ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน

เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 4

ผู้วิจัย นางสาวนภาทิพย์ สิทธิชัย

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว สำนักการศึกษา เทศบาลนครภูเก็ต

ปีที่วิจัย 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในด้านผลสัมฤทธิ์ของมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ประเมินผลรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในด้านความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 51 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบประเมินความต้องการพื้นฐานเพื่อการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว14101 2) แบบสัมภาษณ์ครูเพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 3) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ 4) แบบวัดผลสัมฤทธิ์เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ 5) แบบสัมภาษณ์ 6) แบบประเมินการคิดและการแก้ปัญหาตามสภาพจริง 7) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที (t-test) แบบ Dependent Samples และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมแล้ว นักเรียนมีความต้องการพัฒนาทักษะ การคิดแก้ปัญหา ได้แก่เนื้อหาในหนังสือวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ว14101 และเนื้อหาที่สอดคล้องกับหลักสูตรโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว ระดับประถมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2560 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้แก่ 1) การสำรวจข้อมูล 2) การรู้จักซอฟต์แวร์ตารางทำงาน 3) การสร้างตารางทางเลือกและการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อสินค้า 4) การสร้างทางเลือกและตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางและสถานที่เที่ยว 5) แผนภูมิรูปภาพ 6) แผนภูมิวงกลมและแผนภูมิแท่ง จากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สรุปข้อมูลสอดคล้องกันว่า นักเรียนไม่มีความรู้ความเข้าใจในการเรียนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาตอนต้น ทำให้ขาดความกระตือรือร้นในการเรียนจนไม่สามารถพัฒนามโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ได้ การจัดการสอนด้วยรูปแบบการสอน ALICE Model นี้ ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถพัฒนามโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีชื่อเรียกว่า รูปแบบการสอน ALICE Model มีองค์ประกอบดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการจัดกิจกรรม และสิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน มีขั้นตอนการสอน 5 ขั้น ดังนี้ 1) ขั้นเร้าความสนใจ (Activating) 2) ขั้นเรียนรู้ (Learning) 3) ขั้นตรวจสอบข้อเท็จจริง (Investigating) 4) ขั้นสรุปและเสนอผลงาน (Concluding) 5) ขั้นประเมินผล (Evaluating) ซึ่งรูปแบบการสอนนี้ได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ให้ความเห็นว่าอยู่ในระดับดี แสดงว่ารูปแบบการสอนมีความสอดคล้องกับหลักการของรูปแบบการสอน และแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่มีคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด และนำรูปแบบการสอนไปใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.89/83.33

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอน ALICE Model ที่พัฒนาขึ้น สามารถสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนมีความสนใจกระตือรือร้นในการเรียนรู้ร่วมกันทั้งงานรายบุคคลและงานกลุ่ม อย่างตั้งใจ ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี พบว่า ผลการเรียนรู้ความสามารถด้านมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเพื่อสร้างเสริมมโนทัศน์และการคิดเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X = 4.46 , S.D. = 0.61)

โพสต์โดย ทิพย์ : [24 ก.พ. 2564 เวลา 11:53 น.]
อ่าน [3093] ไอพี : 202.176.131.84
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,566 ครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง

เปิดอ่าน 47,141 ครั้ง
คุณสมบัติของรัฐมนตรี
คุณสมบัติของรัฐมนตรี

เปิดอ่าน 17,298 ครั้ง
กาฬโรคปอด Pneumonic Plague
กาฬโรคปอด Pneumonic Plague

เปิดอ่าน 85,025 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 13,099 ครั้ง
คุณรู้จักตัวเองดีพอ...หรือยัง ? ลองประเมินตัวเองดูที่นี่
คุณรู้จักตัวเองดีพอ...หรือยัง ? ลองประเมินตัวเองดูที่นี่

เปิดอ่าน 14,462 ครั้ง
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้

เปิดอ่าน 2,865 ครั้ง
"พริกด่างญี่ปุ่น" พืชผักสวนครัว ผลทานได้
"พริกด่างญี่ปุ่น" พืชผักสวนครัว ผลทานได้

เปิดอ่าน 8,083 ครั้ง
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม

เปิดอ่าน 23,060 ครั้ง
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!
คนจีนบ้าเรียน"ภาษาอังกฤษ" ขณะที่ไทยติดหล่มอยู่รั้งท้าย!

เปิดอ่าน 15,484 ครั้ง
ตัวอย่างรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2561
ตัวอย่างรายชื่อหนังสือเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ปีการศึกษา 2561

เปิดอ่าน 13,203 ครั้ง
เรื่องปูนๆ กับท่อปูนที่คุณอาจยังไม่รู้
เรื่องปูนๆ กับท่อปูนที่คุณอาจยังไม่รู้

เปิดอ่าน 21,996 ครั้ง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง

เปิดอ่าน 12,345 ครั้ง
สมาธิสั้นเทียม
สมาธิสั้นเทียม

เปิดอ่าน 59,301 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning

เปิดอ่าน 10,023 ครั้ง
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ
สร้างความรู้ใหม่ คือหัวใจปฏิรูปการศึกษา : เสรี พงศ์พิศ

เปิดอ่าน 9,644 ครั้ง
ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว
ตามคาด! แอปเปิลเปิดตัว 'ไอแพด มินิ' จอกว้าง 7.9 นิ้ว
เปิดอ่าน 12,437 ครั้ง
สำหรับท่านที่พลาด คลิปเต็ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" พลาดท่าพ่ายนักชกรัสเซีย โดนศอกเลือดอาบ
สำหรับท่านที่พลาด คลิปเต็ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" พลาดท่าพ่ายนักชกรัสเซีย โดนศอกเลือดอาบ
เปิดอ่าน 10,425 ครั้ง
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
เปิดอ่าน 11,918 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 37 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง บัญญัติ 10 ประการในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยในปัจจุบัน
จดหมายฉบับที่ 37 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง บัญญัติ 10 ประการในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยในปัจจุบัน
เปิดอ่าน 13,635 ครั้ง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง
ทำโยคะบนใบหน้าตนเอง เพื่อใบหน้าเต่งตึง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ