การจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการท างานของ
สมองค านึงถึงการพัฒนาสมองทั้งสองซีกเพื่อให้นักเรียนแต่ละแบบได้้เรียนรู้อย่างสมดุล แบ่งนักศึกษาตาม
ธรรมชาติของนักเรียน 4 แบบ ตามลักษณะการรับรู้และกระบวนการเรียนรู้ได้แก่ นักศึกษาที่ถนัดใช้
จินตนาการ นักศึกษาที่ถนัดการวิเคราะห์ นักเรียนที่ถนัดใช้สามัญส านึก และนักเรียนที่สนใจค้นพบความรู้ด้วย
ตนเองผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง 8 ขั้นตอนสัมพันธ์การเคลื่อนไหวและภาพรวม สอดคล้องกับการ
จัดการเรียนรู้แบบ 4MAT ความสนใจ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สามารถในท าให้นักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการ
สร้างชิ้นงานได้
ดั้งนั้นการน าการจัดการเรียนรู้แบบ 4MAT มาใช้ในการพัฒนาทักษะการเขียนสร้างสรรค์ย่อมจะเป็น
แนวทางในการส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ของตนในการเขียน ซึ่งเมื่อได้รับการการอย่าง
ต่อเนื่องท าให้เกิด การพัฒนาความสามารถในการเขียนสร้างสรรค์ที่ดียิ่งขึ้นการสอนวิธีนี้จัดการเรียนรู้วิชา
เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพิ่มขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มีความเชื่อมมั่นในตนเองและความสามารถในการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่ออีกด้วย
การจัดท าแผนการเรียนการสอนที่มีการจัดรูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ โดยน าขั้นตอนของ
รูปแบบข้างต้นมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในวิชาหลักพืชกรรม โดยเจาะลึกไปในส่วนของเรื่อง
การขยายพันธุ์พืช การตอนกิ่ง หัวข้อในการจัดการเรียนรู้นี้ สามารถน าเอารูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ
มาใช้ได้เป็นอย่างดี โดยมีการศึกษา ทดลอง เน้นการปฏิบัติ สรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ รวมไปถึงการประเมินผล
การเรียนรู้ที่เกิดในชั้นเรียนของตัวผู้เรียนเอง โดยเชื่อว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนั้นมีแนวโน้มที่จะพัฒนาสูงขึ้น
และนอกจากนี้ยังพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ ให้เกิดแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนที่รับผิดชอบ
การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เป็นกระบวนการแก้ปัญหาส่วนร่วมระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนอย่าง
แท้จริงที่ตอบสนองการเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมาย
ที่ส าคัญคือ การพัฒนาผู้เรียนมุ่งแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาที่เกิดจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียนเป็นครั้ง
ๆ ไป เป็นการวิจัยปัญหาของผู้เรียนในชั้นเรียนของตนเอง เพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอนเฉพาะชั้นเรียนนั้น ๆ2
การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คือ การวิจัยที่ท าโดยครูผู้สอนในชั้นเรียน เพื่อแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น
ในชั้นเรียนและน าผลมาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอนหรือส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ดียิ่งขึ้น
เป็นการวิจัยที่ต้องท าอย่างรวดเร็วน าผลไปใช้ทันทีและมีการสะท้อนข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ กับ
กลุ่มเพื่อนร่วมงานในโรงเรียนวิพากษ์ อภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแนวทางที่ได้ปฏิบัติและผลที่ เกิดขึ้นเพื่อ
พัฒนาการเรียนรู้ทั้งครูและผู้เรียน การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนสามารถท าได้ในลักษณะ การวิจัยเชิง
ปฏิบัติการ
การวิจัยเชิงปฏิบัติ หมายถึง กระบวนการศึกษาค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานหรือ
เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามที่ต้องการโดยผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้ด าเนินการวิจัยใน
สถานที่ที่ตนเองปฏิบัติอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่แท้จริงเมื่อน าการวิจัยเชิงปฏิบัติมาใช้กับการ
เรียนการสอนจึงเรียกการวิจัยเชิงปฏิบัติว่า การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน หรือการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการ
สอนซึ่งเป็นการศึกษาค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติการสอนของครูหรือเพื่อปรับปรุงและ
พัฒนาการปฏิบัติการสอนให้บรรลุผลตามที่ต้องการ โดยครูผู้สอนเป็นผู้ด าเนินการวิจัยในชั้นเรียนที่ตนเอง
ปฏิบัติการสอนอยู่ การวิจัยเชิงปฏิบัติเกิดขึ้นตามแนวคิดของ Kurt Lewin นักจิตวิทยาสังคม ชาวอเมริกันเมื่อ
ประมาณปี ค.ศ. 1946 ได้รับการยอมรับและน าไปใช้อย่างกว้างขวางในการพัฒนา ปรับปรุงการปฏิบัติงาน ใน
องค์กรและชุมชนต่าง ๆ โดยเฉพาะในวงการศึกษาได้มีการน าการวิจัยเชิงปฏิบัติไปใช้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจใน
เรื่องของการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น การพัฒนาวิชาชีพครูการพัฒนาและเสริมสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์
ของนักเรียนและครู
ผู้วิจัยจึงได้น าการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT มาใช้ในการพัฒนาทักษะการเขียนสร้างสรรค์ เพราะการ
สอนวิธีนี้ช่วยให้นักเรียนสามารถสร้างความรู้ด้วยตนเอง ได้ลงมือปฏิบัติ สามารถสร้างผลงานจากความคิด
สร้างสรรค์ของตนเองและได้พัฒนาทักษะและกระบวนการต่างๆ อีกทั้งการจัดการเรียนรู้แบบนี้ยังตอบโจทย์
กับวิธีปฏิบัติเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยน ามาใช้เพื่อพัฒนาความสามารถในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
และเจตคติต่อการเรียนของนักศึกษา ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเกษตรและ
เทคโนโลยีเพชรบุรี ทั้งนี้เพื่อนพัฒนา ผลการวิจัยดังกล่าวไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียน
การสอนเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
อภิปรายผล
ขั้นที่1 สร้างประสบการณ์ เป็นเป็นขั้นตอนที่นักศึกษา จะได้ใช้ประสบการณ์เชื่อมโยงกับสิ่งที่ได้อ่าน
ดูหรือสิ่งที่ครูผู้สอน ซักถาม เช่น การดูวีดิทัศน์การเพาเละขยายพันธุ์เนื้อเยื่อ และการสังเกตการปฏิบัติของ
ครูผู้สอน ท าให้นักศึกษารู้สึกว่า สิ่งที่เรียนมีความหมายกับตัวเองเกี่ยวข้องกับตนเองเป็นขั้นที่เน้นการใช้สมอง
ซีกขวา
ขั้นที่ 2 ครูวิเคราะห์ประสบการณ์ เป็นขั้นตอนที่กระตุ้นให้นักศึกษาได้วิเคราะห์โดยแสดงความเห็น
ของตนเองจากประสบการณ์ที่นักศึกษามีอยู่ เช่นการสังเกตจากการปฏิบัติของเพื่อนในห้องเรียน การแยก
ส่วนประกอบต่างๆของชั้นส่วนของพืชเป็นขั้นในส่วนที่ใช้สมองซีกซ้าย ท าให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลอย่าง
ไตร่ตรองมาสู่การคิดรวบยอด
ขั้นที่ 3 ปรับประสบการณ์ความคิดรวบยอด เป็นขั้นที่ช่วยให้นักศึกษาวิเคราะห์และไตร่ตรองความรู้ที่
ได้รับจากขั้นที่ 1 ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่นการเขียนความหมายประวัติความเป็นมาของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ท าให้
นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์อภิปราย เป็นกิจกรรมที่ท าให้นักศึกษาวิเคราะห์ท าแล้วสามารถสร้างความคิดรวบยอด
เป็นของตนเอง
ขั้นที่ 4 พัฒนาความคิดรวบยอดเป็นขั้นของการปฏิบัติโดยละเอียด เพื่อนให้นักศึกษาสามารถเข้าใจ
จนสร้างความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนได้ เช่น การให้นักศึกษาศึกษาใบความรู้ด้วยตนเอง และเป็นการสร้าง
จากความคิดรวบยอดสู่การลงมือปฏิบัติด้วยความคิดของนักศึกษาเอง
ขั้นที่ 5 การปฏิบัติตามความคิดที่ก าหนด ขั้นนี้นักศึกษาจะท าตามสิ่งที่ครูก าหนดให้ โดยใช้ความคิด
รวบยอดจากขั้นที่ 4 เช่นการท าใบงาน การปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 5
ขั้นที่ 6 การสร้างสรรค์ผลงาน เป็นขั้นของการบูรณาการและสร้างสรรค์อย่างแท้จริงเพราะเป็นขั้นที่
นักศึกษาได้ปฏิบัติสิ่งที่เรียนมาทั้งหมด ให้เกิดความถนัดและความเข้าใจ เช่นการปฏิบัติต่างๆในการเพาะเลี้ยง
เนื้อเยื่อ ท าให้เกิดผลงานที่เกิดขึ้นจากการลงมือท าด้วยตนเอง
ขั้นที่ 7วิเคราะห์ผลงาน เป็นขั้นตอนที่นักศึกษาวิเคราะห์ผลงานของตนเองและเป็นการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้จากการเรียนรู้เพื่อนๆในกลุ่ม
ขั้นที่ 8แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นขั้นที่ให้นักเรียนได้มีโอกาสแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ ที่ได้รับ
จากการค้นคว้าหรือการลงมือกระท าร่วมกับอื่นๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่นการน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ท าให้
แนวทางในการปรับปรุงงานของตนเองให้ดีขั้น
จากการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT ทั้ง 8 ขั้นตอนนี้ซึ่งในแต่ละขั้นตอนจะส่งเสริมให้นักเรียนเกิด
ความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ ได้น าความรู้จากประสบการณ์เดิมมาเรียบเรียงล าดับความคิดให้
ต่อเนื่องกัน และได้แสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ของตนเองอย่างชัดเจนนั้น ที่ 6 สร้างชิ้นงานตามความ
ถนัด/ความสนใจ ท าให้นักศึกษาได้เรียนตามความถนัดของตนเอง สอดคล้องกับศักดิ์ชัย นิรัญทวี(2542, น.24)
ที่กล่าวว่า นักศึกษาได้การเรียนรู้ผ่านกระบวนการกลุ่ม ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหานักเรียนได้แลกเปลี่ยน
ประสบการณ์กับ เพื่อนทั้งในกลุ่ม ระหว่างกลุ่ม นักศึกษาเกิดความสุขกับการเรียน ซึ่งนักศึกษาแต่ละคนมี
ลักษณะการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน บางคนเข้าใจดีได้จากการอธิบายของครู บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือท า
แบบฝึกหัด บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทา นอกจากนั้นนักศึกษา แต่ละคนยังมีความถนัดที่แตกต่างกัน
บางคนถนัดด้านการพูดนา เสนอ ด้านการเขียน ด้านการวาดภาพ นักเรียนจึงได้แบ่งงานกันท า ตามความถนัด
ของตนเอง ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ตนถนัด ขณะเดียวกันก็รู้สึกท้าทายในกิจกรรมที่ตนเองไม่ถนัดผสานกันไป
แต่ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ ท าให้ไม่เกิดเกิดความเบื่อหน่าย นักศึกษาแสดงความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ ได้สรุป
การเรียนรู้ด้วยตนเอง แสดงความคิดเห็นต่อผลงานของกลุ่มเพื่อน เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้เกิดการพัฒนา ผลงาน
ของตนเองมากขึ้น เกิดความภาคภูมิใจในตนเองและผลงานของตนเอง เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้การเขียนผ่าน
กระบวนการที่เป็นล าดับขั้นตอน เกิดความเชื่อมน มีแรงจูงใจที่ดีในการเรียนและได้ฝึกอย่างต่อเนื่องจึงทา ให้
เกิดการพัฒนาความสามารถในการเขียนสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นโดยมีครูคอยเป็นผู้อ านวยความสะดวกในการให้
ค าแนะน า และสนับสนุนให้กิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยของ ส าราญ บุญธรรม (2550,
น.91)