลาร้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

เปิดอ่าน 17,935 ครั้ง
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

เปิดอ่าน 11,238 ครั้ง
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย

เปิดอ่าน 17,810 ครั้ง
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้

เปิดอ่าน 15,950 ครั้ง
ลายมือผู้นำระดับโลก
ลายมือผู้นำระดับโลก

เปิดอ่าน 13,423 ครั้ง
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน

เปิดอ่าน 10,281 ครั้ง
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย
"โตเกียว" ค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย

เปิดอ่าน 12,410 ครั้ง
แค่กินอาหารด้วยตะเกียบ ก็ลดน้ำหนักได้ผลชะงัด !
แค่กินอาหารด้วยตะเกียบ ก็ลดน้ำหนักได้ผลชะงัด !

เปิดอ่าน 57,543 ครั้ง
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ
20 คุณลักษณะของครูที่เด็กต้องการ

เปิดอ่าน 19,379 ครั้ง
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 821 ครั้ง
BLOCKCHAIN คืออะไร ?
BLOCKCHAIN คืออะไร ?

เปิดอ่าน 29,226 ครั้ง
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา

เปิดอ่าน 50,007 ครั้ง
กรณีตัวอย่างการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ
กรณีตัวอย่างการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ

เปิดอ่าน 146,037 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7

เปิดอ่าน 30,557 ครั้ง
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
เปิดอ่าน 12,433 ครั้ง
มาจัดโครงการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในองค์กรกัน
มาจัดโครงการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในองค์กรกัน
เปิดอ่าน 1,696 ครั้ง
ความหมายของรังสี กัมมันตภาพรังสี และธาตุกัมมันตรังสี
ความหมายของรังสี กัมมันตภาพรังสี และธาตุกัมมันตรังสี
เปิดอ่าน 36,663 ครั้ง
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เปิดอ่าน 24,535 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ