|
|
การวิจัยการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H
วิธีการวิจัยประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H โดยการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ศึกษาหลักการ แนวการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลตามแนวคิดการสอนวิชาภาษาไทย ศึกษาหลักการ แนวการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เชิงลึก 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการร่างรูปแบบฯ ประเมินรูปแบบฯ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และทดสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เรื่อง การอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบบันทึกการประชุมแบบมีส่วนร่วม แบบประเมินรูปแบบการเรียนการสอน คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เรื่อง การอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบฯ และคู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอนฯ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และแบบบันทึกสภาพการจัดการเรียนการสอน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เรื่อง การอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H พบว่า 1) สภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย มีสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยโดยเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมาก สภาพการจัดชั้นเรียนมีการจัดชั้นเรียนให้นักเรียนนั่งเป็นกลุ่มตามความสมัครใจ การจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยส่วนใหญ่มีขั้นนำเข้าสู่บทเรียนโดยการตั้งคำถามเพื่อทบทวนความรู้เดิม ขั้นสอนส่วนใหญ่ใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนโดยครูเป็นผู้บรรยายและให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาในแบบเรียนหรือใบความรู้ประกอบการบรรยาย เนื้อหาในการจัดการเรียนการสอนใช้ตามแบบเรียนของสำนักพิมพ์ต่างๆ และครูจะจัดทำเอกสารประกอบการสอนเพิ่มเติม การสอนส่วนใหญ่เน้นด้านความรู้โดยให้นักเรียนปฏิบัติการทำใบงานหรือแบบฝึกหัด และมีการนำเสนอผลการทำงานเป็นบางครั้งเนื่องจากเวลาไม่เพียงพอ มีการสรุปบทเรียนโดยการใช้คำถาม หรือมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปสรุปความรู้ที่ได้ศึกษาเนื้อหาและทำกิจกรรมมาส่ง ครูส่วนใหญ่มีความเห็นว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาด้านผลสัมฤทธิ์ ด้านความสามารถในการอ่าน ควรมีการนำเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบต่างๆ ที่เหมาะสมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถของนักเรียน เช่น เทคนิคการเรียนแบบโครงงาน การเรียนโดยใช้สมองเป็นฐาน การเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน การเรียนแบบร่วมมือ การเรียนการสอนโดยใช้วิธีการอ่านแบบ SQ3R, SQ4R, เทคนิค 5W1H 2) ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย พบว่า ผู้บริหารควรมีภาวะผู้นำทางวิชาการโดยร่วมกำหนดนโยบายกับฝ่ายวิชาการและหัวหน้ากลุ่มสาระในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อต้องการให้การจัดการศึกษามุ่งสู่ความสำเร็จทั้งด้านผลสัมฤทธิ์และความเป็นเลิศทางวิชาการ คณะครูควรมีบทบาทในการจัดการเรียนการรู้ที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามที่กำหนดเป็นเป้าหมาย เน้นการสอนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายและมีวิธีการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียน ลักษณะของนักเรียนควรมีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ และทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ควรจัดกระบวนการเรียนการสอนให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความมั่นใจในตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้ รู้เท่าทันสาระสนเทศในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีความมุ่งมั่น อดทน รับผิดชอบต่อส่วนรวม ข้อสําคัญต้องจุดประกายด้วยประเด็นคำถามให้นักเรียนเกิดความอยากรู้ก่อนจึงจะอยากเรียน ครูต้องจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เป็นผู้ดำเนินการเรียนรู้โดยมีครูคอยเป็นผู้กระตุ้น ให้คำแนะนำ ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน ให้นักเรียนเรียนรู้จากการเรียนแบบลงมือทํา โดยมีประเด็นคําถามอยากรู้เป็นตัวกระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจให้อยากเรียน ที่จะนําไปสู่การกระตือรือร้นที่จะสืบค้น รวบรวมความรู้จากแหล่งต่าง ๆ มาสนับสนุน หรือโต้แย้งข้อสมมติฐานคําตอบที่คุ้นเคย 3) ผลการศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนภาษาไทย พบว่า แนวการจัดการเรียนรู้เน้นกระบวนการที่นักเรียนเป็นผู้คิด ลงมือปฏิบัติ ศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบด้วยกิจกรรมหลากหลาย มีความสามารถในการสืบเสาะหาความรู้ ลดบทบาทของครูผู้สอนจากการเป็นผู้บอกเล่า บรรยาย เป็นการวางแผนจัดกิจกรรมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการความรู้ร่วมกับวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H พบว่า 1) ผลการสร้างร่างรูปแบบการเรียนการสอนและร่างคู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เรื่อง การอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีองค์ประกอบของรูปแบบ ประกอบด้วย (1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานการเรียนรู้ (2) จุดมุ่งหมาย (3) กระบวนการเรียนการสอน ซึ่งมีขั้นตอนการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H ประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้น ได้แก่ ขั้นการกำหนดสิ่งที่ต้องเรียนรู้ (Knowledge Defining) การสำรวจความรู้ (Knowledge Exploration) ขั้นการรวบรวมรู้ (Knowledge Gathering) ขั้นการแบ่งปันความรู้ (Knowledge Sharing) ขั้นการบันทึกความรู้ (Knowledge Record) ขั้นการนำความรู้ไปใช้ (Knowledge Apply) และขั้นการประเมินความรู้ (Knowledge Evaluation) (4) การวัดและประเมินผล 2) ผลการประชุมแบบมีส่วนร่วมของครูผู้สอนรายวิชาภาษาไทย พบว่า ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยกับองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนซึ่งมีความครบถ้วนเหมาะสม ในกระบวนการเรียนการสอนมีขั้นตอนการเรียนที่เหมาะสมในการพัฒนานักเรียนให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง 3) ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 4) ผลการทดสอบประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H ซึ่งไม่ใช่นักเรียนกลุ่มตัวอย่างเทียบกับเกณฑ์ 80/80 พบว่า ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนในการทดสอบประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็กมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 78.42/78.02 และในการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80.79/80.19 ซึ่งค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H ที่พัฒนาขึ้นเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H เรื่อง การอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการความรู้ (KM) ร่วมกับวิธีการอ่านแบบ SQ4R เสริมด้วยเทคนิคการตั้งคำถามแบบ 5W1H ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย นางวิมลนิตย์ หมอกกระโทก : [9 ก.พ. 2564 เวลา 07:27 น.] อ่าน [5018] ไอพี : 223.205.246.119
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,308 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,788 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,966 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,704 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,132 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,716 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,347 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,972 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,703 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,903 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,042 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,927 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,692 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,312 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 13,387 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,789 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,391 ครั้ง
| เปิดอ่าน 189,337 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,439 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|