|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา
ผู้วิจัย สุชาดา ศรีศักดิ์
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา 3) เพื่อศึกษาผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนสาธิตองค์การบริหารส่วนจังหวัด1(บ้านท่าเรือมิตรภาพที่ 30) จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4)แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนประถมศึกษา มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้และเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ SRISAK-D Model 7 ขั้นตอน 1)ขั้นสำรวจค้นหา(Survey : S) 2) ขั้นทบทวนความรู้เดิม(Review : R) 3)ขั้นแจ้งวัตถุประสงค์การเรียน(Practice : P) 4)ขั้นรวบรวม ค้นคว้า แลกเปลี่ยนเรียนรู้(Guided Practice) 5)ขั้นซักถาม วิเคราะห์หาแนวทาง (Group Practice) 6)ขั้นสรุปความรู้(Independent Practice) และ7)ขั้นตัดสินใจ(Evaluation : E) โดยที่รูปแบบการจัดการเรียนรู้การงานอาชีพเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาที่พัฒนาขึ้นมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.96/82.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง งานเกษตร ของผู้เรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ย ( = 26.50, S.D = 1.08) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 2) ผู้เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหามีค่าเฉลี่ย ( = 16.97,S.D = 1.13) สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 3) ผู้เรียนมีความความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย( = 4.67, S.D.=0.61) อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
|
โพสต์โดย เพ็ญนภา คงใหม่ : [26 ก.พ. 2564 เวลา 17:35 น.] อ่าน [4581] ไอพี : 171.6.223.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,513 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 29,933 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 59,274 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,143 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,974 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,647 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,790 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 180,385 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 35,384 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,622 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,975 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 76,801 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,613 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,309 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,393 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 20,015 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,182 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,608 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 31,576 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,401 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|