ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน

โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563

ผู้รายงาน นางสาววิชุดา ไชยศรี

ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดกาหรำ

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2563

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 โดยใช้รูปแบบการประเมินของสตัฟเฟิลบีม (D.L.Stufflebeam’ s CIPP Model) เป็นกรอบแนวคิดในการประเมิน 4 ด้าน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ประเมินด้านปัจจัย ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตของโครงการ ประกอบด้วย 1) ระดับคุณภาพการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ 2) ความรับผิดชอบของนักเรียน ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อตนเอง รับผิดชอบต่อครอบครัว รับผิดชอบต่อเพื่อน รับผิดชอบต่อโรงเรียน และรับผิดชอบต่อหน้าที่พลเมือง 3) คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียนข้อที่ 1.2 ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผู้เรียน และ 4) ความพึงพอใจของนักเรียน คณะกรรมการดำเนินโครงการ ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีต่อโครงการฯ

โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 20 คน ประชากรที่เป็นคณะกรรมการดำเนินโครงการ จำนวน 9 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 20 คน และกลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ เป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 6 ฉบับ และบันทึกผลการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน ข้อ 1.2 ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวน 1 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่น แต่ละฉบับระหว่าง .93-.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูล

 

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและคณะกรรมการดำเนินโครงการ โดยประเมินใน 4 ประเด็น คือ ความต้องการจำเป็นในการดำเนินโครงการ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ความสอดคล้องของนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด และความเป็นไปได้ของโครงการ ก่อนการดำเนินโครงการโดยภาพรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมิน ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมินพบว่า ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ ค่าน้ำหนัก ร้อยละ 15 ผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินและทุกประเด็นตัวชี้วัดมีค่าเฉลี่ยสูงกว่า เกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการตามความคิดเห็นของคณะกรรมการดำเนินโครงการโดยประเมินใน 5 ประเด็น คือ ความพร้อมของบุคลากร ความเพียงพอของงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์และอาคารสถานที่ การบริหารจัดการ และหน่วยงานที่สนับสนุนโครงการ ก่อนการดำเนินโครงการโดยภาพรวม พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมินตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนักและเกณฑ์การประเมินพบว่าด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ ค่าน้ำหนัก ร้อยละ 15 ผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด โดยภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์ การประเมิน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการตามความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการดำเนินโครงการ และผู้ปกครอง โดยประเมินใน 4 ประเด็น คือ การวางแผน การดำเนินการจัดกิจกรรม การติดตามประเมินผล และการนำผลไปปรับปรุง ประเมินระหว่างการดำเนินการ โดยภาพรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมิน ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน พบว่า ด้านกระบวนการของโครงการค่าน้ำหนัก ร้อยละ 20 ผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมินและทุกประเด็นตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ โดยประเมินใน 4 ประเด็น ดังนี้

4.1 ระดับคุณภาพการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน คณะกรรมการดำเนินโครงการ และผู้ปกครอง โดยภาพรวม พบว่า ทุกกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมิน ตามประเด็นตัวชี้วัดค่า น้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน พบว่า ด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับระดับคุณภาพการ เสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ค่าน้ำหนัก ร้อยละ 10 ผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด โดย ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด พบว่า ทุกกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ความรับผิดชอบของนักเรียน โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการดำเนินโครงการ และผู้ปกครอง โดยประเมิน 5 ด้าน คือ ด้านความรับผิดชอบต่อตนเอง ด้านความรับผิดชอบต่อครอบครัว ด้านความรับผิดชอบต่อเพื่อน ด้านความรับผิดชอบต่อโรงเรียน และด้านความรับผิดชอบต่อหน้าที่พลเมือง โดยภาพรวมพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมินตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน พบว่า ด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับความรับผิดชอบของนักเรียน โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ค่าน้ำหนัก ร้อยละ 20 ผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด โดยภาพรวม และ ทุกประเด็นตัวชี้วัดพบว่า ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมี ค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียนข้อที่ 1.2 ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ค่าน้ำหนัก ร้อยละ 10 ผลการประเมินคุณภาพเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับดีเลิศ ร้อยละ 83.52 ได้คะแนน 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ความพึงพอใจในการดำเนินโครงการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยภาพรวมพบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากผ่านเกณฑ์การประเมิน สรุปผลการประเมิน ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนักและเกณฑ์การประเมินพบว่าด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับความพึงพอใจในการดำเนินโครงการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนวัดกาหรำ ปีการศึกษา 2563 ค่าน้ำหนัก ร้อยละ 10 ผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด โดยภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด พบว่าทั้งสี่กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน

 

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1.1 ควรนำผลการประเมินโครงการที่ได้เป็นข้อมูลในการวางแผน พัฒนากระบวนการดำเนินงาน โดยปรับปรุงกิจกรรมที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับต่ำ และส่งเสริมกิจกรรมที่อยู่ระดับดีให้ดียิ่งขึ้น

1.2 ผู้บริหาร และครู ควรมีวางแผนการดำเนินงานโครงการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายทราบและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืนต่อไป

1.3 โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการรายงานหน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เผยแพร่อย่างวงกว้าง และสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการเสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน อย่างต่อเนื่อง

2.ข้อเสนอแนะในการประเมิน/วิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรมีการประเมินโครงการที่มีลักษณะองค์รวมโดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิปป์ (CIPP Model) และควรมีการประเมินโครงการโดยประยุกต์ใช้รูปแบบอื่นๆ

2.2 ควรศึกษารูปแบบการพัฒนาการบริหารที่เสริมสร้างความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้กระบวนการที่หลากหลาย เพื่อเป็นแนวทางการนำกระบวนการสู่การปฏิบัติ

2.3 ควรมีการศึกษาวิจัยประเมินโครงการอื่นๆ ของโรงเรียนทุกโครงการ เพื่อให้ การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพ พัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา

โพสต์โดย วิชุดา ไชยศรี : [9 เม.ย. 2564 เวลา 10:15 น.]
อ่าน [3151] ไอพี : 113.53.4.4
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,584 ครั้ง
10 เคล็ดลับการถ่ายภาพสวย สำหรับมือสมัครเล่น
10 เคล็ดลับการถ่ายภาพสวย สำหรับมือสมัครเล่น

เปิดอ่าน 40,271 ครั้ง
ปลูกลีลาวดี อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม
ปลูกลีลาวดี อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 108,625 ครั้ง
แบบจำลองการคำนวนการเลื่อนขั้นเงินเดือน
แบบจำลองการคำนวนการเลื่อนขั้นเงินเดือน

เปิดอ่าน 29,513 ครั้ง
ต้นมันปู
ต้นมันปู

เปิดอ่าน 45,611 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 1,530 ครั้ง
"ขุนหลวงท้ายสระ" พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา
"ขุนหลวงท้ายสระ" พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา

เปิดอ่าน 12,152 ครั้ง
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้

เปิดอ่าน 9,984 ครั้ง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง

เปิดอ่าน 8,764 ครั้ง
คุณคิดว่าคอมพิวเตอร์เร็วขนาดไหน?
คุณคิดว่าคอมพิวเตอร์เร็วขนาดไหน?

เปิดอ่าน 16,853 ครั้ง
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้
3 โรค ที่กระเทียมสามารถป้องกันได้

เปิดอ่าน 15,361 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

เปิดอ่าน 9,256 ครั้ง
คลิปช้างกินไอโฟน
คลิปช้างกินไอโฟน

เปิดอ่าน 10,303 ครั้ง
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย

เปิดอ่าน 19,679 ครั้ง
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"
ตรรกะ ในแบบของ "ไอน์สไตน์"

เปิดอ่าน 11,500 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย

เปิดอ่าน 11,755 ครั้ง
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
เปิดอ่าน 13,950 ครั้ง
 16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล
16 พฤติการณ์ เข้าข่ายผู้เป็นอิทธิพล
เปิดอ่าน 12,290 ครั้ง
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?
เปิดอ่าน 38,632 ครั้ง
วันครู ประวัติวันครู ความเป็นมาวันครู ความหมายวันครู การจัดงานวันครู คำปฏิญาณตนของครู
วันครู ประวัติวันครู ความเป็นมาวันครู ความหมายวันครู การจัดงานวันครู คำปฏิญาณตนของครู
เปิดอ่าน 14,560 ครั้ง
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122
อ้างพบธาตุหนักที่สุดมีเลขอะตอม 122

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ