|
|
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพและความต้องการในการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับชั้นมัธยมศึกษาและ 3) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับชั้นมัธยมศึกษา วิธีดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเลือกเจาะจงจากครูผู้สอนที่มีประสบการณ์การสอนนักเรียนโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ มาแล้วอย่างน้อย 3 ปี จำนวน 10 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่มีความเข้าใจภาษามือเป็นอย่างดี จำนวน 10 คน ระยะที่ 2 เลือกเจาะจงจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครูผู้สอน ที่มีประสบการณ์ด้านพลศึกษาอย่างน้อย 5 ปี จำนวน 20 คน ระยะที่ 3 เลือกแบบเจาะจงจากนักเรียนที่มีผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายอยู่ในระดับต่ำลงไปและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษา จำนวน 31 คน และผู้ปกครองของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 31 คน เครื่องมือ ประกอบด้วย 1) แนวคำถามสนทนากลุ่มครูและนักเรียน 2) แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายตามมาตรฐานสุขภาพของเด็กไทย อายุ 13-18 ปี 3) แบบสอบถามความเป็นไปได้ในการนำร่างรูปแบบฯและร่างคู่มือไปใช้ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติขั้นพื้นฐาน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบที (t - test for dependent Samples) และวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษา ดังนี้
1. สภาพและความต้องการในการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ พบว่า ด้านสภาพ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาอยู่ในช่วงวัยที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวพัฒนาสมรรถภาพทางกาย การหายใจและกล้ามเนื้อแข็งแรงปัญหาคือ นักเรียนมีกิจกรรมการเคลื่อนไหวน้อย สมรรถภาพทางกายต่ำว่าเกณฑ์มาตรฐาน ขาดรูปแบบการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษา ด้านความต้องการ คือ มีรูปแบบการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษา มีการสนับสนุนสื่อ อุปกรณ์ และมีผู้ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนสอดคล้องความต้องการของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา
2. รูปแบบการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับชั้นมัธยมศึกษา มี 3 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการและจุดมุ่งหมายของรูปแบบ ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย หลักการและแนวคิดพื้นฐาน 2) ขั้นตอนการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ได้แก่ 2.1) สำรวจและวิเคราะห์ความต้องการในการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาฯ 2.2) ประชุมครูผู้สอนและวางแผนส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาฯ 2.3) จัดเตรียมสื่อ อุปกรณ์ แหล่งเรียนรู้ จัดทำตารางการดำเนินงาน แนะนำบทบาทของผู้เกี่ยวข้องและประสานผู้เกี่ยวข้อง 2.4) ดำเนินการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาตามแผน 2.5) ประเมินและรายงานผล 3) ระบบสนับสนุน 4 ประการ ได้แก่ 3.1) จัดงบประมาณสนับสนุนตามความต้องการจำเป็น 3.2) จัดหาอุปกรณ์ออกกำลังกาย เล่นกีฬา สนาม เพียงพอและเหมาะสม 3.3) เพิ่มเวลาในการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษา 3.4) กำหนดบทบาทผู้เกี่ยวข้อง โดยรูปแบบฯและคู่มือการใช้รูปแบบการส่งเสริมศักยภาพสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ มีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ =4.66, S.D. =.11) และ ( x̄=4.56, S.D. =.12) ตามลำดับ
3. ประสิทธิผลผลของรูปแบบการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ระดับชั้นมัธยมศึกษาของโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ พบว่า ระดับสมรรถภาพทางกายของนักเรียน ประกอบด้วย ความอ่อนตัว ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อและความอดทนของระบบหัวใจ และไหลเวียนเลือดก่อนและหลังการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ .05 ทุกรายการทดสอบ นักเรียนและผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการส่งเสริมศักยภาพด้านพลศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ =4.70, S.D. =.21)
|
โพสต์โดย Por : [20 เม.ย. 2564 เวลา 17:54 น.] อ่าน [4611] ไอพี : 124.120.26.201
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 1,526 ครั้ง
| เปิดอ่าน 90,818 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,472 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,129 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,359 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,606 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,488 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,426 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,859 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,897 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,938 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,382 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,222 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,081 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,697 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 49,753 ครั้ง
| เปิดอ่าน 56,724 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,299 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,681 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,631 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|