ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการใช้การจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT เพื่อพัฒนาความสามารถทักษะและเจตคติต่อการเรียนวิชา เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของผู้เรียน ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้น

การจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการท างานของ

สมองค านึงถึงการพัฒนาสมองทั้งสองซีกเพื่อให้นักเรียนแต่ละแบบได้้เรียนรู้อย่างสมดุล แบ่งนักศึกษาตาม

ธรรมชาติของนักเรียน 4 แบบ ตามลักษณะการรับรู้และกระบวนการเรียนรู้ได้แก่ นักศึกษาที่ถนัดใช้

จินตนาการ นักศึกษาที่ถนัดการวิเคราะห์ นักเรียนที่ถนัดใช้สามัญส านึก และนักเรียนที่สนใจค้นพบความรู้ด้วย

ตนเองผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง 8 ขั้นตอนสัมพันธ์การเคลื่อนไหวและภาพรวม สอดคล้องกับการ

จัดการเรียนรู้แบบ 4MAT ความสนใจ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สามารถในท าให้นักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการ

สร้างชิ้นงานได้

ดั้งนั้นการน าการจัดการเรียนรู้แบบ 4MAT มาใช้ในการพัฒนาทักษะการเขียนสร้างสรรค์ย่อมจะเป็น

แนวทางในการส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ของตนในการเขียน ซึ่งเมื่อได้รับการการอย่าง

ต่อเนื่องท าให้เกิด การพัฒนาความสามารถในการเขียนสร้างสรรค์ที่ดียิ่งขึ้นการสอนวิธีนี้จัดการเรียนรู้วิชา

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพิ่มขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มีความเชื่อมมั่นในตนเองและความสามารถในการเพาะเลี้ยง

เนื้อเยื่ออีกด้วย

การจัดท าแผนการเรียนการสอนที่มีการจัดรูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ โดยน าขั้นตอนของ

รูปแบบข้างต้นมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในวิชาหลักพืชกรรม โดยเจาะลึกไปในส่วนของเรื่อง

การขยายพันธุ์พืช การตอนกิ่ง หัวข้อในการจัดการเรียนรู้นี้ สามารถน าเอารูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ

มาใช้ได้เป็นอย่างดี โดยมีการศึกษา ทดลอง เน้นการปฏิบัติ สรุปผลการเรียนรู้ที่ได้ รวมไปถึงการประเมินผล

การเรียนรู้ที่เกิดในชั้นเรียนของตัวผู้เรียนเอง โดยเชื่อว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนั้นมีแนวโน้มที่จะพัฒนาสูงขึ้น

และนอกจากนี้ยังพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ ให้เกิดแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนที่รับผิดชอบ

การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน เป็นกระบวนการแก้ปัญหาส่วนร่วมระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนอย่าง

แท้จริงที่ตอบสนองการเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมาย

ที่ส าคัญคือ การพัฒนาผู้เรียนมุ่งแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาที่เกิดจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียนเป็นครั้ง

ๆ ไป เป็นการวิจัยปัญหาของผู้เรียนในชั้นเรียนของตนเอง เพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอนเฉพาะชั้นเรียนนั้น ๆ2

การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คือ การวิจัยที่ท าโดยครูผู้สอนในชั้นเรียน เพื่อแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น

ในชั้นเรียนและน าผลมาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอนหรือส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ดียิ่งขึ้น

เป็นการวิจัยที่ต้องท าอย่างรวดเร็วน าผลไปใช้ทันทีและมีการสะท้อนข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ กับ

กลุ่มเพื่อนร่วมงานในโรงเรียนวิพากษ์ อภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแนวทางที่ได้ปฏิบัติและผลที่ เกิดขึ้นเพื่อ

พัฒนาการเรียนรู้ทั้งครูและผู้เรียน การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนสามารถท าได้ในลักษณะ การวิจัยเชิง

ปฏิบัติการ

การวิจัยเชิงปฏิบัติ หมายถึง กระบวนการศึกษาค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานหรือ

เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามที่ต้องการโดยผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้ด าเนินการวิจัยใน

สถานที่ที่ตนเองปฏิบัติอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่แท้จริงเมื่อน าการวิจัยเชิงปฏิบัติมาใช้กับการ

เรียนการสอนจึงเรียกการวิจัยเชิงปฏิบัติว่า การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน หรือการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการ

สอนซึ่งเป็นการศึกษาค้นคว้าเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติการสอนของครูหรือเพื่อปรับปรุงและ

พัฒนาการปฏิบัติการสอนให้บรรลุผลตามที่ต้องการ โดยครูผู้สอนเป็นผู้ด าเนินการวิจัยในชั้นเรียนที่ตนเอง

ปฏิบัติการสอนอยู่ การวิจัยเชิงปฏิบัติเกิดขึ้นตามแนวคิดของ Kurt Lewin นักจิตวิทยาสังคม ชาวอเมริกันเมื่อ

ประมาณปี ค.ศ. 1946 ได้รับการยอมรับและน าไปใช้อย่างกว้างขวางในการพัฒนา ปรับปรุงการปฏิบัติงาน ใน

องค์กรและชุมชนต่าง ๆ โดยเฉพาะในวงการศึกษาได้มีการน าการวิจัยเชิงปฏิบัติไปใช้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจใน

เรื่องของการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น การพัฒนาวิชาชีพครูการพัฒนาและเสริมสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์

ของนักเรียนและครู

ผู้วิจัยจึงได้น าการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT มาใช้ในการพัฒนาทักษะการเขียนสร้างสรรค์ เพราะการ

สอนวิธีนี้ช่วยให้นักเรียนสามารถสร้างความรู้ด้วยตนเอง ได้ลงมือปฏิบัติ สามารถสร้างผลงานจากความคิด

สร้างสรรค์ของตนเองและได้พัฒนาทักษะและกระบวนการต่างๆ อีกทั้งการจัดการเรียนรู้แบบนี้ยังตอบโจทย์

กับวิธีปฏิบัติเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยน ามาใช้เพื่อพัฒนาความสามารถในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

และเจตคติต่อการเรียนของนักศึกษา ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเกษตรและ

เทคโนโลยีเพชรบุรี ทั้งนี้เพื่อนพัฒนา ผลการวิจัยดังกล่าวไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียน

การสอนเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

อภิปรายผล

ขั้นที่1 สร้างประสบการณ์ เป็นเป็นขั้นตอนที่นักศึกษา จะได้ใช้ประสบการณ์เชื่อมโยงกับสิ่งที่ได้อ่าน

ดูหรือสิ่งที่ครูผู้สอน ซักถาม เช่น การดูวีดิทัศน์การเพาเละขยายพันธุ์เนื้อเยื่อ และการสังเกตการปฏิบัติของ

ครูผู้สอน ท าให้นักศึกษารู้สึกว่า สิ่งที่เรียนมีความหมายกับตัวเองเกี่ยวข้องกับตนเองเป็นขั้นที่เน้นการใช้สมอง

ซีกขวา

ขั้นที่ 2 ครูวิเคราะห์ประสบการณ์ เป็นขั้นตอนที่กระตุ้นให้นักศึกษาได้วิเคราะห์โดยแสดงความเห็น

ของตนเองจากประสบการณ์ที่นักศึกษามีอยู่ เช่นการสังเกตจากการปฏิบัติของเพื่อนในห้องเรียน การแยก

ส่วนประกอบต่างๆของชั้นส่วนของพืชเป็นขั้นในส่วนที่ใช้สมองซีกซ้าย ท าให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลอย่าง

ไตร่ตรองมาสู่การคิดรวบยอด

ขั้นที่ 3 ปรับประสบการณ์ความคิดรวบยอด เป็นขั้นที่ช่วยให้นักศึกษาวิเคราะห์และไตร่ตรองความรู้ที่

ได้รับจากขั้นที่ 1 ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่นการเขียนความหมายประวัติความเป็นมาของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ท าให้

นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์อภิปราย เป็นกิจกรรมที่ท าให้นักศึกษาวิเคราะห์ท าแล้วสามารถสร้างความคิดรวบยอด

เป็นของตนเอง

ขั้นที่ 4 พัฒนาความคิดรวบยอดเป็นขั้นของการปฏิบัติโดยละเอียด เพื่อนให้นักศึกษาสามารถเข้าใจ

จนสร้างความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนได้ เช่น การให้นักศึกษาศึกษาใบความรู้ด้วยตนเอง และเป็นการสร้าง

จากความคิดรวบยอดสู่การลงมือปฏิบัติด้วยความคิดของนักศึกษาเอง

ขั้นที่ 5 การปฏิบัติตามความคิดที่ก าหนด ขั้นนี้นักศึกษาจะท าตามสิ่งที่ครูก าหนดให้ โดยใช้ความคิด

รวบยอดจากขั้นที่ 4 เช่นการท าใบงาน การปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 5

ขั้นที่ 6 การสร้างสรรค์ผลงาน เป็นขั้นของการบูรณาการและสร้างสรรค์อย่างแท้จริงเพราะเป็นขั้นที่

นักศึกษาได้ปฏิบัติสิ่งที่เรียนมาทั้งหมด ให้เกิดความถนัดและความเข้าใจ เช่นการปฏิบัติต่างๆในการเพาะเลี้ยง

เนื้อเยื่อ ท าให้เกิดผลงานที่เกิดขึ้นจากการลงมือท าด้วยตนเอง

ขั้นที่ 7วิเคราะห์ผลงาน เป็นขั้นตอนที่นักศึกษาวิเคราะห์ผลงานของตนเองและเป็นการแลกเปลี่ยน

เรียนรู้จากการเรียนรู้เพื่อนๆในกลุ่ม

ขั้นที่ 8แลกเปลี่ยนความรู้ เป็นขั้นที่ให้นักเรียนได้มีโอกาสแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ ที่ได้รับ

จากการค้นคว้าหรือการลงมือกระท าร่วมกับอื่นๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่นการน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ท าให้

แนวทางในการปรับปรุงงานของตนเองให้ดีขั้น

จากการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT ทั้ง 8 ขั้นตอนนี้ซึ่งในแต่ละขั้นตอนจะส่งเสริมให้นักเรียนเกิด

ความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ ได้น าความรู้จากประสบการณ์เดิมมาเรียบเรียงล าดับความคิดให้

ต่อเนื่องกัน และได้แสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ของตนเองอย่างชัดเจนนั้น ที่ 6 สร้างชิ้นงานตามความ

ถนัด/ความสนใจ ท าให้นักศึกษาได้เรียนตามความถนัดของตนเอง สอดคล้องกับศักดิ์ชัย นิรัญทวี(2542, น.24)

ที่กล่าวว่า นักศึกษาได้การเรียนรู้ผ่านกระบวนการกลุ่ม ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหานักเรียนได้แลกเปลี่ยน

ประสบการณ์กับ เพื่อนทั้งในกลุ่ม ระหว่างกลุ่ม นักศึกษาเกิดความสุขกับการเรียน ซึ่งนักศึกษาแต่ละคนมี

ลักษณะการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน บางคนเข้าใจดีได้จากการอธิบายของครู บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือท า

แบบฝึกหัด บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทา นอกจากนั้นนักศึกษา แต่ละคนยังมีความถนัดที่แตกต่างกัน

บางคนถนัดด้านการพูดนา เสนอ ด้านการเขียน ด้านการวาดภาพ นักเรียนจึงได้แบ่งงานกันท า ตามความถนัด

ของตนเอง ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ตนถนัด ขณะเดียวกันก็รู้สึกท้าทายในกิจกรรมที่ตนเองไม่ถนัดผสานกันไป

แต่ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ ท าให้ไม่เกิดเกิดความเบื่อหน่าย นักศึกษาแสดงความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ ได้สรุป

การเรียนรู้ด้วยตนเอง แสดงความคิดเห็นต่อผลงานของกลุ่มเพื่อน เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้เกิดการพัฒนา ผลงาน

ของตนเองมากขึ้น เกิดความภาคภูมิใจในตนเองและผลงานของตนเอง เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้การเขียนผ่าน

กระบวนการที่เป็นล าดับขั้นตอน เกิดความเชื่อมน มีแรงจูงใจที่ดีในการเรียนและได้ฝึกอย่างต่อเนื่องจึงทา ให้

เกิดการพัฒนาความสามารถในการเขียนสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นโดยมีครูคอยเป็นผู้อ านวยความสะดวกในการให้

ค าแนะน า และสนับสนุนให้กิจกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยของ ส าราญ บุญธรรม (2550,

น.91)

โพสต์โดย KRUTEE : [1 พ.ค. 2564 เวลา 12:43 น.]
อ่าน [2998] ไอพี : 182.53.137.54
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,995 ครั้ง
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย
เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของสาวเอเชีย

เปิดอ่าน 53,183 ครั้ง
เปรียบเทียบการหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(ฉบับปรับปรุง) กับหลักสูตรปัจจุบัน
เปรียบเทียบการหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(ฉบับปรับปรุง) กับหลักสูตรปัจจุบัน

เปิดอ่าน 35,054 ครั้ง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง

เปิดอ่าน 35,773 ครั้ง
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 11,104 ครั้ง
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย

เปิดอ่าน 13,367 ครั้ง
คนแห่ขอยา "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งฟรี ยอดพุ่ง 30 เท่าต่อวัน
คนแห่ขอยา "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งฟรี ยอดพุ่ง 30 เท่าต่อวัน

เปิดอ่าน 40,768 ครั้ง
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม

เปิดอ่าน 11,869 ครั้ง
เคี้ยวมาก สุขภาพดี
เคี้ยวมาก สุขภาพดี

เปิดอ่าน 12,512 ครั้ง
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน
ชีวิตยิ่งใช้ ยิ่งได้กำไรกลับคืน

เปิดอ่าน 16,753 ครั้ง
สุดยอดโปรแกรมตรวจสอบสเปคคอมพิวเตอร์ ปี 2012
สุดยอดโปรแกรมตรวจสอบสเปคคอมพิวเตอร์ ปี 2012

เปิดอ่าน 14,519 ครั้ง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง
"พรมมิ" วัชพืชบำรุงสมอง

เปิดอ่าน 81,755 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม

เปิดอ่าน 17,462 ครั้ง
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ
กฏ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูฯออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 10,907 ครั้ง
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 10,432 ครั้ง
ฝังเข็มที่ใบหู ลดน้ำหนักได้
ฝังเข็มที่ใบหู ลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 12,184 ครั้ง
การค้ำประกันสัญญาอนุญาตให้ ขรก.ลาศึกษาต่อ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ ฉบับใหม่
การค้ำประกันสัญญาอนุญาตให้ ขรก.ลาศึกษาต่อ ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ ฉบับใหม่
เปิดอ่าน 8,778 ครั้ง
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม
เปิดอ่าน 16,258 ครั้ง
เรียนคณิต ใครว่ายาก
เรียนคณิต ใครว่ายาก
เปิดอ่าน 48,741 ครั้ง
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู
เปิดอ่าน 18,501 ครั้ง
การกัวซาบำบัดโรค
การกัวซาบำบัดโรค

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ