ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพ

ผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา

(กองคำราษฎร์นุสรณ์) อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้วิจัย ณิชาวีร์ สว่างพนาพันธุ์

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) และ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหาร งานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ตามลักษณะการเก็บข้อมูล ดังนี้ ระยะที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดเทศบาลตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2562 จำนวน 5 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านหนองตอง โรงเรียนสันป่าตองเทศบาลตำบลยุหว่า 1 โรงเรียนวัดสองแคว โรงเรียนเทศบาลจอมทอง 1 (ชุมชนบ้านข่วงเปาเหนือ) และโรงเรียนเทศบาลตำบลยางเนิ้ง โรงเรียนละ 1 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะที่ 2 การตรวจสอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดเทศบาลตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2562 จำนวน 5 โรงเรียน โดยเป็นโรงเรียนเดิมที่ใช้ในการเก็บข้อมูลระยะที่ 1 ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนละ 1 คน และเป็นครูผู้สอน โรงเรียนละ 4 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะที่ 3 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก ประชากรที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 1) การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการบริหาร งานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เป็นครูผู้สอนโรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์)

ปีการศึกษา 2562 จำนวน 10 คน 2) การประเมินพฤติกรรมด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน จากการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก ประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) ปีการศึกษา 2562 จำนวน 64 คน ประเมินโดยครูประจำชั้นของแต่ละชั้น ดำเนินการวิจัยตามกรอบแนวคิดการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 Analysis (R1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 Design & Development (D1) การออกแบบและพัฒนารูปแบบ ขั้นที่ 3 Implement (R2) การนำรูปแบบไปใช้ และขั้นที่ 4 Evaluation (D2) การประเมินและปรับปรุงรูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบ 2) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ของรูปแบบ 3) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบ และ 4) แบบประเมินพฤติกรรมด้านทักษะชีวิตของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และใช้สถิติ คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบ

การบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) พบว่า นโยบาย เป้าหมายการพัฒนาประเทศและการพัฒนาการศึกษามีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน คือ ต้องเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ โดยเร่งพัฒนาคนทุกช่วงวัยให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 เป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญจำเป็นสำหรับนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ทั้งในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันและเป็นทักษะที่จำเป็นในอนาคต เนื่องจากทักษะชีวิตเป็นความสามารถในการปรับตัวได้ดีในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยใช้การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถอยู่ร่วมในสังคมที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้การพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 นั้น มีความสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประกอบด้วย หลักคิด3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี เป็นหลักในการเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจากกระแสโลกาภิวัตน์ จากความสำคัญของทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ที่เป็นการเตรียมความพร้อมในตัวบุคคลเพื่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันได้อย่างมีความสุขและรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต การบริหารสถานศึกษาในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องก้าวให้ทันโลกศตวรรษที่ 21 คือ มุ่งเน้นในการพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะด้านการบริหารงานวิชาการซึ่งถือเป็นภารกิจหลักและเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนสถานศึกษา เนื่องจากเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนให้เกิดผลตามเป้าหมาย และพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีทั้งความรู้และทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 อาทิ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และแก้ไขปัญหา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความเป็นผู้รับผิดชอบ มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว อย่างไรก็ตาม การบริหารงานวิชาการในโรงเรียนขนาดเล็ก มักประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งด้านการบริหารหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล และการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา เนื่องจากครูผู้สอนมีจำนวนน้อยและครูบางส่วนขาดศักยภาพ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อประสิทธิผลของการบริหาร งานวิชาการที่มีต่อคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ

2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า “POAME Plus 3 Model" ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 และเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ โดยกระบวนการบริหารงานวิชาการ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 Planning (P) การวางแผนการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 2 Organizing (O) การจัดองค์การ ขั้นตอนที่ 3 Active Learning (A) การจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 4 Motivating (M) การจูงใจ และขั้นตอนที่ 5 Evaluation (E) การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ และการรายงานผลการสอนของครู

ผลการตรวจสอบความสมเหตุสมผลและความสอดคล้องของรูปแบบ พบว่า รูปแบบ

การบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก แบบ “POAME Plus 3 Model" มีความสมเหตุสมผลกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่นำมาใช้ในการสังเคราะห์รูปแบบ มีความสอดคล้องกับสภาพความต้องการและจำเป็นในการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนขนาดเล็กและสภาพบริบทของโรงเรียนขนาดเล็กที่สังกัดเทศบาลตำบล องค์ประกอบของรูปแบบและการดำเนินการตามองค์ประกอบมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน

ผลการตรวจสอบความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ พบว่า ในภาพรวม รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก แบบ “POAME Plus 3 Model" มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการใช้ประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุดทั้ง 3 ด้าน

3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก เพื่อส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดดอนเปา (กองคำราษฎร์นุสรณ์) เป็นดังนี้ ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบ พบว่า ในภาพรวม มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหาร งานวิชาการโรงเรียนขนาดเล็ก แบบ “POAME Plus 3 Model" อยู่ในระดับมาก และผลการประเมินพฤติกรรมด้านทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนจากการใช้รูปแบบ พบว่า ในภาพรวม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีระดับคะแนนพฤติกรรมเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย kratai : [26 ก.พ. 2564 เวลา 10:24 น.]
อ่าน [4590] ไอพี : 182.52.93.247
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,467 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ ชา
ประโยชน์และโทษของ ชา

เปิดอ่าน 27,583 ครั้ง
หมอชี้ ความเชื่อผิดๆ กินไข่ทุกวัน อันตรายเพราะคอเลสเตอรอล
หมอชี้ ความเชื่อผิดๆ กินไข่ทุกวัน อันตรายเพราะคอเลสเตอรอล

เปิดอ่าน 41,499 ครั้ง
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน

เปิดอ่าน 11,525 ครั้ง
8 สถานที่ยอดฮิตฉลองปีใหม่
8 สถานที่ยอดฮิตฉลองปีใหม่

เปิดอ่าน 13,457 ครั้ง
แหล่งไหว้พระ ขอพร ถอนเคราะห์สะเดาะกรรม ปี 2009
แหล่งไหว้พระ ขอพร ถอนเคราะห์สะเดาะกรรม ปี 2009

เปิดอ่าน 45,248 ครั้ง
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ
ธงชาติไทยเอกลักษณ์ความเป็นชาติ

เปิดอ่าน 10,939 ครั้ง
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 12,009 ครั้ง
เดิน วิ่ง เพื่อบำรุงสมอง
เดิน วิ่ง เพื่อบำรุงสมอง

เปิดอ่าน 13,262 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 23,704 ครั้ง
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!

เปิดอ่าน 31,501 ครั้ง
ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว
ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว

เปิดอ่าน 12,626 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"

เปิดอ่าน 40,334 ครั้ง
"ใบมะกรูด" แก้ความดันโลหิตสูง
"ใบมะกรูด" แก้ความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 13,802 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย

เปิดอ่าน 10,329 ครั้ง
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก
5 กิจกรรมส่งความสุข เพื่อสมองลูกรัก

เปิดอ่าน 10,540 ครั้ง
ตรุษจีน 58 กับเรื่อง ปีชง...เอาที่สบายใจ
ตรุษจีน 58 กับเรื่อง ปีชง...เอาที่สบายใจ
เปิดอ่าน 21,421 ครั้ง
จิตรกรรม
จิตรกรรม
เปิดอ่าน 15,251 ครั้ง
ภาพหาชมยาก! "ลูกเพียงพอน" ขี่หลัง "นกหัวขวาน"
ภาพหาชมยาก! "ลูกเพียงพอน" ขี่หลัง "นกหัวขวาน"
เปิดอ่าน 10,851 ครั้ง
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก
เปิดอ่าน 20,824 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ