ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับ
การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)
ชื่อผู้วิจัย นางสาคร ประเสริฐศรี
ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลชนะชัยศรี อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ปีที่ศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรคด้านความรู้ และความจำเป็นในการประเมินทักษะและกระบวนการคิด สำหรับครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) 2) สร้างแบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 3) ทดลองใช้แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 4) ประเมินผลการใช้แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลชนะชัยศรี อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จำนวน 45 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ครูเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรคด้านความรู้และการประเมินทักษะและกระบวนการคิด สำหรับครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) 2) แบบสอบถามความคิดเห็นครูเกี่ยวกับความจำเป็นในการประเมินทักษะและกระบวนการคิดในการจัดการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) 3) แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) จำนวน 7 เล่ม 4) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) จำนวน 17 แผน 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กีฬาวอลเลย์บอล จำนวน 30 ข้อ และ 6) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 ข้อ ระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการทดลอง 17 ชั่วโมง แบบแผนการทดลองเป็นแบบ One-Group Pretest-Posttest Design และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test dependent samples)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน พบว่า จากรายงานผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ประจำปีการศึกษา 2560-2561 ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลชนะชัยศรี ปีการศึกษา 2560 ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 62.17 ปีการศึกษา 2561 ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ย 66.65 เมื่อดำเนินการวิเคราะห์ผลการสอบจะเห็นว่า คะแนนทดสอบในสาระพลศึกษามีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าทุกสาระและเมื่อพิจารณาผลการทดสอบตามสาระการเรียนรู้ พบว่า สาระพลศึกษา เรื่อง วอลเลย์บอล มีคะแนนเฉลี่ยเป็น 68.64 จึงเป็นข้อสรุปที่โรงเรียนควรเร่งพัฒนาในสาระดังกล่าว
2. ก่อนการทดลองใช้แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ได้มีการหาคุณภาพความสอดคล้องและประสิทธิภาพก่อนนำมาใช้ทดลองและนำไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่างแล้ว พบว่า มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.95/83.33 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 87.24/85.04 ซึ่งมีประสิทธิ- ภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างภายหลังที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) สูงกว่าก่อนได้รับการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ภายหลังการเรียนโดยแบบฝึกทักษะปฏิบัติกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA Model) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
(พลศึกษา) อยู่ในระดับมากที่สุด