|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการด้านการจัดการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ MOBTEC Model เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ MOBTEC Model เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ MOBTEC Model มีการดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 S : Survey การสำรวจเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลในการสร้าง/พัฒนานวัตกรรม ขั้นตอนที่ 2 P : Product/ Innovation Development การสร้างและพัฒนานวัตกรรม ขั้นตอนที่ 3 I: Implementation การทดลองเพื่อตรวจสอบคุณภาพของนวัตกรรม ขั้นตอนที่ 4 E : Evaluation & Revision การประเมินและปรับปรุง ในขั้นตอน การทดลองเพื่อตรวจสอบรูปแบบฯ นำไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ จำนวน 35 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์สภาพการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย คู่มือการใช้รูปแบบและแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการทดสอบค่าที (Dependent Sample t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1) สภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ฟิสิกส์เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง พบว่า นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงค่อนข้างน้อยมีสาเหตุมาจากหลายประการ ทั้งปัญหาเกี่ยวกับตัวครู คือ ครูผู้สอนไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการเรียนรู้ ขาดใช้สื่ออุปกรณ์ ใช้วิธีสอนแบบบรรยาย ปัญหาเกี่ยวกับตัวนักเรียน นักเรียนสนใจวิชาฟิสิกส์น้อย เป็นวิชาที่นักเรียนไม่ค่อยเข้าใจเนื่องจากมีการใช้คณิตศาสตร์และความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ปัญหาด้านสื่อการเรียนการสอน ขาดสื่อการเรียนการสอนและแบบทดสอบที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์การทดลองวิทยาศาสตร์ ไม่ทันสมัย แผนการจัดการเรียนรู้ขาดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างครบถ้วน และที่สำคัญคือรูปแบบการจัดการเรียนรู้ส่วนใหญ่ครูจะเป็นผู้อธิบายให้ความรู้ในเนื้อหาหรือให้นักเรียนศึกษาจากใบความรู้ ใบงาน หนังสือ โดย ครูและนักเรียนมีความต้องการให้การเรียนรู้เป็นลักษณะที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นผ่านกิจกรรมการทดลอง การสืบเสาะหาความรู้ ที่เป็นกระบวนการขั้นตอนของการเรียนวิทยาศาสตร์อย่างเหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจะเป็นวิธีการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดจิตวิทยาศาสตร์อย่างยั่งยืน
2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นเป็นการบูรณาการการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ (7E) และการจัดการเรียนรู้แบบปฏิบัติการ (Active Learning) ร่วมกับแนวทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructionism) และทฤษฎีการถ่ายโยงการเรียนรู้ (Transfer of Learning Theory) โดยมีองค์ประกอบ คือ 1) หลักการและแนวคิด 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) บทบาทครู 5) บทบาทนักเรียน 6) บรรยากาศการเรียนรู้ และ 7) การวัดและประเมินผล เรียกว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ MOBTEC Model เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 M : Motivation ขั้นกระตุ้นความสนใจใฝ่เรียนรู้ ขั้นที่ 2 O : Observation ขั้นสังเกตสำรวจปัญหา ขั้นที่ 3 B : Brainstorming ขั้นระดมสมองค้นคว้าพัฒนา ขั้นที่ 4 T : Transferring ขั้นถ่ายโอนความรู้สู่การออกแบบใหม่ๆ ขั้นที่ 5 E : Extension ขั้นเผยแพร่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงาน และ ขั้นที่ 6 C : Concluding ขั้นสรุปความรู้เพื่อประยุกต์ใช้ โดยรูปแบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 82.33/82.10 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
3) ความสามารถด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 หลังการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ MOBTEC Model สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้
4) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ MOBTEC Model มีค่าเฉลี่ยรวม 4.58 อยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย ัya : [3 ก.พ. 2564 เวลา 10:24 น.] อ่าน [4640] ไอพี : 101.51.23.216
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 38,517 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,037 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,678 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,767 ครั้ง
| เปิดอ่าน 60,177 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,467 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,980 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,576 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,797 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,804 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,986 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,992 ครั้ง
| เปิดอ่าน 59,118 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,863 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 90,524 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,461 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,069 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,738 ครั้ง
| เปิดอ่าน 58,723 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|