บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ
1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์
3. เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนสุรวิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 35 คน
ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ที่เรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย 1 ส 30101 โรงเรียนสุรวิทยาคาร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 35 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลาก ใช้ระยะเวลาในการทดลอง 12 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่
(1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์
(2) ชุดกิจกรรมโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ชุด
(3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการการคิดวิเคราะห์
(4) แบบสอบถามความพึงพอใจในการเรียน
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t- test (Dependent Sample)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ผลการหาประสิทธิภาพ E1/E2 ชุดการสอนโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 35 คน มีประสิทธิภาพ 87.21/81.36
2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการสอน โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียน ( X-bar = 25.51 ,S.D =3.20 ) สูงกว่าก่อนเรียน ( X-bar = 18.66 , S.D = 1.86 ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดการสอนโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ พบว่ามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 ( X-bar = 4.52 ,S.D. = 5.09 ) ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด