ชื่อเรื่อง การวิจัยและพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาววีนา สุขนวม
ปี พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์80/80 3) เพื่อทดลองใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ครั้งนี้ คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดไชนาวาส กองการศึกษา เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แบบบันทึกสนทนากลุ่ม 3) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบกลุ่มเดียว(One Sample t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีปัญหา เนื้อหาเรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม ควรแก้ไขปัญหาโดยใช้รูปแบบการสอนใหม่ การเรียนรู้โดยให้นักเรียนได้แสดงออกและมีส่วนร่วมในกิจกรรมโดยการปฏิบัติ เน้นการฝึกจากสถานการณ์จริงและพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา ทำฝึกบ่อยๆ ซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง
2. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.78 , S.D. = 0.32) และมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 97.88/88.89
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การบวก การลบ และการคูณทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.40