การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แบบ PIATE เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) ศึกษาประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แบบ PIATE ที่มีต่อความสามารถในการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีวิธีดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบ PIATE โดยศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ด้านความสามารถในการสื่อสาร สร้างรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบ PIATE จากนั้นประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แบบ PIATE โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบ PIATE โดยทำการทดลองกับประชากรและตัวอย่าง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือประชากรที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษ แสดงความคิดเห็นในแบบประเมินค่าความเหมาะสมของรูปแบบ และตัวอย่างที่ใช้ทดลองรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แบบ PIATE ได้แก่นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนขุขันธ์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม ทดสอบโดยใช้สถิติ t-test (Dependent sample t-test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แบบ PIATE สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน ร้อยละ 53.58 (S.D = 4.10) และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ร้อยละ 78.58 (S.D = 2.23) แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ แบบ PIATE พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสารโดยรวมเพิ่มขึ้น คะแนนพัฒนาการ (E.I.) เท่ากับ 0.54 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 54.00
คำสำคัญ : การจัดการเรียนรู้แบบ PIATE ความสามารถในการสื่อสาร
Abstract
The purpose of this study was designed to 1) develop a model for PIATE, an Instructional for the Learning Achievement and Communication Capacity of Eighth Grade Students 2) determine the effectiveness of PIATE Model towards Communication Capacity of Eighth Grade Students. The research method was composed of two steps, including Step one: create and develop a model for PIATE by studying analyzing and synthesizing the context of English Teaching-Learning and Communication Capacity. PIATE Model was developed by a five-level appropriate evaluation from five experts. Data was analyzed by means and standard deviations. Step two: Study the effectiveness of the PIATE Model by experimenting with the research population and the sample divided into two groups: the population used to develop a model for learning, which were the educational experts that gave the comments for the proper model, and the sample using that model, which were 40 eighth grade students in Khukhan School, Khukhan, Sisaket in the first semester of the 2019 by using a simple random sampling method. T-test was used for the dependent samples. Data was analyzed by means and standard deviations
The research results were as follow:
1) The PIATE Model can improve learning achievement of eighth grade students. The students achievement scores were significantly higher than pre-test scores at .05 level. (Pre-test 53.58, S.D = 4.10, posttest 78.58%, S.D = 2.23)
2) The eighth grade students had higher communication capacity after learning the use of the PIATE model, (E.I. = 0.54, 54.00%)
Keywords: The PIATE, an Instructional Model, Communication capacity