การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา 2562 2563
2. เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 2563
3. เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 2563
4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนต่อการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 2563
กลุ่มตัวอย่างและประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย นักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 129 คนและปีการศึกษา 2563 จานวน 132 คน ครู ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จานวน 17 คน ผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562 จำนวน 129 คน และปีการศึกษา 2563 จานวน 132 คนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562 และ ปีการศึกษา 2563 จานวน 7 คน และองค์กรชุมชน ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จานวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง . 980 .988 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยที่ศึกษาจากประชากร ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ศึกษาจากประชากร โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สาเร็จรูป SPSS version 18
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ
ของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา 2562-2563 ตาม
ความคิด เห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังการพัฒนา
ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทุกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับปาน
กลาง เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ใน
ระดับปานกลาง (X-bar =3.25, S.D.= .50) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง มีคุณภาพ อยู่ในระดับปานกลาง
(X-bar =3.22, S.D.= .51) ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่า สุด อยู่ในระดับปานกลาง
เช่นกัน (X-bar =2.91, S.D.= .51)
ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาจา แนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก
(X-bar =3.95, S.D.= .55) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก (X-bar =3.94, S.D.= .51) ส่วนกลุ่ม
ครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก เช่นกัน (mu=3.88, sigma= .54) สอดคล้องตามสมมติฐาน
1. ผลการวิเคราะห์ระดับการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาความมีวินัยในตนเอง
ด้านความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา
2562-2563 จำแนกตามกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่าการมีส่วนร่วมมีความ
เหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่ม
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 3.54, S.D.= .53) อยู่ในระดับปานกลาง
รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู (mu= 3.34, sigma= .58) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนกลุ่มองค์กรชุมชน มีค่าเฉลี่ย
ต่ำสุด (X-bar = 3.26, S.D.= .52) อยู่ในระดับปานกลาง เช่นกัน
ปีการศึกษา 2563 โดยรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่า การมีส่วนร่วมมีความ
เหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่ม
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและกลุ่มองค์กรชุมชน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X-bar = 4.10, S.D.=.67.57) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน (X-bar = 4.05, S.D.= .57) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มี
ค่าเฉลี่ยต่ำ สุด (X-bar = 4.02, S.D.= .57) อยู่ในระดับมาก เช่นกัน สอดคล้องกับสมมุติฐาน
3. ผลการเปรียบเทียบผลการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ
ของนักเรียน โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปี การศึกษา 2562 - 2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 พฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนตามตัว
บ่งชี้ที่โรงเรียนกาหนด ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ความรับผิดชอบต่อตนเอง 2) ความรับผิดชอบต่อ
ครอบครัว 3) ความรับผิดชอบต่อเพื่อน 4) ความรับผิดชอบต่อโรงเรียน 5) ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
พลเมือง มีคุณภาพระดับดีขึ้นไป มีค่าเฉลี่ยร้อยละ ระหว่าง 90.70 - 92.25
ปีการศึกษา 2563 พฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ ของนักเรียน ตามตัว
บ่งชี้ที่โรงเรียนกาหนด ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ความรับผิดชอบต่อตนเอง 2) ความรับผิดชอบต่อ
ครอบครัว 3) ความรับผิดชอบต่อเพื่อน 4) ความรับผิดชอบต่อโรงเรียน 5) ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
พลเมือง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ ระหว่าง 91.67 94.70 แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้าน
ความรับผิดชอบของนักเรียน ปีการศึกษา 2563 มีการพัฒนาสูงกว่า ปีการศึกษา 2562 ทุกด้าน
สอดคล้องตามสมมติฐาน
4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถาน
ศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนในการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของ
นักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปี การศึกษา 2562-
2563 พบว่า
ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับปานกลาง
เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึง
พอใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับปานกลาง ( X-bar = 3.48, S.D. = .58) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู อยู่ใน
ระดับปานกลาง (mu= 3.32, sigma = .58) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่า สุด อยู่ในระดับ
ปานกลาง เช่นกัน (X = 3.26, S.D. = .50)
ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก เมื่อ
พิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและ
องค์กรชุมชน มีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.09, S.D. = .65,.55) รองลงมา
ได้แก่ กลุ่มครู อยู่ในระดับมาก (mu= 4.05, sigma = .57) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ
ต่ำสุด อยู่ในระดับมาก เช่นกัน (X-bar = 3.99, S. D. =.D. = .52) สอดคล้องตามสมมติฐาน
ข้อเสนอแนะ
จากการวิจัยการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้
โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า
ครั้งนี้ทา ให้ได้ค้นพบจุดเด่น ของการมีแบบอย่างที่ดีซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางใน
การพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนต่อไป
1. ข้อเสนอแนะเพื่อการนาผลการวิจัยไปใช้
1.1 ด้าน Best Friends (เพื่อนดี) เนื่องจากเพื่อน คือบุคคลที่นักเรียนคบหาคุยกัน
คอยให้คาปรึกษาในทุกๆ เรื่อง คอยชักชวนไปในทางที่ดี เช่น ชวนอ่านหนังสือ ช่วยกันติวข้อสอบ ถ้าคบเพื่อนที่ดีจะทาให้ชีวิตมีอนาคตสดใส มีการงานที่ดี แต่ถ้าคบเพื่อนชั่วชีวิตเราจะตกต่าลงเนื่องจากจะชวนกันทาในสิ่งที่ไม่ดี ดังนั้นการคบเพื่อนมีความสาคัญและจาเป็นต่อชีวิตของวัยรุ่นเพราะเพื่อนจะมีอิทธิพลในเรื่องความคิดความเชื่อตลอดจนให้คาปรึกษา หรือแนะนาในเรื่องต่างๆ และอาจชักจูงไปในทางที่ดีและไม่ดี ดังนั้นการเลือกคบเพื่อนที่ดีจะช่วยแนะนาเรื่องพฤติกรรมที่เหมาะสม
1.2 ด้าน Good school (Good management) (โรงเรียนดี/การบริหารจัดการดี)
เนื่องจากโรงเรียน ต้องกาหนดแนวนโยบายที่ชัดเจน เพื่อสร้างเสริมและปลูกฝังนักเรียนให้เป็นผู้มีวินัยในตนเอง สามารถประพฤติปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียนและของสังคมทั่วไป สามารถควบคุมดูแลตนเองและสังคมส่วนรวมให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความสงบสุข อันจะมีผลทาให้โรงเรียนสามารถดาเนินกิจการต่าง ๆ ไปด้วยความสงบเรียบร้อยและนักเรียนเองก็สามารถศึกษาเล่าเรียนได้ด้วยความราบรื่นปราศจากความเดือดร้อนวุ่นวาย อันเกิดจากการที่นักเรียนขาดวินัย ขาดความรับผิดชอบ ยิ่งกว่านั้นการที่โรงเรียนสามารถปลูกฝังให้นักเรียนสามารถประพฤติปฏิบัติตนในแนวทางที่ถูกที่ควรด้วยตัวของเขาเอง ย่อมจะช่วยให้นักเรียนเจริญเติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศต่อไปด้วยดี อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ตนเองและแก่สังคมส่วนรวมในอนาคต
1.3 ด้าน Good teachers (ครูดี) เนื่องจากครูไม่เพียงแต่จะต้องมีความรู้ทางวิชาการ
เพื่อจะสอนนักเรียนเท่านั้น แต่ครูยังจะต้องเป็นผู้ช่วยนักเรียนให้พัฒนาทั้งทางด้านสติปัญญา บุคลิกภาพ อารมณ์ และสังคมด้วยดังนั้น ครูต้องเป็นผู้ที่ให้ความอบอุ่นแก่นักเรียน และนักเรียนส่วนมากจะมีครูอย่างน้อยหนึ่งคนที่ยึดเป็นต้นแบบและนักเรียนจะยอมรับค่านิยมและอุดมการณ์ของครูที่นักเรียนยึดเป็นต้นแบบจะติดตามไปตลอดชีวิต
1.4 ด้าน Good family (ครอบครัวดี) เนื่องจาก ครอบครัว คือ เป็นสถาบันแห่ง
แรกที่อบรมทางด้านจิตใจและปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพให้แก่นักเรียน โดยประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก ถือเป็นสถาบันหลักในการดูแลและเลี้ยงดูถ้าครอบครัวใดที่พ่อแม่และบุคคลในครอบครัวมีการศึกษาและถ่ายทอดสิ่งที่ดีมีคุณค่ากับเด็ก เด็กก็จะได้รับการซึมซับสิ่งที่ดีมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ แต่ถ้าเด็กที่เกิดในครอบครัวที่เป็นแบบอย่างใน ทางตรงกันข้าม เช่น พ่อ แม่ หรือบุคคลในครอบครัวมีการศึกษาน้อย ยากจน พ่อแม่มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เช่น พูดจาหยาบคาย ไม่สุภาพ และมีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสมเด็กก็จะซึมซับเอาพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องนั้นมาเป็นพฤติกรรมของตนเอง ดังนั้น ครอบครัวจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมต่าง ๆ ของนักเรียน
1.5 ด้าน Good environment (สื่อ สิ่งแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ดี) เนื่องจากจะต้องพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นสื่อต้นแบบที่สาคัญทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน หรือถ้าหากนักเรียนอยู่ในชุมชนที่มีระบบการจัดการที่ดีมีแบบอย่างทางพฤติกรรมที่เหมาะสมและมีกิจกรรมที่กระตุ้นหรือส่งเสริมเด็กและเยาวชนเข้ามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของชุมชนด้วยแล้วจะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีจิตสาธารณะ คิดเพื่อส่วนรวมและชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ช่วยกันพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญก้าวหน้าหรือสานึกรักบ้านเกิด ซึ่งนับว่าเป็นพื้นฐานสาคัญของการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและพลเมืองที่ดีในอนาคตต่อไป
หลังการพัฒนาโรงเรียนควรมีการตรวจสอบพฤติกรรมที่สะท้อนคุณลักษณะความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อดูแนวโน้มความยั่งยืนหรือความคงทนถาวรของความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนและ ทบทวนกิจกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ของโรงเรียน เช่นในด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ของโรงเรียน การเปลี่ยนแปลงของครู การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนและการเปลี่ยนแปลงของชุมชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายแห่งรัฐ อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง
2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนอย่างยั่งยืน
2.2 ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนกับสภาพแวดล้อมของบ้าน โรงเรียน วัด และหรือมัสยิด ในชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่
2.3 ควรศึกษาผลกระทบทางบวกของการเป็นคนมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ
ของนักเรียนที่มีต่อชุมชนและสังคมโดยรอบของสถานศึกษา