บทคัดย่อ
เรื่องที่ศึกษา : แบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ เพื่อพัฒนาทักษะ
งานประดิษฐ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง
ชื่อผู้ศึกษา : นางสาวอรทัย ฟองสุวรรณ
ครูโรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สพป.ยล เขต 3
ปีที่ศึกษา : 2563
รายงานการศึกษาในครั้งนี้ผู้ศึกษามีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อหาค่าประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 จำนวน 35 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจักการเรียนรู้ จำนวน 27 แผน แบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ จำนวน 5 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา จำนวน 30 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีหาค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ใช้ค่า E1 และ E2 หาค่าประสิทธิภาพเครื่องมือ และเปรียบเทียบความแตกต่างด้วยค่า ที (T-test ) พบว่าได้ผลดังนี้
1. ค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง
มีค่าเท่ากับ 88.76/88.10 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 20.60 คะแนน หรือร้อยละ 68.67และ ส่วนเบี่ยงมาตรฐาน S.D. เท่ากับ 2.68 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 26.43 คะแนนร้อยละ 92.03 ส่วนเบี่ยงมาตรฐาน S.D. เท่ากับ 2.16 หรือร้อยละ 88.10 มีค่าพัฒนา Mean เท่ากับ 5.83 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. เท่ากับ 1.93 ที (T-test ) 17.843 ตามลำดับและเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน
พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ใช้แบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนบ้าน
อัยเยอร์เวง สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. แสดงผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง โดยภาพรวมมีความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน SD เท่ากับ 0.55 อยู่ในระดับความพึงพอใจที่มากที่สุด
สรุปได้ว่า แบบฝึกทักษะการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับนักเรียน สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดียิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01