|
|
เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้
ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562
ชื่อผู้วิจัย นายปิลันธน์ สระแก้ว
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยการผสมผสานวิธีวิจัยชิงปริมาณ (Quantitative Method) และวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษา เพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ เพื่อเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษา เพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นประชากร ในปีการศึกษา 2562 โดยวิธีคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยแยกเป็นกลุ่มเป้าหมาย คือ ครูปฏิบัติการ จำนวน 3 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 คือ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 3) แบบสอบถามเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ4) แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562
สรุปผลการวิจัย 1. การวิเคราะห์รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โดยรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม พบว่า รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โดยรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60 S.D.= 0.3) เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1การกระจายอำนาจและการให้อำนาจในการตัดสินใจ ด้านที่ 2 ความไว้วางใจกัน และด้านที่ 5การให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนและทันสมัยต่อทุกคนที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ มีระดับการบริหารแบบมีส่วนร่วมคือ ( = 4.65 D.=0.33) รองลงมา คือ ด้านที่ 4 ความเป็นอิสระที่จะรับผิดชอบและสามารถดูแลตนเองได้ คือ ( = 4.60 S.D = 0.35) ตามลำดับ นั้นแสดงว่า ครูมีทักษะความรู้ ทักษะปฏิบัติ ทักษะความเข้าใจและทักษะมิติความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้และปฏิบัติงานสูงขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 1 2. การศึกษาประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ พบว่า ระดับการปฏิบัติงาน ประสิทธิผลของสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ ที่เกิดจากการบริหารแบบมีส่วนร่วมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53 S.D. = 0.40) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านที่ 4 ด้านความสามารถในการแก้ไขปัญหาภายในสถานศึกษา โดยผู้บริหารและครูร่วมกันวางแผนกลยุทธ์และบริหารสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประสิทธิผล ส่งผลให้ครูมีการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ผู้บริหารและครูร่วมกันสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในโรงเรียนได้ เช่น ด้านการใช้หลักสูตรสถานศึกษา การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือพฤติกรรมของนักเรียน และผู้บริหารและครูร่วมมือ กันในการปฏิบัติงานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โรงเรียนครอบคลุมทุกด้านเพื่อคุณภาพผู้เรียน มีค่า ( = 4.65 S.D. = 0.30) รองลงมา คือ ด้านที่ 2 ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีทัศนคติทางบวก โดยครูปฏิบัติงานพัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนมีเหตุผล และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นครูปฏิบัติงานพัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนมาสถานศึกษาสม่ำเสมอใฝ่รู้ใฝ่เรียน รักการเรียนและทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข และครูปฏิบัติงานพัฒนาส่งเสริมให้นักเรียนเห็นประโยชน์จากการอ่าน และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างกว้างขวางในโลกแห่งยุค 4.0 มีค่า ( = 4.55 S.D. = 0.45)ตามลำดับ นั้นแสดงว่า ครูมีความรู้ทักษะความสามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและมีคุณค่าขับเคลื่อนประสิทธิผลสถานศึกษาให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้ของครูที่มีประสิทธิภาพทำให้ผู้เรียนมีคุณภาพด้านผลสัมฤทธิ์ได้จริง เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2 3. ผลการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า การจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในภาพรวมก่อนการวิจัย มีค่าเฉลี่ย ( =3.37 S.D.= 0.50) และหลังการวิจัยค่าเฉลี่ย ( = 4.75 S.D.= 0.38) เมื่อพิจารณา พบว่า หลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย นั่นแสดงว่า การจัดการเรียนรู้ เป็นกลวิธีการบริหารจัดการเรียนรู้ของผู้บริหารและครูที่ปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่เป้าหมายคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ได้จริง และเมื่อวิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังการวิจัย โดยใช้ t- test พบว่า การจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 3 4. ผลความพึงพอใจครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 พบว่า ความพึงพอใจครู คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 ในภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 4 และเมื่อศึกษาความพึงพอใจจากประชากรกลุ่มเป้าหมายแยกเป็นรายกลุ่ม ดังนี้ 1. ระดับความพึงพอใจของครู ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.75 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.38 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า ครู มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน 2. ระดับความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ อยู่ในระดับพอใจมากมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.53 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.40 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทุกด้าน 3. ระดับความพึงพอใจของผู้ปกครอง ที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.50 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.50 และเมื่อวิเคราะห์ผลความพึงพอใจในทุกด้าน พบว่า ผู้ปกครองมีความพึงพอใจมากที่สุดในทุกด้านนั่นแสดงว่า ครู คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง มีความรู้สึกพึงพอใจที่ได้ตามความต้องการที่เห็นผู้เรียนมีคุณภาพด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์อันส่งผลถึงประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู โรงเรียนและชุมชน สังคม ท้องถิ่น ประเทศชาติได้อย่างแท้จริง จากผลการวิจัย การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมพัฒนาประสิทธิผลสถานศึกษาเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ โรงเรียนบ้านดอนสำราญ ปีการศึกษา 2562 บรรลุวัตถุประสงค์ของการวิจัย เป็นไปตามสมมติฐานที่วางไว้ ซึ่งผลการวิจัยครั้งนี้ เป็นประโยชน์ทางวิชาชีพสำหรับผู้บริหาร อย่างกว้างขวาง อันก่อให้เกิดประโยชน์ผลปรากฏชัดตามที่ กระทรวงศึกษาธิการได้วางเป้าหมายมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คือ คุณภาพผู้เรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ ผลการวิจัยนี้นอกจากจะทำให้บรรลุผลด้านคุณภาพการศึกษาเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู โรงเรียนดอนสำราญ และชุมชนบ้านดอนสำราญ ได้จริงและสิ้น ปีการศึกษา 2562 ผลงานที่เกิดกับผู้เรียน จากข้อมูล ปพ.5 ในปี 2562 ได้ตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้วยังสูงกว่าปีการศึกษา 2561 และที่สำคัญคะแนนผลทดสอบระดับชาติ NT และ O-NET ปีการศึกษา 2562 สูงกว่า ปี 2561 และได้มาตรฐานชาติที่กำหนดถึงแม้นักเรียนบ้านดอนสำราญ จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กมีครูเพียงจำนวน 3 คนและมีจำนวนนักเรียนไม่มากก็ตาม และผลการวิจัยครั้งนี้ เมื่อสถานศึกษาอื่น ๆ ที่จะนำไปพัฒนาจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู โรงเรียน และชุมชน ได้อย่างแท้จริงต่อไป
|
โพสต์โดย นายปิลันธน์ สระแก้ว : [31 มี.ค. 2564 เวลา 10:58 น.] อ่าน [4728] ไอพี : 183.88.231.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,696 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,328 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,502 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,875 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,340 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,246 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,190 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,928 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,512 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,214 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,761 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,374 ครั้ง
| เปิดอ่าน 66,085 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,990 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,910 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 50,125 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,781 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,297 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,358 ครั้ง
| เปิดอ่าน 84,882 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|