|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้รายงาน นางทัศนีย์ กองฟั่น
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) และเพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562โรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คู่มือและแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้รูปแบบ แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) หาค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test for dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ คือ รูปแบบวิธีการจัดการเรียนการสอนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน มีทักษะปฏิบัติจากทักษะย่อย ๆไปสู่ทักษะที่สมบูรณ์ คิดค้น เชื่อมโยง ต่อยอดองค์ความรู้ทางด้านนาฏศิลป์ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย ครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ในฐานะโค้ช โดยใช้พลังคำถาม ให้ข้อมูลย้อนกลับ เพื่อการเรียนรู้ต่อยอด ในการพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของผู้เรียน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะปฏิบัติ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน และเพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของผู้เรียน 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 3.1 ) ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจใช้พลังคำถาม 3.2)ขั้นที่ 2 สาธิตทักษะและให้เทคนิควิธีการ 3.3) ขั้นที่ 3 ตั้งปัญหาค้นคว้าและคิด 3.4) ขั้นที่ 4 คิดเชื่อมโยงทักษะปฏิบัติอย่างสร้างสรรค์ 3.5) ขั้นที่ 5 นำเสนอผลงาน 3.6) ขั้นที่ 6 ให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการเรียนรู้ต่อยอด 4) การวัดและประเมินผล ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์ 5) เงื่อนไขสำคัญของการใช้รูปแบบ ได้แก่ 5.1) ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ มองโลกในแง่ดี คิดนอกกรอบ เพื่อจะเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุข 5.2) ผู้เรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ยอมรับฟังความคิดเห็น และพัฒนาตนเองไปตามขั้นตอนของการเรียนรู้ผลการประเมิน 5.3) ผู้สอนเปิดใจยอมรับความคิดใหม่ รับฟังผลงาน ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนอย่างมีเหตุมีผล 5.4) ผู้สอนเป็นต้นแบบในการสาธิตทักษะปฏิบัติต่างๆ และเป็นโค้ชที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพของรูปแบบ พบว่า รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประสิทธิภาพเท่ากับ 88.40/84.72
ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 2.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์ หลังการใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2.2) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานผสมผสานการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ และการโค้ชของครู (CDC Model) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า มีระดับความพึงพอใจโดยรวม อยู่ระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย (x ̅ ) เท่ากับ 4.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.60
|
โพสต์โดย ทิด : [27 ก.พ. 2564 เวลา 11:55 น.] อ่าน [4687] ไอพี : 125.26.179.209
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 3,983 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,287 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,015 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,208 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,398 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,038 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,411 ครั้ง
| เปิดอ่าน 214,318 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,957 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,730 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,304 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,143 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,157 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 17,678 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,599 ครั้ง
| เปิดอ่าน 449,110 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,923 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,535 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|