ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตา

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562

มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

2) ประเมินปัจจัยนำเข้าโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 3) ประเมินกระบวนการโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4) ประเมินผลผลิตโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้แก่ 4.1) ระดับคุณภาพของการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4.2) การมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4.3) ผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านเกาะจัน 4.4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านเกาะจัน และ 4.5) ความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาต่อ การดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้รูปแบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model)

การประเมินครั้งนี้ ศึกษาจากประชากร และกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยกลุ่มตัวอย่างนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 ทุกคนใช้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2561 จำนวน 107 คน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 92 คน ประชากรครู ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 จำนวน 17 คน กลุ่มตัวอย่างคณะกรรมการสถานศึกษา ปีการศึกษา 2561และ2562 จำนวน 7 คน (ยกเว้นผู้บริหารสถานศึกษาและผู้แทนครู) และกลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6 ทุกคน ได้กลุ่มตัวอย่างปีการศึกษา 2561 จำนวน 83 คน

ปีการศึกษา 2562 จำนวน 75 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินรวมทั้งสิ้น 8 ฉบับ มี 2 ลักษณะเป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 6 ฉบับ และแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง 2 ฉบับ ได้แก่ แบบบันทึกผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนตามสภาพจริง และแบบบันทึกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ตามสภาพจริง เครื่องมือทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าความเชื่อมั่นแต่ละฉบับระหว่าง .867-.986 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง และการสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยใชโปรแกรมคอมสำเร็จรูป

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 - 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ตามความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตาม กลุ่มผู้ประเมิน พบว่า

ปีการศึกษา 2561 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.36,

= 0.38) อยู่ในระดับมาก รองลงมาครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.24, = 0.38) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2562 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยความคิดสูงสุด ( = 4.76,

S.D. = 0.38) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมากลุ่มครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.68, = 0.38 ) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้

กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2

ปีการศึกษา 2561 - 2562 ตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์ ตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 15 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นตัวชี้วัด เมื่อพิจารณาตามประเด็นตัวชี้วัด พบว่า

ปีการศึกษา 2561 ความพอเพียงของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (=4.61,  = 0.47) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ผู้สนับสนุนโครงการ (=4.45,  = 0.51) อยู่ในระดับมาก ส่วนความพอเพียงของวัสดุอุปกรณ์/อาคารสถานที่ (=4.35,  = 0.48) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2562 ความเหมาะสมของการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (=4.76,  = 0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา ผู้สนับสนุนโครงการ (=4.75, = 0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความพร้อมของบุคลากร (=4.67,  = 0.48) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 - 2562 ตามคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนเฉลี่ย 20 คะแนน ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า

ปีการศึกษา 2561 ครูมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.01, = 0.42) ) อยู่ในระดับมาก รองลงมานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.00, = 0.33) อยู่ในระดับมาก ส่วนผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =3.93, = 0.39) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2562 ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.67, = 0.44) ) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.67, = 0.43) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.57, = 0.20) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง พบว่า ทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 30 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมินพบว่า

ปีการศึกษา 2561 ผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.14, S.D. = 0.39) อยู่ในระดับมาก รองลงมานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.12, S.D. = 0.39) อยู่ในระดับมาก ส่วนครูมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.11, = 0.52) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2562 ครูมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.68, = 0.39) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ย ( =4.66, S.D. = 0.42) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด

( = 4.66, S.D. = 0.42) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน

4.2 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ทั้ง 4 กลุ่ม พบว่า

ปีการศึกษา 2561 นักเรียนมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.20, S.D. = 0.20) อยู่ในระดับมาก รองลงมาผู้ปกครองมีค่าเฉลี่ย ( =4.19, S.D. = 0.37) อยู่ในระดับมาก ครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.03, = 0.61)

อยู่ในระดับมาก อยู่ในระดับมาก ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.01,

S.D. = 0.61) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2562 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.76,

S.D. = 0.43) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาครูมีค่าเฉลี่ย ( =4.74, = 0.44) อยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.63, S.D. = 0.48) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.63, S.D. = 0.47) อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน

4.3 ผลการประเมินข้อมูลสภาพจริงตามโครงการเกี่ยวกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านเกาะจันสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 พบว่า

ปีการศึกษา 2561 ภาพรวม มีจำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 14 คิดเป็นร้อยละ 9.52 และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พบว่า นักเรียนติดเกม มีจำนวนมากที่สุด จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 4.08 รองลงมา คือ ลักขโมย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 3.40 ส่วนเป็นพฤติกรรมที่มีจำนวนนักเรียนน้อยที่สุด คือ นักเรียนออกกลางคัน สูบบุหรี่/สารเสพติด และคบเพื่อนต่างเพศ จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0.00

ปีการศึกษา 2562 ภาพรวม มีจำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ จำนวน 7 คิดเป็นร้อยละ 5.18 และเมื่อพิจารณาแต่ละรายการพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พบว่า นักเรียนติดเกม มีจำนวนมากที่สุด จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 2.96 รองลงมา คือ ลักขโมย จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 1.48 ส่วนเป็นพฤติกรรมที่มีจำนวนนักเรียนน้อยที่สุด คือ นักเรียนออกกลางคัน สูบบุหรี่/สารเสพติด และคบเพื่อนต่างเพศ จำนวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0.00

สรุปผลจากข้อมูลด้านผลผลิตโครงการเกี่ยวกับผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนตามแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง ปีการศึกษา 2561 – 2562 แสดงให้เห็นว่า จำนวนนักเรียนที่มีพฤติกรรมนักเรียนที่ไม่พึงประสงค์ ลดลง 7 คน คิดเป็นร้อยละ 4.34 ตามเกณฑ์ที่กำหนดได้คะแนนรวมเฉลี่ยร้อยละ 5 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับระดับคุณภาพของนักเรียน โรงเรียน

บ้านเกาะจัน ปีการศึกษา 2561 – 2562 ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน

ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่มีผลการประเมินระดับดีขึ้นไป โรงเรียนบ้านเกาะจัน หลังการพัฒนาปีการศึกษา 2561 – 2562 พบว่า คุณลักษณะอันพึงประสงค์มีผล

การประเมินระดับดีขึ้นไป หลังการพัฒนา ทั้งสองปีการศึกษามีค่าเฉลี่ยร้อยละมากกว่า 90 ทั้ง 8 ประการ

โดยปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าปีการศึกษา 2561 ทั้ง 8 ประการ และเมื่อพิจารณาค่าพัฒนา พบว่า คุณลักษณะฯ ใฝ่เรียนรู้ มีค่าพัฒนาสูงสุด + 3.31 รองลงมาได้แก่ คุณลักษณะฯ รักความเป็นไทย

+ 3.11 ส่วนคุณลักษณะรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีค่าพัฒนาต่ำสุด

4.5 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ Kohchan Family โรงเรียนบ้านเกาะจัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ทั้ง 4 กลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มที่ประเมิน พบว่า

ปีการศึกษา 2561 ครูมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.33, = 0.50) อยู่ในระดับมาก รองลงมานักเรียนมีค่าเฉลี่ย ( =4.29, S.D. = 0.44) อยู่ในระดับมาก ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.13, S.D. = 0.67) อยู่ในระดับมากเช่นกัน

ปีการศึกษา 2562 ครู มีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นสูงสุด ( = 4.68, = 0.46) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ย ( =4.66, S.D. = 0.50) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( =4.61, S.D. = 0.50) อยู่ในระดับมากที่สุด เช่นกัน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1.1 กิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อการนำข้อมูลนักเรียนมาใช้ในการคัดกรองนักเรียน และการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจึงควรดำเนินกิจกรรมนี้ต่อไป ทั้งนี้เป็นการสนองต่อนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย

1.2 โรงเรียนควรเพิ่มระยะเวลาในการเยี่ยมบ้านให้มากขึ้น เพื่อจะได้พบปะกับบิดา มารดา ผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลนักเรียนมากขึ้น

1.3 ผู้บริหารโรงเรียนควรสนับสนุนสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครูที่ดูแลนักเรียน เช่น นักเรียนได้รับรางวัลคุณธรรมดีเด่นจากการแข่งขัน หรือได้รับการคัดเลือกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ และชื่นชมยกย่องนักเรียนที่มีความประพฤติดีมีคุณธรรม อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้งต่อภาคเรียน

1.4 การประเมินโครงการในครั้งนี้ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ซึ่งเป็นรูปแบบการประเมินที่ครอบคลุมปัจจัยในการบริหารโครงการและสอดคล้องกับการประเมินทางการศึกษา สามารถนำรูปแบบการประเมินดังกล่าวนี้ไปใช้ประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนหรือโครงการอื่นๆได้

2. ข้อเสนอแนะในการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรมีการศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างละเอียดในแต่ละกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ส่งผลต่อผลสำเร็จของโครงการ

2.2 ควรใช้วิธีการและเครื่องมือในการประเมินอย่างหลากหลายเพื่อให้ได้ผลการประเมินที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองจากการประชุมผู้ปกครองนักเรียน เป็นต้น

โพสต์โดย นายอะหมัด สาและ : [21 มี.ค. 2564 เวลา 07:47 น.]
อ่าน [3210] ไอพี : 122.154.56.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,183 ครั้ง
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น

เปิดอ่าน 3,482 ครั้ง
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร
น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร

เปิดอ่าน 14,205 ครั้ง
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม

เปิดอ่าน 19,799 ครั้ง
น้ำอาร์ซี
น้ำอาร์ซี

เปิดอ่าน 6,608 ครั้ง
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที

เปิดอ่าน 12,083 ครั้ง
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"

เปิดอ่าน 20,917 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม

เปิดอ่าน 2,450 ครั้ง
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด

เปิดอ่าน 10,027 ครั้ง
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ

เปิดอ่าน 118,395 ครั้ง
เอกสารประกอบการอบรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC
เอกสารประกอบการอบรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC

เปิดอ่าน 12,387 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!

เปิดอ่าน 18,096 ครั้ง
สิ่งของเสริมมงคลและตัวอย่างการแก้ไขฮวงจุ้ย
สิ่งของเสริมมงคลและตัวอย่างการแก้ไขฮวงจุ้ย

เปิดอ่าน 18,612 ครั้ง
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล

เปิดอ่าน 1,668 ครั้ง
วงปีของต้นไม้ บอกอะไรกับเรา
วงปีของต้นไม้ บอกอะไรกับเรา

เปิดอ่าน 16,162 ครั้ง
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ
ถั่วเขียวขจัดรอยด่างดำ

เปิดอ่าน 14,455 ครั้ง
ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพสักคำ?! ประกันชีวิตอาวุโส...เรื่องที่ต้องรู้ แต่ไม่ได้บอก
ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพสักคำ?! ประกันชีวิตอาวุโส...เรื่องที่ต้องรู้ แต่ไม่ได้บอก
เปิดอ่าน 29,611 ครั้ง
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปปางต่างๆ
เปิดอ่าน 175,651 ครั้ง
สาระดีๆ สำหรับครูที่ต้องการจัดทำผลงาน(คศ.3)
สาระดีๆ สำหรับครูที่ต้องการจัดทำผลงาน(คศ.3)
เปิดอ่าน 12,136 ครั้ง
คลิปถ่ายทอดสด "หนุ่มโดดดิ่งเวหา" จากขอบโลกยอดคนดูทำลายสถิติยูทูป
คลิปถ่ายทอดสด "หนุ่มโดดดิ่งเวหา" จากขอบโลกยอดคนดูทำลายสถิติยูทูป
เปิดอ่าน 40,365 ครั้ง
ปีอธิกสุรทิน
ปีอธิกสุรทิน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ