ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาบทเรียน LD3G เพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา

บทคัดย่อ

เรื่องที่ศึกษา การพัฒนาบทเรียน LD3G เพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา

ผู้ศึกษา นายผจญภัย เครื่องจำปา

ปีการศึกษา 2562-2563

การวิจัย และพัฒนาบทเรียน LD3G เพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีวัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 2) เพื่อศึกษาสภาพ และความต้องการด้านการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 3) เพื่อพัฒนาบทเรียน LD3G 4) เพื่อทดลองใช้บทเรียน LD3G และ 5) เพื่อขยายผลการทดลองใช้บทเรียน LD3G กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ประกอบด้วย 5 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เรียนโครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 80 คน และครูผู้สอนโครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 5 คน ที่ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง จากนักเรียนและครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดกลางของสหวิทยาเขตลุ่มน้ำมูล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ระยะที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ ครูผู้มีประสบการณ์สอนโครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 5 คน ผู้เชี่ยวชาญ 5 คน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย ระยะที่ 4 ตัวอย่างคือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 20 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 20 คน ปีการศึกษา 2563 จำนวน 42 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 21 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 21 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง และจัดเข้ากลุ่มโดยการสุ่มอย่างง่าย และระยะที่ 5 ตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาของการทำโครงงานของนักเรียนสำหรับครูและนักเรียน จำนวน 1 ฉบับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .99 2) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 ฉบับ สำหรับครูและนักเรียน ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .98 3) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการด้านการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 1 ฉบับ มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=4.88) และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .98 4) แบบประเมินบทเรียน LD3G ฉบับร่าง สำหรับครูผู้มีประสบการณ์สอนวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=4.97) และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 5) แบบประเมินความเหมาะสมของบทเรียน LD3G สำหรับผู้เชี่ยวชาญ 6) บทเรียน LD3G เพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=4.73) 7) แบบประเมินความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นรายกลุ่ม จำนวน 5 ฉบับ มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=4.94, 5.00, 4.95, 5.00, 4.84) 8) แบบประเมินความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นรายบุคคล จำนวน 2 ฉบับ มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=5.00) 9) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 ฉบับ ที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .92 และ .91 10) แบบประเมินคุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 ฉบับ สำหรับนักเรียนประเมินตนเอง มีความสอดคล้องเหมาะสม ในระดับมากที่สุด (X-bar=4.89) และสำหรับครูประเมินนักเรียน มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=4.90) ทั้งสองฉบับมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .99 และ 11) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อบทเรียน LD3G ที่มีความสอดคล้องเหมาะสมในระดับมากที่สุด (X-bar=4.90) และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ .95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพปัญหาของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 2) ด้านความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ 3) ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 4) ด้านวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ภาพรวมทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับปานกลาง (X-bar=3.29, S.D=4.52) สอดคล้องกับผลการศึกษาจากความคิดเห็นของครูที่พบว่า นักเรียนมีสภาพปัญหาทั้ง 4 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง (X-bar =3.14, S.D.=0.30)

2. สภาพการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์นักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากการวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 6 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านหลักสูตร 2) ด้านเนื้อหา 3) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 4) ด้านการสร้างบรรยากาศ การเรียนรู้ 5) ด้านการใช้สื่อการเรียนการสอน และ 6) ด้านการวัด และประเมินผล รายด้านพบมากที่สุดคือ สื่อสำหรับเรียนรู้และพัฒนาโครงงานวิทยาศาสตร์ได้ด้วยตัวนักเรียนเองมีน้อย การจัดการเรียนการสอน ที่เน้นการพัฒนาผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์มีน้อย การประเมินผลระหว่างเรียนตามสภาพจริงน้อย และ การพัฒนาจิตวิทยาศาสตร์โดยตรงมีน้อย และความคิดเห็นของครูและนักเรียนต่อสภาพการจัดการเรียน การสอนเพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับปานกลาง (X-bar=2.83, 2.54) ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการของครูที่ต้องการพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์แก่นักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar=4.60) และนักเรียนต้องการได้รับการพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar=4.67)

3. คุณภาพของบทเรียน LD3G เพื่อพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีผลการประเมินจากครูผู้มีประสบการ์สอนโครงงานวิทยาศาสตร์ ด้านความเป็นประโยชน์ ด้านความเป็นไปได้ และด้านความสมเหตุสมผล อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar=4.80, 4.76, 4.68) และมีประสิทธิภาพ 3 ด้าน คือ 1) ด้านพัฒนาความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เท่ากับ 75.25/75.50 2) ด้านพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เท่ากับ 75.45/76.03 และ 3) ด้านพัฒนาคุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 79.51/78.15

4. ผลการทดลองใช้บทเรียน LD3G สรุปได้ว่า 1) ความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนรายบุคคลหลังเรียนของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนรายกลุ่มของกลุ่มทดลองมีระดับของความสามารถและค่าเฉลี่ยของคะแนนความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์สูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความคงทนในการเรียนรู้ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของกลุ่มทดลองมีความคงทนในการเรียนรู้ที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) คุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์จากครูประเมินระหว่างเรียนและนักเรียนประเมินตนเองหลังเรียน มีความสอดคล้องกันอยู่ในระดับดี โดยระดับของคุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์ และคะแนนเฉลี่ยของคุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์ของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) ความคิดเห็นของนักเรียนที่ทดลองใช้บทเรียน LD3G ทั้ง 2 ปีการศึกษา ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านเนื้อหา 2) ด้านกระบวนการ 3) ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และ 4) ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar=4.87, 4.84)

5. การขยายผลการทดลองใช้บทเรียน LD3G กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สรุปได้ว่า 1) ความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์รายบุคคลหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความสามารถในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์รายกลุ่มทุกด้านอยู่ในระดับดีมาก 2) ผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่มีคะแนนเฉลี่ยสูง 4) คุณลักษณะด้านจิตวิทยาศาสตร์จากครูประเมินระหว่างเรียนและนักเรียนประเมินตนเอง หลังเรียนมีความสอดคล้องกัน อยู่ในระดับดี โดยมีระดับของคุณลักษณะและคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5) ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อบทเรียน LD3G ด้านเนื้อหา ด้านกระบวนการ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และด้านประโยชน์ที่ได้รับ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar=4.82)

โพสต์โดย ครูแว่น : [1 มี.ค. 2564 เวลา 19:50 น.]
อ่าน [4480] ไอพี : 101.51.227.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 90,524 ครั้ง
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์

เปิดอ่าน 13,171 ครั้ง
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท

เปิดอ่าน 14,938 ครั้ง
ชมคลิป "บัวขาว" ชนะน็อคยก 3 ศึกมวยไทยไฟต์ 2012 รอบแรก
ชมคลิป "บัวขาว" ชนะน็อคยก 3 ศึกมวยไทยไฟต์ 2012 รอบแรก

เปิดอ่าน 19,054 ครั้ง
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย

เปิดอ่าน 28,141 ครั้ง
วิธีกำจัดคราบเหลืองใต้แขนเสื้อผ้า
วิธีกำจัดคราบเหลืองใต้แขนเสื้อผ้า

เปิดอ่าน 34,638 ครั้ง
การถวายสังฆทาน
การถวายสังฆทาน

เปิดอ่าน 23,237 ครั้ง
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 20,611 ครั้ง
24 กันยายน วันมหิดล
24 กันยายน วันมหิดล

เปิดอ่าน 9,128 ครั้ง
คุณคิดว่าคอมพิวเตอร์เร็วขนาดไหน?
คุณคิดว่าคอมพิวเตอร์เร็วขนาดไหน?

เปิดอ่าน 22,616 ครั้ง
แนวทางในการพัฒนาระบบ
แนวทางในการพัฒนาระบบ

เปิดอ่าน 20,620 ครั้ง
แรงบันดาลใจ ถ่ายรูปให้ลูกมุมเดิม 14 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต ชมคลิป
แรงบันดาลใจ ถ่ายรูปให้ลูกมุมเดิม 14 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต ชมคลิป

เปิดอ่าน 23,560 ครั้ง
เทรนด์ใหม่ แต่บ้านสวยด้วย wall stickers
เทรนด์ใหม่ แต่บ้านสวยด้วย wall stickers

เปิดอ่าน 16,984 ครั้ง
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563
คู่มือการบริหารงานบุคคลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ กศจ. (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 4) สิงหาคม 2563

เปิดอ่าน 27,513 ครั้ง
ลอการิทมิกธรรมชาติ
ลอการิทมิกธรรมชาติ

เปิดอ่าน 8,941 ครั้ง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง
ข้อสอบเด็กไทย...ปัญหาใหญ่ที่ต้องมอง

เปิดอ่าน 19,613 ครั้ง
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
เปิดอ่าน 15,781 ครั้ง
คลิปโชว์การปอกมะพร้าวแบบกินได้ทั้งลูก
คลิปโชว์การปอกมะพร้าวแบบกินได้ทั้งลูก
เปิดอ่าน 17,122 ครั้ง
สมการและการแก้สมการ
สมการและการแก้สมการ
เปิดอ่าน 10,251 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
เปิดอ่าน 13,149 ครั้ง
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้
ปิดถนน 13 สาย จัดงานวันพ่อ 3 -13 ธ.ค. นี้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ