ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย: นางมัลลิกา ศิริเพ่งไพฑูรย์

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งสุ่มมาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ (1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (3) ประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้วิจัยกำหนดเป้าหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือให้สูงขึ้น ในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ ดังกล่าวนี้ ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อทราบคุณภาพ ของรูปแบบการเรียนการสอน

การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง และการดำเนินการใช้รูปแบบการเรียนการสอน ที่พัฒนาขึ้น คือ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของผู้เรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มทดลองที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มของค่าเฉลี่ย โดยการหาค่าที (Dependent t-test and Independent t-test) ทดสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การอภิปรายและสรุปผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า

1. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ หลักการของรูปแบบการเรียนการสอน วัตถุประสงค์ของรูปแบบการเรียนการสอน กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัด ประเมินผล วิเคราะห์ความตรงเชิงเนื้อหาด้วยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง ได้ค่าเท่ากับ 0.85 นับว่าเป็นรูปแบบที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ได้

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบ แสดงว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เข้าร่วมกิจกรรมตามรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และสูงกว่าผู้เรียนที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01

คำสำคัญ : รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ,ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

โพสต์โดย พรพรรณ ป้อมแก้ว : [12 ก.พ. 2564 เวลา 09:41 น.]
อ่าน [4609] ไอพี : 182.232.53.126
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,075 ครั้ง
EQ กับวัยทำงาน
EQ กับวัยทำงาน

เปิดอ่าน 5,511 ครั้ง
แนะวิธีเลี้ยงผึ้งโพรงสำหรับเกษตรกรมือใหม่
แนะวิธีเลี้ยงผึ้งโพรงสำหรับเกษตรกรมือใหม่

เปิดอ่าน 16,947 ครั้ง
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"

เปิดอ่าน 14,016 ครั้ง
รวมเมนูอาหารเจ
รวมเมนูอาหารเจ

เปิดอ่าน 37,591 ครั้ง
5 สัญญาณเตือนพ่อแม่ จากผลกระทบการเลื่อนเปิดเทอม
5 สัญญาณเตือนพ่อแม่ จากผลกระทบการเลื่อนเปิดเทอม

เปิดอ่าน 38,057 ครั้ง
5คำแนะนำป้องกันครูจากการเป็นหนี้
5คำแนะนำป้องกันครูจากการเป็นหนี้

เปิดอ่าน 30,151 ครั้ง
อยากลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น อย่าพลาดผัก-ผลไม้เหล่านี้นะ
อยากลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น อย่าพลาดผัก-ผลไม้เหล่านี้นะ

เปิดอ่าน 14,184 ครั้ง
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย
"หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย

เปิดอ่าน 20,361 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"

เปิดอ่าน 21,592 ครั้ง
แบบคำร้องขอย้ายครู ตามหนังสือ ว 18/2565 หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
แบบคำร้องขอย้ายครู ตามหนังสือ ว 18/2565 หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 21,499 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ ชา
ประโยชน์และโทษของ ชา

เปิดอ่าน 31,394 ครั้ง
การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน

เปิดอ่าน 13,127 ครั้ง
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?
5 พฤติกรรมสุดฮิตของคนติด LINE ฉบับขายหัวเราะ ดูกันหรือยังครับ?

เปิดอ่าน 9,450 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก

เปิดอ่าน 17,581 ครั้ง
วิธีการพับเสื้อยืดอย่างรวดเร็ว
วิธีการพับเสื้อยืดอย่างรวดเร็ว

เปิดอ่าน 27,056 ครั้ง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เผย 5 สมุนไพร ลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 14,081 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
เปิดอ่าน 10,139 ครั้ง
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
ล้างมืออย่างไร ให้สะอาดสูงสุด
เปิดอ่าน 13,563 ครั้ง
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"
เปิดอ่าน 15,779 ครั้ง
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ