ชื่อเรื่อง การพัฒนากระบวนการคิดที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ในนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ผู้วิจัย ฐิยาภา ตันศรีศิริพล
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการในลักษณะการวิจัยและพัฒนา (Research and development) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ในนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ด้านความคิดคล่องแคล่ว ความคิดริเริ่ม ความคิดยืดหยุ่น และความคิดละเอียดลออของนักเรียนชั้นชั้นอนุบาล 3 ก่อนและหลังได้รับการฝึกคิดแบบระดมพลังสมอง
2. เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ด้านความคิดคล่องแคล่ว ความคิดริเริ่ม ความคิดยืดหยุ่น และความคิดละเอียดลออของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ก่อนและหลังได้รับการฝึกคิดแบบมีประสิทธิภาพตามทฤษฎีของเดอ โบโน
3. เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ด้านความคิดคล่องแคล่ว ความคิดริเริ่ม ความคิดยืดหยุ่น และความคิดละเอียดลออของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่ได้รับการฝึกคิดแบบระดมพลังสมอง กับนักเรียนที่ได้รับการฝึกคิดแบบมีประสิทธิภาพตามทฤษฎีของเดอ โบโน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมือง
บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน การได้มาของกลุ่มทดลองใช้
วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีจับสลากเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม
จำแนกเป็น
1. กลุ่มทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมือง
บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 20 คน
2. กลุ่มควบคุม ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมือง
บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 20 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ คู่มือการพัฒนากระบวนการคิดแบบระดมพลังสมอง คู่มือ การพัฒนากระบวนการคิดแบบมีประสิทธิภาพตามทฤษฎีของเดอ โบ โน และแบบวัดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างขึ้น โดยประมวลจากทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สูตร KR-20 ของ Kuder Richardson วิเคราะห์ดัชนีความยากง่ายและอำนาจจำแนกของข้อสอบ ค่า t-test และการคำนวณหาค่า IOC
ผลการวิจัย พบว่า
1.นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัด
นครราชสีมา ที่ได้รับการฝึกคิดแบบระดมพลังสมองมีความคิดสร้างสรรค์โดยรวมและรายด้านทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านความคิดคล่องแคล่ว ด้านความคิดยืดหยุ่น ด้านความคิดริเริ่ม และด้านความคิดละเอียดลออ สูงกว่าก่อนได้รับการฝึกระดมสมองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.นักเรียนชั้นชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัด
นครราชสีมาที่ได้รับการฝึกคิดแบบมีประสิทธิภาพตามทฤษฎีของเดอ โบโน มีความคิดสร้างสรรค์โดยรวมและรายด้านทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านความคิดคล่องแคล่ว ด้านความคิดยืดหยุ่น ด้านความคิดริเริ่ม และด้านความคิดละเอียดลออ สูงกว่าก่อนได้รับการฝึกคิดแบบมีประสิทธิภาพตามทฤษฎีของ เดอ โบโน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านบัวใหญ่) เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จังหวัด
นครราชสีมา ที่ได้รับการฝึกคิดแบบระดมพลังสมองและแบบมีประสิทธิภาพตามทฤษฎีของ เดอ โบโน มีความคิดสร้างสรรค์ทั้งโดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน