|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการคิดแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ (PEPOTE) เรื่อง งาน
และพลังงาน รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 (ว31202) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย กชภชมษ์ บุญนาค
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนและ เพื่อศึกษาประสิทธิผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน การวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ การศึกษาแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง การออกแบบและพัฒนารูปแบบ และการนำรูปแบบไปใช้เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 แผนการเรียนวิทย์-คณิต ของโรงเรียนซับนกแก้ววิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ และแบบสอบถามความพึงพอใจการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนการคิดแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ (PEPOTE) เรื่อง งานและพลังงาน รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 (ว31202) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีองค์ประกอบสำคัญ ประกอบด้วย หลักการและแนวคิด วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน การวัดผลและ การประเมินผล กระบวนการเรียนการสอน มี 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นกำหนดสถานการณ์ปัญหา (Problem situation) ขั้นการค้นคว้า (Exploration) ขั้นวางแผนการแก้ปัญหา (Plan the solution) ขั้นจัดระเบียบความรู้ (Organize knowledge) ขั้นทดสอบความคิด (Thinking test) และขั้นขยายผลของคำตอบ (extend results the answer) ผลการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด และมีคะแนนประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.57/80.58 ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลการศึกษาประสิทธิผลการใช้รูปแบบ พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียน การสอนการคิดแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์ (PEPOTE) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนมีคะแนนความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาฟิสิกส์หลังเรียน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 ขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 90.63 ของนักเรียนทั้งหมด และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
|
โพสต์โดย ชม : [20 ก.พ. 2564 เวลา 05:49 น.] อ่าน [4426] ไอพี : 125.25.215.99
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 19,568 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,190 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,341 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,437 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,406 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,726 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,425 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,163 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,349 ครั้ง
| เปิดอ่าน 62,117 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,705 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,763 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,696 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,363 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,309 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 27,225 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,683 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,841 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,314 ครั้ง
| เปิดอ่าน 76,411 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|