ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเอง
และผู้อื่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา ปีการศึกษา 2563
ผู้ศึกษา นางรัดดาวรรณ์ มาปะโท
วิทยาฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียน โรงเรียนยโสธรพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ศรีสะเกษ ยโสธร
สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วัตถุประสงค์การศึกษาได้แก่ 1) เพื่อพัฒนาชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมินกิจกรรมแนะแนว ระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดการสอน เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนยโสธรพิทยาคมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 39 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เฉพาะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.51 2) ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว จำนวน 10 เล่ม ค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.46 3) แบบทดสอบย่อยระหว่างเรียน ซึ่งเป็นแบบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 100 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20-.80 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .23-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20-.80 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .22-.80 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pre-test Post-test Design สอบก่อนการทดลอง (Pre-test) สอนโดยใช้ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว (Treatment) และสอบหลังการทดลอง (Post-test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ E1/E2 หาประสิทธิภาพของชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว ใช้ t-test ทดสอบการเปรียบเทียบผลการประเมินกิจกรรมระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม ใช้ E.I. วิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว ใช้ IOC วิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบ ใช้สถิติของแบรนแนน (Brennan) หาค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) ของแบบทดสอบย่อยระหว่างเรียนและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หาความเชื่อมั่นตามวิธีของโลเวท (Lovett) ของแบบทดสอบทั้งฉบับ (rcc) และใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ( ) ร้อยละ (P) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น เท่ากับ E1= 83.19/ E2= 82.40 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลการประเมินกิจกรรมแนะแนว ระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดการสอน เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น เมื่อนำมาเปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม พบว่า ผลการประเมินหลังจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.5 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ประสิทธิผลของชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เรื่อง การเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น มีค่าเท่ากับ 0.6893 แสดงว่าชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว ชุดนี้ ทำให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 68.93 สูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้