ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน จังหวัดสงขลา ปีการศึกษา 2562-2563

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้

1. เพื่อพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา 2562 – 2563

2. เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 – 2563

3. เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 – 2563

4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนต่อการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปีการศึกษา 2562 – 2563

กลุ่มตัวอย่างและประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย นักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 129 คนและปีการศึกษา 2563 จานวน 132 คน ครู ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จานวน 17 คน ผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2562 จำนวน 129 คน และปีการศึกษา 2563 จานวน 132 คนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562 และ ปีการศึกษา 2563 จานวน 7 คน และองค์กรชุมชน ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 จานวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง . 980 .988 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยที่ศึกษาจากประชากร ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ศึกษาจากประชากร โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สาเร็จรูป SPSS version 18

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ

ของนักเรียนโดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา 2562-2563 ตาม

ความคิด เห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังการพัฒนา

ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทุกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับปาน

กลาง เมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ใน

ระดับปานกลาง (X-bar =3.25, S.D.= .50) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง มีคุณภาพ อยู่ในระดับปานกลาง

(X-bar =3.22, S.D.= .51) ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่า สุด อยู่ในระดับปานกลาง

เช่นกัน (X-bar =2.91, S.D.= .51)

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก

เมื่อพิจารณาจา แนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก

(X-bar =3.95, S.D.= .55) รองลงมาได้แก่ กลุ่มผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก (X-bar =3.94, S.D.= .51) ส่วนกลุ่ม

ครู มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก เช่นกัน (mu=3.88, sigma= .54) สอดคล้องตามสมมติฐาน

1. ผลการวิเคราะห์ระดับการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาความมีวินัยในตนเอง

ด้านความรับผิดชอบของนักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา

2562-2563 จำแนกตามกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่าการมีส่วนร่วมมีความ

เหมาะสมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่ม

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X-bar = 3.54, S.D.= .53) อยู่ในระดับปานกลาง

รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู (mu= 3.34, sigma= .58) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนกลุ่มองค์กรชุมชน มีค่าเฉลี่ย

ต่ำสุด (X-bar = 3.26, S.D.= .52) อยู่ในระดับปานกลาง เช่นกัน

ปีการศึกษา 2563 โดยรวมทุกกลุ่มที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่า การมีส่วนร่วมมีความ

เหมาะสมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาจาแนกตามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่ม

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและกลุ่มองค์กรชุมชน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X-bar = 4.10, S.D.=.67.57) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ กลุ่มนักเรียน (X-bar = 4.05, S.D.= .57) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มี

ค่าเฉลี่ยต่ำ สุด (X-bar = 4.02, S.D.= .57) อยู่ในระดับมาก เช่นกัน สอดคล้องกับสมมุติฐาน

3. ผลการเปรียบเทียบผลการสังเกตพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ

ของนักเรียน โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปี การศึกษา 2562 - 2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562 พฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนตามตัว

บ่งชี้ที่โรงเรียนกาหนด ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ความรับผิดชอบต่อตนเอง 2) ความรับผิดชอบต่อ

ครอบครัว 3) ความรับผิดชอบต่อเพื่อน 4) ความรับผิดชอบต่อโรงเรียน 5) ความรับผิดชอบต่อหน้าที่

พลเมือง มีคุณภาพระดับดีขึ้นไป มีค่าเฉลี่ยร้อยละ ระหว่าง 90.70 - 92.25

ปีการศึกษา 2563 พฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ ของนักเรียน ตามตัว

บ่งชี้ที่โรงเรียนกาหนด ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ความรับผิดชอบต่อตนเอง 2) ความรับผิดชอบต่อ

ครอบครัว 3) ความรับผิดชอบต่อเพื่อน 4) ความรับผิดชอบต่อโรงเรียน 5) ความรับผิดชอบต่อหน้าที่

พลเมือง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ ระหว่าง 91.67 – 94.70 แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองด้าน

ความรับผิดชอบของนักเรียน ปีการศึกษา 2563 มีการพัฒนาสูงกว่า ปีการศึกษา 2562 ทุกด้าน

สอดคล้องตามสมมติฐาน

4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถาน

ศึกษาขั้นพื้นฐานและองค์กรชุมชนในการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของ

นักเรียน โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน หลังการพัฒนา ปี การศึกษา 2562-

2563 พบว่า

ปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับปานกลาง

เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึง

พอใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับปานกลาง ( X-bar = 3.48, S.D. = .58) รองลงมาได้แก่ กลุ่มครู อยู่ใน

ระดับปานกลาง (mu= 3.32, sigma = .58) ส่วนกลุ่มผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่า สุด อยู่ในระดับ

ปานกลาง เช่นกัน (X = 3.26, S.D. = .50)

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก เมื่อ

พิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า กลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและ

องค์กรชุมชน มีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.09, S.D. = .65,.55) รองลงมา

ได้แก่ กลุ่มครู อยู่ในระดับมาก (mu= 4.05, sigma = .57) ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ

ต่ำสุด อยู่ในระดับมาก เช่นกัน (X-bar = 3.99, S. D. =.D. = .52) สอดคล้องตามสมมติฐาน

ข้อเสนอแนะ

จากการวิจัยการพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโดยใช้

โดยใช้ 1Be 4Good Model โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน ปีการศึกษา 2562-2563 พบว่า

ครั้งนี้ทา ให้ได้ค้นพบจุดเด่น ของการมีแบบอย่างที่ดีซึ่งเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางใน

การพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนต่อไป

1. ข้อเสนอแนะเพื่อการนาผลการวิจัยไปใช้

1.1 ด้าน Best Friends (เพื่อนดี) เนื่องจากเพื่อน คือบุคคลที่นักเรียนคบหาคุยกัน

คอยให้คาปรึกษาในทุกๆ เรื่อง คอยชักชวนไปในทางที่ดี เช่น ชวนอ่านหนังสือ ช่วยกันติวข้อสอบ ถ้าคบเพื่อนที่ดีจะทาให้ชีวิตมีอนาคตสดใส มีการงานที่ดี แต่ถ้าคบเพื่อนชั่วชีวิตเราจะตกต่าลงเนื่องจากจะชวนกันทาในสิ่งที่ไม่ดี ดังนั้นการคบเพื่อนมีความสาคัญและจาเป็นต่อชีวิตของวัยรุ่นเพราะเพื่อนจะมีอิทธิพลในเรื่องความคิดความเชื่อตลอดจนให้คาปรึกษา หรือแนะนาในเรื่องต่างๆ และอาจชักจูงไปในทางที่ดีและไม่ดี ดังนั้นการเลือกคบเพื่อนที่ดีจะช่วยแนะนาเรื่องพฤติกรรมที่เหมาะสม

1.2 ด้าน Good school (Good management) (โรงเรียนดี/การบริหารจัดการดี)

เนื่องจากโรงเรียน ต้องกาหนดแนวนโยบายที่ชัดเจน เพื่อสร้างเสริมและปลูกฝังนักเรียนให้เป็นผู้มีวินัยในตนเอง สามารถประพฤติปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียนและของสังคมทั่วไป สามารถควบคุมดูแลตนเองและสังคมส่วนรวมให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความสงบสุข อันจะมีผลทาให้โรงเรียนสามารถดาเนินกิจการต่าง ๆ ไปด้วยความสงบเรียบร้อยและนักเรียนเองก็สามารถศึกษาเล่าเรียนได้ด้วยความราบรื่นปราศจากความเดือดร้อนวุ่นวาย อันเกิดจากการที่นักเรียนขาดวินัย ขาดความรับผิดชอบ ยิ่งกว่านั้นการที่โรงเรียนสามารถปลูกฝังให้นักเรียนสามารถประพฤติปฏิบัติตนในแนวทางที่ถูกที่ควรด้วยตัวของเขาเอง ย่อมจะช่วยให้นักเรียนเจริญเติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศต่อไปด้วยดี อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ตนเองและแก่สังคมส่วนรวมในอนาคต

1.3 ด้าน Good teachers (ครูดี) เนื่องจากครูไม่เพียงแต่จะต้องมีความรู้ทางวิชาการ

เพื่อจะสอนนักเรียนเท่านั้น แต่ครูยังจะต้องเป็นผู้ช่วยนักเรียนให้พัฒนาทั้งทางด้านสติปัญญา บุคลิกภาพ อารมณ์ และสังคมด้วยดังนั้น ครูต้องเป็นผู้ที่ให้ความอบอุ่นแก่นักเรียน และนักเรียนส่วนมากจะมีครูอย่างน้อยหนึ่งคนที่ยึดเป็นต้นแบบและนักเรียนจะยอมรับค่านิยมและอุดมการณ์ของครูที่นักเรียนยึดเป็นต้นแบบจะติดตามไปตลอดชีวิต

1.4 ด้าน Good family (ครอบครัวดี) เนื่องจาก ครอบครัว คือ เป็นสถาบันแห่ง

แรกที่อบรมทางด้านจิตใจและปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพให้แก่นักเรียน โดยประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก ถือเป็นสถาบันหลักในการดูแลและเลี้ยงดูถ้าครอบครัวใดที่พ่อแม่และบุคคลในครอบครัวมีการศึกษาและถ่ายทอดสิ่งที่ดีมีคุณค่ากับเด็ก เด็กก็จะได้รับการซึมซับสิ่งที่ดีมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ แต่ถ้าเด็กที่เกิดในครอบครัวที่เป็นแบบอย่างใน ทางตรงกันข้าม เช่น พ่อ แม่ หรือบุคคลในครอบครัวมีการศึกษาน้อย ยากจน พ่อแม่มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เช่น พูดจาหยาบคาย ไม่สุภาพ และมีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสมเด็กก็จะซึมซับเอาพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องนั้นมาเป็นพฤติกรรมของตนเอง ดังนั้น ครอบครัวจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมต่าง ๆ ของนักเรียน

1.5 ด้าน Good environment (สื่อ สิ่งแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ดี) เนื่องจากจะต้องพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นสื่อต้นแบบที่สาคัญทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน หรือถ้าหากนักเรียนอยู่ในชุมชนที่มีระบบการจัดการที่ดีมีแบบอย่างทางพฤติกรรมที่เหมาะสมและมีกิจกรรมที่กระตุ้นหรือส่งเสริมเด็กและเยาวชนเข้ามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของชุมชนด้วยแล้วจะช่วยให้เด็กและเยาวชนมีจิตสาธารณะ คิดเพื่อส่วนรวมและชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ช่วยกันพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญก้าวหน้าหรือสานึกรักบ้านเกิด ซึ่งนับว่าเป็นพื้นฐานสาคัญของการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและพลเมืองที่ดีในอนาคตต่อไป

หลังการพัฒนาโรงเรียนควรมีการตรวจสอบพฤติกรรมที่สะท้อนคุณลักษณะความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อดูแนวโน้มความยั่งยืนหรือความคงทนถาวรของความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนและ ทบทวนกิจกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ของโรงเรียน เช่นในด้านวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ของโรงเรียน การเปลี่ยนแปลงของครู การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนและการเปลี่ยนแปลงของชุมชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายแห่งรัฐ อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง

2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นคนที่มีระเบียบวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนอย่างยั่งยืน

2.2 ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบของนักเรียนกับสภาพแวดล้อมของบ้าน โรงเรียน วัด และหรือมัสยิด ในชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่

2.3 ควรศึกษาผลกระทบทางบวกของการเป็นคนมีวินัยในตนเองด้านความรับผิดชอบ

ของนักเรียนที่มีต่อชุมชนและสังคมโดยรอบของสถานศึกษา

โพสต์โดย นางสุธาสินี ดังแก้วสี : [2 เม.ย. 2564 เวลา 07:23 น.]
อ่าน [4485] ไอพี : 101.51.58.146
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 56,509 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้

เปิดอ่าน 59,467 ครั้ง
ความแตกต่างของการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนกับการวิจัยเชิงวิชาการ
ความแตกต่างของการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนกับการวิจัยเชิงวิชาการ

เปิดอ่าน 12,330 ครั้ง
ออกกำลังกายเป็นประจำทำให้เงินเดือนสูงขึ้น
ออกกำลังกายเป็นประจำทำให้เงินเดือนสูงขึ้น

เปิดอ่าน 25,404 ครั้ง
Do’s Don’ts เคี้ยวให้ฟันปลอดภัย
Do’s Don’ts เคี้ยวให้ฟันปลอดภัย

เปิดอ่าน 21,920 ครั้ง
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!

เปิดอ่าน 10,446 ครั้ง
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.

เปิดอ่าน 19,962 ครั้ง
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก

เปิดอ่าน 17,403 ครั้ง
อยากฉลาดฟังดนตรีคลาสสิก
อยากฉลาดฟังดนตรีคลาสสิก

เปิดอ่าน 27,283 ครั้ง
เทคนิคภาษาอังกฤษ
เทคนิคภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 8,857 ครั้ง
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร

เปิดอ่าน 11,544 ครั้ง
การศึกษาในกะลา
การศึกษาในกะลา

เปิดอ่าน 48,994 ครั้ง
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน

เปิดอ่าน 17,140 ครั้ง
คำค้นยอดนิยม กูเกิล-ยาฮู ประจำปี 2551
คำค้นยอดนิยม กูเกิล-ยาฮู ประจำปี 2551

เปิดอ่าน 12,009 ครั้ง
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน

เปิดอ่าน 15,134 ครั้ง
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม

เปิดอ่าน 13,033 ครั้ง
สำหรับท่านที่พลาด คลิปเต็ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" พลาดท่าพ่ายนักชกรัสเซีย โดนศอกเลือดอาบ
สำหรับท่านที่พลาด คลิปเต็ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" พลาดท่าพ่ายนักชกรัสเซีย โดนศอกเลือดอาบ
เปิดอ่าน 14,535 ครั้ง
คลิปผู้โดยสารโวยเมล์ 156 รอนาน ปะทะ "กระเป๋าฮาเฮ"
คลิปผู้โดยสารโวยเมล์ 156 รอนาน ปะทะ "กระเป๋าฮาเฮ"
เปิดอ่าน 12,457 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้
เปิดอ่าน 38,999 ครั้ง
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC
เปิดอ่าน 10,751 ครั้ง
น้ำประปาแปลงร่าง กลายเป็นน้ำแข็งคนกลับชอบ!?
น้ำประปาแปลงร่าง กลายเป็นน้ำแข็งคนกลับชอบ!?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ