เรื่อง
การวัดเจตคติที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 ของนักเรียนโรงเรียนโนนสีดาวิทยา
ผู้วิจัย
นางสาววรรณภา ทำสุนา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
โดยได้รับความเห็นชอบจาก
ประธาน
( นายนิติพัฒ พินยะพงค์ )
ครูที่ปรึกษา
( นางส่องหล้า ทักษิณพิลา )
ประกาศคุณูปการ
การศึกษางานวิจัยในครั้งนี้ สำเร็จได้ด้วยความกรุณาจากนางส่องหล้า ทักษิณพิลา ครูที่ปรึกษา ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ ให้ความรู้ ความคิดให้คำแนะนำ คำปรึกษาตลอดจนการตรวจแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เป็นอย่างดี จนการศึกษาวิจัยในครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ ผู้วิจัยขอขอบคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้
ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการโรงเรียนโนนสีดาวิทยา คือ นายนิติพัฒน์ พินยะพงค์ ที่กรุณาให้ความอนุเคราะห์ ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ ความคิดที่มีประโยชน์ และอำนวยความสะดวกในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นอย่างดี และขอขอบใจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนโนนสีดาวิทยาทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการวิจัยและเก็บข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ จนกระทั่งการศึกษาวิจัยครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์
นางสาววรรณภา ทำสุนา
ผู้วิจัย
ชื่องานวิจัย การวัดเจตคติที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 2 ของนักเรียน โรงเรียนโนนสีดาวิทยา
ชื่อผู้วิจัย นางสาววรรณภา ทำสุนา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโนนสีดาวิทยา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 กลุ่มทดลองเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 17 คน โดยให้นักเรียนทำแบบสอบถามวัดเจตคติจำนวน 15 ข้อ ที่คณะผู้วิจัยได้สร้างขึ้น จำนวน 1 ฉบับ จากนั้นจึงทำการวิเคราะห์ผลคะแนนโดยใช้วิธีการหาค่าเฉลี่ย
ผลการศึกษาปรากฏว่า คะแนนเฉลี่ยของแบบสอบถามมีค่าเท่ากับ 3.86 ซึ่งแปลความได้ว่านักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
การวัดเจตคติที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมปีที่ 2
ของนักเรียนโรงเรียนโนนสีดาวิทยา
ความสำคัญและที่มา
ปัจจุบันการเรียนการสอนภาษาอังกฤษนับว่ามีความสำคัญมาก เนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย ทำให้การติดต่อกันระหว่างประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษอันเป็นภาษาสากล เพื่อนำมาใช้ในการติดต่อสื่อสาร และเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ ในด้านการศึกษา ภาษาอังกฤษได้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรให้นักเรียนได้เรียนรู้ ตั้งแต่ระดับประถม มัธยม ตลอดจนในระดับอุดมศึกษา ซึ่งจากวัตถุประสงค์ของหลักสูตรภาษาอังกฤษในปัจจุบัน นอกจากจะมีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถในการใช้ภาษา ทั้งเพื่อการศึกษาและการนำไปใช้ในชีวิต ประจำวันแล้ว ยังมีการมุ่งเน้นให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ เห็นประโยชน์และคุณค่าของภาษาอังกฤษอีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้ผู้วิจัยเห็นความสำคัญของของการมีเจตคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษของนักเรียน จึงได้จัดทำการวิจัยเพื่อวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาในการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษต่อไป
ทางเลือกที่คาดว่าจะแก้ปัญหา
จัดทำแบบสอบถามเพื่อวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษเพื่อนำผลจากการวิจัยมาเก็บเป็นข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาในการเรียนการสอน และเพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ เห็นประโยชน์และคุณค่าของภาษาอังกฤษ
จุดมุ่งหมาย
1. เพื่อวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
2. เพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับการแก้ปัญหาในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
ตัวแปรที่ศึกษา
1. แบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
2. ระดับคะแนนเฉลี่ยของแบบสอบถาม
กรอบแนวคิดในการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเจตคติของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโนนสีดาวิทยา ผู้วิจัยได้จัดทำแบบสอบถามเหื่อวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 15 ข้อ โดยใช้ข้อคำถามทั้ง 2 ประเภทคือ ประเภททางบวก และทางลบ และได้ทำการนำผลของแต่ละข้อคำถามมาหาค่าเฉลี่ย แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์และหาข้อสรุปพร้อมทั้งนำเสนอในรูปของตารางประกอบคำบรรยาย เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
2. ได้แนวทางในการแก้ปัญหาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
ขอบเขตของการวิจัย
ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการสร้างแบบสอบถามเพื่อวัดเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษโดยใช้ข้อคำถามทั้งประเภททางบวกและทางลบ จำนวน 15 ข้อ และได้กำหนดขอบเขตของการวิจัยไว้ดังนี้
1.ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือนักเรียนโรงเรียนโนนสีดาวิทยา ที่กำลัง
ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 17 คน
2. แบบสอบถามที่ใช้ในการศึกษา เป็นเป็นแบบสอบถามเพื่อวัดเจตคติของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษจำนวน 15 ข้อ ที่มีข้อคำถามประเภททางบวก 8 ข้อ และข้อคำถามประเภททางลบ 7 ข้อรวม 15 ข้อ
วิธีดำเนินการวิจัย
ระยะเวลาในการดำเนินงาน
1 ธันวาคม 2563 26 กุมภาพันธ์ 2564
วัน เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ
1 15 ธันวาคม 2563 - ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์ปัญหา
16-29 ธันวาคม 2563 - เขียนเค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน
- ศึกษาเทคนิคการสร้างแบบสอบถาม
- ออกแบบและสร้างแบบสอบถามที่จะใช้ในงานวิจัย
5 18 มกราคม 2564 - นักเรียนทำแบบสอบถาม ผู้วิจัยบันทึกข้อมูล
19 มกราคม 9 กุมภาพันธ์- 2564 - เก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยบันทึกข้อมูล
10 26 กุมภาพันธ์ 2564 - สรุปและอภิปรายผล
- จัดทำรูปเล่ม
เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัย
1. แบบสอบถามวัดเจตคติ
ขั้นตอนการดำเนินการ
ในการดำเนินการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจดจำคำศัพท์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเขียนคำศัพท์ และทำแบบฝึกหัดเกี่ยวกับคำศัพท์ คณะผู้วิจัยได้วางแผนการดำเนินการศึกษา สร้างแบบทดสอบ และแบบฝึกหัด โดยยึดคำศัพท์ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และได้ดำเนินการซึ่งมีรายละเอียดเป็นขั้นตอนดังนี้
1.ขั้นวิเคราะห์ ( Analysis)
1.1 วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียน การวิเคราะห์ผู้เรียนได้กำหนดไว้ดังนี้
ประชากร คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนโนนสีดาวิทยา มีจำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 17 คน
1.2 วิเคราะห์ทัศนคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยการหาค่าเฉลี่ย และระดับทัศนคติ
2. ขั้นออกแบบ (Design)
ผู้วิจัยดำเนินการสร้างแบบวัดเจตคติของนักเรียนต่อวิชาภาษาอังกฤษ โดยมีลำดับขั้นตอนการสร้างดังนี้
2.1 ศึกษาเทคนิคการสร้างแบบสอบถามวัดเจตคติจากเอกสารต่างๆ
2.2 สร้างแบบวัดเจตคติของนักเรียน ที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษจำนวน 15 ข้อ โดยใช้มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีการของ Likert ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือก 5 ข้อ โดยถือเกณฑ์น้ำหนักในการให้คะแนนตัวเลือกของข้อคำถามประเภทบวกและประเภทลบดังนี้ (บุญเรียง ขจรศิลป์, 2530)
ข้อคำถามประเภททางบวก
Favorable Statement ข้อคำถามประเภททางลบ
Unfavorable Statement
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ให้ 5 คะแนน
เห็นด้วย ให้ 4 คะแนน
ไม่แน่ใจ ให้ 3 คะแนน
ไม่เห็นด้วย ให้ 2 คะแนน
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ให้ 1 คะแนน
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ให้ 5 คะแนน
ไม่เห็นด้วย ให้ 4 คะแนน
ไม่แน่ใจ ให้ 3 คะแนน
เห็นด้วย ให้ 2 คะแนน
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ให้ 1 คะแนน
กำหนดเกณฑ์ในการคิดคะแนนเฉลี่ยของแบบสอบถามตามเกณฑ์ของ ศักดิ์ชัย เสรีรัฐ (2530) ดังนี้
ถ้าคะแนนเฉลี่ยมีค่าน้อยกว่า 1.55 แสดงว่ามีเจตคติที่ไม่ดีอย่างมากต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ถ้าคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 1.56 2.55 แสดงว่ามีเจตคติที่ไม่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ถ้าคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 2.56 3.55 แสดงว่ามีเจตคติปานกลางต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ถ้าคะแนนเฉลี่ยระหว่าง 3.56 4.55 แสดงว่ามีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ถ้าคะแนนเฉลี่ยมากกว่า 4.55 แสดงว่ามีเจตคติที่ดีอย่างมากต่อวิชาภาษาอังกฤษ
2.3 นำแบบวัดเจตคติที่สร้างขึ้นเสนอต่อที่ปรึกษางานวิจัย เพื่อตรวจสอบแก้ไข
2.4 นำแบบวัดเจตคติมาปรับปรุงแก้ไขก่อนนำไปใช้จริง
3. ขั้นดำเนินการ
ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้มีการดำเนินการดังนี้
3.1 นำแบบวัดเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนโนนสีดาวิทยา จำนวน 17 คน ทำเพื่อวัดเจตคติของนักเรียน และทำการบันทึกคะแนน
3.2 ดำเนินการหาค่าเฉลี่ยของแต่ละข้อคำถาม
3.3 ดำเนินการหาค่าเฉลี่ยของแบบสอบถามวัดเจตคติทั้งฉบับและเขียนสรุป
4. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
4.1 วิเคราะห์ข้อมูล
- วิเคราะห์ผลจากคะแนนที่ได้จากการทำแบบสอบถามวัดเจตคติ
4.2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
4.2.1 การหาค่าเฉลี่ย ( x )
( x ) = x
N
เมื่อ x = ค่าเฉลี่ย
X = คะแนนที่ได้
N = จำนวนนักเรียนทั้งหมด
= ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
5. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดเจตคติของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษเพื่อนำผลการวิจัยมาเก็บเป็นข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาในการเรียนการสอนและเพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ เห็นประโยชน์และคุณค่าของภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบสอบถามเพื่อวัดเจตคติของนักเรียนจำนวน 15 ข้อ โดยได้ทำการสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนโนนสีดาวิทยา จำนวน 17 คน ผู้วิจัยได้ทำวิจัยโดยให้นักเรียนทำแบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ โดยสามารถวิเคราะห์ผลได้ดังนี้
5.1 ผลการวิเคราะห์แบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ
ตาราง 1 แสดงผลการวิเคราะห์แบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ความคิดเห็นของนักเรียน
ค่าเฉลี่ย
1. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าสนใจ 3.76
2. ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 3.65
3. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย 4.00
4.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน 4.35
5.ข้าพเจ้าไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 3.88
6.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 4.47
7. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องใช้สมองมาก 2.94
8. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า 4.47
9. ข้าพเจ้ารู้สึกสดชื่นเมื่อทำงานวิชาภาษาอังกฤษ 3.65
10. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 3.71
11.วิชาภาษาอังกฤษทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3.47
12. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ง่าย 3.76
13. ภาษาอังกฤษช่วยในการประกอบอาชีพ 3.88
14. ภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ 4.12
15.ข้าพเจ้ามีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 3.76
รวม 57.88
เฉลี่ย 3.86
จากตาราง 1 แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ โดยเฉลี่ยจากแบบสอบถามทั้งหมดได้ 3.86 คะแนน
6. สรุปผลการศึกษาวิจัย
จากการศึกษาและวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ได้จากแบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียน แสดงให้เห็นว่า คะแนนเฉลี่ยของแบบสอบถามทั้ง 15 ข้อ เกี่ยวกับวิชาภาษาอังกฤษทั้งข้อคำถามประเภททางบวกและทางลบ มีค่าเท่ากับ 3.86 ซึ่งแปลความได้ว่านักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
7. อภิปรายผลการศึกษา
จากการสร้างแบบสอบถามวัดเจตคติชองนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในครั้งนี้สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้
1. พบว่านักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ ในระดับคะแนนเฉลี่ย 3.86 ซึ่งเป็นระดับคะแนนต้นๆ ของระดับเจตคติที่ดี ซึ่งจากการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของแต่ละข้อคำถามทั้งประเภททางบวกและทางลบพบว่า อาจมีผลมาจากการที่นักเรียนส่วนใหญ่เกิดความสับสนกับข้อคำถามที่เป็นข้อคำถามประเภททางลบ
8. ข้อเสนอแนะ
1. ในการสร้างแบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษ อาจเป็นในรูปของการสัมภาษณ์ หรือการให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นบ้างก็ได้ หรืออาจจะลองเปรียบเทียบเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษกับวิชาอื่นๆ เพื่อที่จะเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
2. ในการวิจัยครั้งต่อไปอาจลดปริมาณของกลุ่มตัวอย่างลงและอาจเจาะจงทำการวิจัยกลุ่มนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
บุญเรียง ขจรศิลป์. 2530 ก วิธีวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ฟิสิกส์เซ็นเตอร์การพิมพ์.
ศักดิ์ชัย เสรีรัตน์. 2530 . การพัฒนาโปรแกรมที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์สำหรับการสอนซ่อม
เสริมในวิชาคณิตศาสตร์ ค 204 เรื่อง สมการ.กรุงเทพฯ: วิทยานิพนธ์ปริญญาโท,
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ภาคผนวก
แบบสอบถามเพื่อวัดเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนโนนสีดาวิทยา
ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
คำชี้แจง :
1. แบบสอบถามฉบับนี้สร้างขึ้นเพื่อวัดความคิดเห็นที่ผู้เรียนมีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
2. แบบสอบถามฉบับนี้ มี 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตอบ
ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้ตอบที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบ
คำชี้แจง : แบบสอบถามนี้ออกแบบขึ้นเพื่อสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบ
โปรดใส่เครื่องหมาย √ ลงในช่อง  ที่เหมาะสมกับคำตอบของท่าน
1. อายุ  12 -13 ปี
 13-14 ปี
 14-15 ปี
2. ผลการสอบวิชาภาษาอังกฤษในภาคเรียนที่ 1
 เกรด 0
 เกรด 1
 เกรด 2
 เกรด 3
 เกรด 4
ตอนที่ 2: ความเห็นของผู้ตอบที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
คำชี้แจง : แบบสอบถามนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
โปรดอ่านข้อความด้วยความรอบคอบและใส่เครื่องหมาย √ ในช่องว่างที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน ต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
5 = เห็นด้วยอย่างยิ่ง 4 = เห็นด้วย 3 = ไม่แน่ใจ 2 = ไม่เห็นด้วย 1 = ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ความคิดเห็นของนักเรียน เห็นด้วยอย่างยิ่ง
5 เห็นด้วย
4 ไม่แน่ใจ
3 ไม่เห็นด้วย
2 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
1
1. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าสนใจ
2. ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ
3. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย
4.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน
5.ข้าพเจ้าไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ
6.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก
7. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องใช้สมองมาก
8. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า
9. ข้าพเจ้ารู้สึกสดชื่นเมื่อทำงานวิชาภาษาอังกฤษ
10. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก
11.วิชาภาษาอังกฤษทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
12. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ง่าย
13. ภาษาอังกฤษช่วยในการประกอบอาชีพ
14. ภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ
15.ข้าพเจ้ามีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ
ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ
ตารางที่ 1 ผลการแสดงคะแนนของเจตคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
ความคิดเห็นของนักเรียน เห็นด้วยอย่างยิ่ง
5 เห็นด้วย
4 ไม่แน่ใจ
3 ไม่เห็นด้วย
2 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
1
1. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าสนใจ 5 5 5 2 0
2. ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 0 2 5 7 3
3. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย 0 0 5 7 5
4.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน 0 0 3 10 4
5.ข้าพเจ้าไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 0 2 3 7 5
6.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 10 5 2 0 0
7. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องใช้สมองมาก 0 4 10 3 0
8. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า 0 0 2 5 10
9. ข้าพเจ้ารู้สึกสดชื่นเมื่อทำงานวิชาภาษาอังกฤษ 5 4 5 3 0
10. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 0 2 3 2 10
11.วิชาภาษาอังกฤษทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3 3 10 1 0
12. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ง่าย 4 7 4 2 0
13. ภาษาอังกฤษช่วยในการประกอบอาชีพ 5 7 3 2 0
14. ภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ 0 0 3 9 5
15.ข้าพเจ้ามีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 3 7 7 0 0
ตารางที่ 2 แสดงการหาค่าของแต่ละข้อคำถาม
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
ความคิดเห็นของนักเรียน เห็นด้วยอย่างยิ่ง
5 เห็นด้วย
4 ไม่แน่ใจ
3 ไม่เห็นด้วย
2 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
1
1. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าสนใจ 5x5 5x4 5x3 2x2 0
2. ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 0 2x2 5x3 7x4 3x5
3.การเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย 0 0 5x3 7x4 5x5
4.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน 4x5 10x4 3x3 0 0
5.ข้าพเจ้าไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 0 2x2 3x3 7x4 5x5
6.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 10x5 5x4 2x3 0 0
7. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องใช้สมองมาก 0 4x2 10x3 3x4 0
8. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า 0 0 2x3 5x4 10x5
9. ข้าพเจ้ารู้สึกสดชื่นเมื่อทำงานวิชาภาษาอังกฤษ 5x5 4x4 5x3 3x2 0
10. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 0 2x2 3x3 10x4 2x5
11.วิชาภาษาอังกฤษทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3x5 3x4 10x3 1x2 0
12. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ง่าย 4x5 7x4 4x3 2x2 0
13. ภาษาอังกฤษช่วยในการประกอบอาชีพ 5x5 7x4 3x3 2x2 0
14. ภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ 0 0 3x 9x4 5x5
15.ข้าพเจ้ามีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 3x5 7x4 7x3 0 0
ตารางที่ 3 แสดงคะแนนรวมของแต่ละข้อคำถาม
ความคิดเห็นของนักเรียน เห็นด้วยอย่างยิ่ง
5 เห็นด้วย
4 ไม่แน่ใจ
3 ไม่เห็นด้วย
2 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
1
1. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าสนใจ 25 20 15 4 0
2. ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 0 4 15 28 15
3. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย 0 0 15 28 25
4.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน 25 40 9 0 0
5.ข้าพเจ้าไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 0 4 9 28 25
6.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 50 20 6 0 0
7. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องใช้สมองมาก 0 8 30 12 0
8. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า 0 0 6 20 50
9. ข้าพเจ้ารู้สึกสดชื่นเมื่อทำงานวิชาภาษาอังกฤษ 25 16 15 6 0
10. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 0 4 9 40 10
11.วิชาภาษาอังกฤษทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 15 12 30 2 0
12. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ง่าย 20 28 12 4 0
13. ภาษาอังกฤษช่วยในการประกอบอาชีพ 25 28 9 4 0
14. ภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ 0 0 9 36 25
15.ข้าพเจ้ามีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 15 28 21 0 0
ตารางที่ 4 แสดงคะแนนเฉลี่ยของแต่ละข้อคำถามและคะแนนเฉลี่ยโดยรวม
ความคิดเห็นของนักเรียน
ค่าเฉลี่ย
1. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าสนใจ 3.76
2. ข้าพเจ้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 3.65
3. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย 4.00
4.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เกิดความสนุกสนาน 4.35
5.ข้าพเจ้าไม่สบายใจทุกครั้งเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ 3.88
6.วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 4.47
7. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ต้องใช้สมองมาก 2.94
8. การเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่ช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า 4.47
9. ข้าพเจ้ารู้สึกสดชื่นเมื่อทำงานวิชาภาษาอังกฤษ 3.65
10. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 3.71
11.วิชาภาษาอังกฤษทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3.47
12. วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่ฝึกฝนได้ง่าย 3.76
13. ภาษาอังกฤษช่วยในการประกอบอาชีพ 3.88
14. ภาษาอังกฤษไม่ได้ช่วยให้บ้านเมืองเจริญ 4.12
15.ข้าพเจ้ามีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 3.76
รวม 57.88
เฉลี่ย 3.86