ชื่อวิจัย การพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model
สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย ณัฎฐ์กร สวยเกษร
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนบ้านดงซ่อม สังกัด สพป.กำแพงเพชร เขต 1
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพและดัชนีประสิทธิผลการพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลคะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ผู้วิจัยได้ใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนบ้านดงซ่อม อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 19 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B -SLIM Plus Model ในรายวิชา
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจทางการเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ
สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า E1/E2 ค่า E.I และ ค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการใช้นวัตกรรมการพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 90.2/89.1 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (80/80) และดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้เท่ากับ 0.73 หรือมีความก้าวหน้าในการเรียน ร้อยละ 73 ซึ่งอยู่ในระดับสูง
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยการพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ โดยผู้เรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 29.73 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 44.52
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาทักษะการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ค่าเฉลี่ยสูงสุด (=4.79) และค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ แบบฝึกทักษะการพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการสอน B-SLIM Plus Model มีความเหมาะสม หลากหลาย คำถามอ่านแล้วเข้าใจถูกต้องชัดเจน (= 4.60 )