ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ สัง

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21

ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์

สังกัดเทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

ชื่อผู้วิจัย นายนิษฐิโชค ช่างสาร

ปีที่ทำวิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ.1).ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 2) พัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่.21.ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เกี่ยวกับ 4.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 4.2 ประสิทธิผลของการใช้รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ ดังนี้ การแก้ปัญหา การสร้างสรรค์ การสื่อสาร ความร่วมมือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้จากเอกสารงานวิจัยและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 7 คน ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งมี 6 องค์ประกอบ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครูและนักเรียนที่เลือกมาโดยการสุ่มแบบง่าย และ ขั้นตอนที่ 4 หาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การรับรองรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 5 ฉบับ คือ 1) ประเด็นการสนทนากลุ่ม 2) ประเด็นสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (connoisseurship) 3) แบบประเมินทักษะศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย วิธีการคิด วิธีการทำงาน เครื่องมือในการทำงาน และการดำรงชีวิตในโลก 4) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และแบบบันทึกการเรียนรู้ของผู้เรียน และ 5) แบบสอบถามความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติภาคบรรยาย และการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรม ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล 5) ปัจจัยสนับสนุน 6) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ โดยในกระบวนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 ออกแบบการเรียนรู้ (Design stage) ขั้นที่ 2 เตรียมความพร้อม (Preparation stage) ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ (Practical stage) ขั้นที่ 4 การนำไปใช้ (Production stage) ขั้นที่ 5 ประเมินผล (Evaluation stage) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของโรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ มีความเหมาะสม เป็นไปได้ และเป็นประโยชน์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้

2.1 ผู้เรียนที่ผ่านการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ 1) ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 2) การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม 3) ความสามารถเกี่ยวกับทักษะการสื่อสาร 3) ทักษะความร่วมมือและการทำงาน เป็นทีม และ 4) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ในระดับมากทุกด้าน

2.2 ผลการประเมินกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ผู้เรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้ โครงงานสะเต็มศึกษา กิจกรรมสะเต็มศึกษา กิจกรรม English on Tuesday กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ กิจกรรมกีฬา กิจกรรมสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กิจกรรมมารยาทไทย เป็นต้น นักเรียนมีความกระตือรือร้นใน การหาความรู้เพิ่มเติมทั้งในและนอกห้องเรียน กล้าแสดงออก มีความมั่นใจ แสดงแนวคิดที่แปลกใหม่ใช้วิธีการคิดหลากหลายในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ผู้เรียนสามารถปรับตัวในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี มีความประทับใจที่ได้เรียนรู้และฝึกทักษะรวมทั้งสามารถนำมาเป็นแนวทางในการเรียนรู้ของตนเอง

โพสต์โดย นิษฐิโชค ช่างสาร : [28 ก.พ. 2564 เวลา 02:52 น.]
อ่าน [3709] ไอพี : 171.7.248.160
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,434 ครั้ง
เพราะเหตุใด? หนุ่มญี่ปุ่นจึงโพสต์เตือนคนไทย อาจแห้วงานเพราะเฟซบุ๊ก!
เพราะเหตุใด? หนุ่มญี่ปุ่นจึงโพสต์เตือนคนไทย อาจแห้วงานเพราะเฟซบุ๊ก!

เปิดอ่าน 21,154 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545

เปิดอ่าน 88,936 ครั้ง
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ
แบบฟอร์มขอมีบัตรข้าราชการ ต่าง ๆ

เปิดอ่าน 21,878 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

เปิดอ่าน 11,193 ครั้ง
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต

เปิดอ่าน 14,372 ครั้ง
ทำอย่างไรเมื่อคุณก้าวเข้าสู่วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis)
ทำอย่างไรเมื่อคุณก้าวเข้าสู่วิกฤตวัยกลางคน (midlife crisis)

เปิดอ่าน 14,929 ครั้ง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง

เปิดอ่าน 12,601 ครั้ง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง

เปิดอ่าน 49,048 ครั้ง
ทีวีดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิตอล (Digital television)
ทีวีดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิตอล (Digital television)

เปิดอ่าน 2,242 ครั้ง
อิทธิพลของดวงจันทร์
อิทธิพลของดวงจันทร์

เปิดอ่าน 19,073 ครั้ง
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน

เปิดอ่าน 30,000 ครั้ง
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปปางต่างๆ

เปิดอ่าน 16,109 ครั้ง
แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด
แตงกวามีดีกว่าที่คุณคิด

เปิดอ่าน 35,076 ครั้ง
เคยรู้บ้างมั้ยว่า GNU/GPL คืออะไร
เคยรู้บ้างมั้ยว่า GNU/GPL คืออะไร

เปิดอ่าน 18,416 ครั้ง
ไม้มงคลประจำวันเกิด ปลูกเสริมโชคลาภ
ไม้มงคลประจำวันเกิด ปลูกเสริมโชคลาภ

เปิดอ่าน 26,508 ครั้ง
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล
เปิดอ่าน 21,281 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
เปิดอ่าน 77,160 ครั้ง
ประวัติโทรทัศน์ไทย
ประวัติโทรทัศน์ไทย
เปิดอ่าน 11,815 ครั้ง
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
เปิดอ่าน 8,618 ครั้ง
ทำไมนะ…ลูกเราถึงไม่ฉลาด
ทำไมนะ…ลูกเราถึงไม่ฉลาด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ