ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค : Facebook) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค : Facebook) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ก่อนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเมืองพัทยา 3 (วัดสว่างฟ้าพฤฒาราม) จำนวน 33 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค : Facebook) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้แก่ ชุดฝึกทักษะ จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) จำนวน 16 แผน และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที แบบไม่อิสระต่อกัน

ผลการศึกษา พบว่า

1. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค : Facebook) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 คือมีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.89/81.52

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนผ่านการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค : Facebook) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 8.21 และคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.30

3. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค เอส.ที.เอ.ดี.(STAD) ร่วมกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค : Facebook) เพื่อเสริมสร้างทักษะการแก้โจทย์อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้เรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย ตั้งแต่ 4.61-4.97 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตั้งแต่ 0.17-0.64

โพสต์โดย โสภา งามสุวรรณ์ : [22 เม.ย. 2564 เวลา 07:05 น.]
อ่าน [4783] ไอพี : 184.22.137.222
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,431 ครั้ง
เลค ฮิลเลอร์ ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย
เลค ฮิลเลอร์ ทะเลสาบสีชมพู ประเทศออสเตรเลีย

เปิดอ่าน 48,472 ครั้ง
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน

เปิดอ่าน 26,802 ครั้ง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง

เปิดอ่าน 36,002 ครั้ง
7-11 สาขาแรกอยู่ที่ไหน
7-11 สาขาแรกอยู่ที่ไหน

เปิดอ่าน 12,832 ครั้ง
6 วิธีแก้เครียด
6 วิธีแก้เครียด

เปิดอ่าน 26,772 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'

เปิดอ่าน 34,144 ครั้ง
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ

เปิดอ่าน 16,789 ครั้ง
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้

เปิดอ่าน 90,001 ครั้ง
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์

เปิดอ่าน 1,778 ครั้ง
การเรียนการสอนแบบ e-Learning
การเรียนการสอนแบบ e-Learning

เปิดอ่าน 6,250 ครั้ง
"#TikTokUni" ยกระดับการเรียนรู้ สู่การพัฒนาตนเองของคน Genใหม่
"#TikTokUni" ยกระดับการเรียนรู้ สู่การพัฒนาตนเองของคน Genใหม่

เปิดอ่าน 19,038 ครั้ง
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?
สาวไส้ความง่อยเปลี้ยระบบศึกษาไทย ใครอยู่เบื้องหลังความเหวอะหวะซ้ำซาก?

เปิดอ่าน 21,028 ครั้ง
ประวัติกระดาษห่อลูกอมฮาร์ตบีท
ประวัติกระดาษห่อลูกอมฮาร์ตบีท

เปิดอ่าน 37,464 ครั้ง
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่
เด็กๆ ควรใช้นิ้วมือในการนับเลขหรือไม่

เปิดอ่าน 14,328 ครั้ง
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?
ทำไมแบตเตอรี่มีอายุสั้นลง?

เปิดอ่าน 18,912 ครั้ง
ความรู้เรื่องเมืองสยาม
ความรู้เรื่องเมืองสยาม
เปิดอ่าน 69,734 ครั้ง
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
เปิดอ่าน 28,444 ครั้ง
รวมวิธีการใช้งาน Google Plus สำหรับผู้เริ่มต้น
รวมวิธีการใช้งาน Google Plus สำหรับผู้เริ่มต้น
เปิดอ่าน 8,042 ครั้ง
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน
รัฐบาลทำงานอย่างไร? จึงจะถูกใจประชาชน
เปิดอ่าน 24,261 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ