การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์(1) 1.เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี 2.เพื่อสร้างการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี
3.เพื่อทดลองใช้การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี 4.เพื่อประเมินผลการใช้และปรับปรุงการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ได้ใช้ครูทั้งหมดในการทดลองใช้รูปแบบฯ ได้แก่ ครูจำนวน 62 คน แยกเป็น ครูผู้นิเทศจำนวน 12 คน ครูผู้รับการนิเทศจำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบประเมิน แบบสังเกตและประเด็นสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (m)ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1.ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพการดำเนินงานของการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ที่ผ่านมาพบปัญหาคล้ายคลึงกับที่ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง คือ ครูขาดความรู้ความเข้าใจ ขาดทักษะในการทำวิจัยในชั้นเรียน ไม่สามารถวิเคราะห์ปัญหาและนำปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนมาแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ และไม่สามารถนำสิ่งที่ปฏิบัติอยู่มาเขียนเป็นรายงานการวิจัยได้ และสอบถามระดับปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และระดับความต้องการการทำวิจัยในชั้นเรียนโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
2.รูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพของครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนโรงเรียนบ้านเป้าวิทยา ที่สร้างขึ้น ชื่อว่า CIPDER Modelโดยมีองค์ประกอบที่ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ และเงื่อนไขการนำรูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการไปใช้ โดยมีกระบวนการในการนิเทศ 6 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 การคัดกรองระดับความรู้และทักษะความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้และการทำวิจัยในชั้นขั้นการให้ความรู้ก่อนการนิเทศ การวางแผนการนิเทศ การดำเนินการนิเทศ การประเมินผลการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ ขั้นตอนที่ 6 การสะท้อนผลการนิเทศ รูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการโดยผู้เชี่ยวชาญโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
3.ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถนภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานีรบว่า (1) ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการของครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศหลังการนิเทศสูงกว่าก่อนการนิเทศ(2) ความสามารถในการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการของครูผู้นิเทศโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก(3) ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศ หลังการนิเทศสูงกว่าก่อนการนิเทศ(4)ทักษะการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้รับการนิเทศโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (5)จิตวิจัยของครูผู้รับการนิเทศโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก งานวิจัยในชั้นเรียนที่ผ่านการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี และ (7) ความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานีโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. ผลการประเมินการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ตามความคิดเห็นของครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศพบว่าโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และจากการสนทนากลุ่มร่วมกันของครูผู้นิเทศ และครูผู้รับการนิเทศ หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองใช้รูปแบบผู้ร่วมสนทนากลุ่มให้ความคิดเห็นว่า องค์ประกอบของรูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสม และสอดคล้องซึ่งกันและกัน เป็นกระบวนการที่มีประโยชน์มาก เป็นกระบวนการที่มีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กันของแต่ละขั้นตอน ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านการพัฒนางาน และองค์ความรู้ส่วนองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำไปใช้ เป็นองค์ประกอบที่มีความจำเป็นในการพัฒนาครูด้านการทำวิจัยในชั้นเรียน ซึ่งครูจะต้องทำด้วยความเต็มใจ เต็มกำลังเต็มความสามารถ ร่วมมือกัน มีความรับผิดชอบและมีมนุษยสัมพันธ์ เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากนี้ผู้บริหารต้องตระหนักถึงความสำคัญของการนิเทศ ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกและการสร้างขวัญกำลังใจให้กับครู