ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบแสดงบทบาทสมมุติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่องานวิจัย การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบแสดงบทบาทสมมุติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวเดือนฉาย อำทะวงษ์

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนซับสมบูรณ์พิทยาลัย อำเภอโคกโพธิ์ชัย จังหวัดขอนแก่น

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนบทบาทสมมุติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ 2) เพื่อสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และ4) เพื่อประเมินการใช้แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนบทบาทสมมุติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างสำหรับใช้ในการวิจัย จำนวน 23 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนทรัพย์สมบูรณ์พิทยาลัย อำเภอโคกโพธิ์ชัย จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนบทบาทสมมุติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน ใช้เวลา 22 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียน (Pretest) และหลังเรียน (Posttest) และ3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการสอนบทบาทสมมุติสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบ มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการทดสอบสมมุติฐานใช้ t – test (Dependent Samples) สรุปผลการวิจัยตามลำดับดังนี้

สรุปผลของการศึกษา

1. สามารถสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการศึกษาข้อมูลจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ของนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั้งหมด และจากผลการสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน สามารถสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น จำนวน 10 แผน

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบแสดงบทบาทสมมุติที่สร้างขึ้นมีขั้นตอนดังนี้

1. ขั้นเลือกสถานการณ์ ขั้นเริ่มบทเรียน กระตุ้นความสนใจผู้เรียนให้คิดและอยากติดตามเรื่องราวต่าง ๆ

2. ขั้นออกแบบการแสดง เลือกผู้แสดงขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน ให้โอกาสผู้เรียนอาสาแสดงบทบาทด้วยความเต็มใจ และควรให้เวลาในการเตรียม การแสดงและการฝึกซ้อมพอสมควร

3. ขั้นการเตรียมภาษา การทำความเข้าใจกับผู้ชมหรือผู้สังเกตการณ์ว่า กิจกรรมบทบาทสมมติที่จัดขึ้นมิได้มุ่งนาเสนอเพื่อความสนุกสนาน ความบันเทิง

4. ขั้นเตรียมสถานการณ์ แต่มุ่งให้เกิดการเรียนรู้แก่ผู้แสดงและผู้ชมหรือผู้สังเกตการณ์ดังนั้นผู้ชมควรสังเกตและมีแบบบันทึกการสังเกต เพื่อสะดวกในการเก็บข้อมูล

5. ขั้นเลือกผู้แสดง เมื่อทุกฝ่ายพร้อมแล้วให้เริ่มการแสดงตามเวลาที่กำหนด ผู้แสดงควรดูแลกำกับการแสดงอย่างใกล้คิด ไม่ควรให้ใช้เวลายาวมากเกินไป หรือแสดงออกนอกเรื่อง หรือวกวนไปมาจนผู้ชมเกิดความรำคาญหรือสับสน จนไม่สามารถจับประเด็นตามที่ต้องการได้

6. ขั้นติดตามผล แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสรุป เมื่อได้วิเคราะห์และอภิปรายผลของการแสดงแล้ว ผู้สอนจะเป็นผู้เร้าและจูงใจให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดแนวคิดกว้างขวางขึ้น โดยให้ข้อคิดว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้หรือพบเห็นเป็นสิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องบนพื้นฐานความเป็นจริงในวิถีชีวิตทั้งสิ้น แล้วให้ผู้เรียนช่วยกันกำหนดกรอบแนวคิดของเรื่อง สรุปประเด็นให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการแสดงที่กำหนดไว้ และมีค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ E1/E2=80.43/80.54

3. คะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนบทบาทสมมุติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีค่าเฉลี่ย 25.73 และ 32.21 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพบว่าแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนบทบาทสมมุติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในระดับพึงพอใจมาก

โพสต์โดย เดือน : [10 ม.ค. 2564 เวลา 17:25 น.]
อ่าน [5045] ไอพี : 171.4.247.148
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,923 ครั้ง
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ

เปิดอ่าน 17,644 ครั้ง
นั่งหน้าคอมฯ นาน ๆ อาจตายได้!
นั่งหน้าคอมฯ นาน ๆ อาจตายได้!

เปิดอ่าน 31,999 ครั้ง
สำนวนภาษาอังกฤษ
สำนวนภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 17,199 ครั้ง
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?

เปิดอ่าน 12,727 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเหม็น ภายในบ้าน
ขจัดกลิ่นเหม็น ภายในบ้าน

เปิดอ่าน 9,467 ครั้ง
เคล็ดลับปรุงกาแฟแคลอรีต่ำ
เคล็ดลับปรุงกาแฟแคลอรีต่ำ

เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน

เปิดอ่าน 2,567 ครั้ง
ศาสนา เรื่องที่ไม่เคยรู้ ตอนที่ 1 สาระน่ารู้ตามหลักศาสนาพุทธ  เรื่อง การถวายสังฆทาน
ศาสนา เรื่องที่ไม่เคยรู้ ตอนที่ 1 สาระน่ารู้ตามหลักศาสนาพุทธ เรื่อง การถวายสังฆทาน

เปิดอ่าน 10,863 ครั้ง
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก

เปิดอ่าน 11,333 ครั้ง
ภัยจากการไม่กินผัก
ภัยจากการไม่กินผัก

เปิดอ่าน 18,950 ครั้ง
สมการและการแก้สมการ
สมการและการแก้สมการ

เปิดอ่าน 19,401 ครั้ง
ปรับโหงวเฮ้ง เสริมทรัพย์ เสริมบารมี
ปรับโหงวเฮ้ง เสริมทรัพย์ เสริมบารมี

เปิดอ่าน 8,320 ครั้ง
คัดเลือกคนจากสถาบัน
คัดเลือกคนจากสถาบัน

เปิดอ่าน 12,603 ครั้ง
โรคหอบจากอารมณ์...อันตรายที่คาดไม่ถึง
โรคหอบจากอารมณ์...อันตรายที่คาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 15,507 ครั้ง
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 51,641 ครั้ง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง
เปิดอ่าน 67,881 ครั้ง
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ
เปิดอ่าน 60,705 ครั้ง
พืชที่ใช้เป็นอาหาร
พืชที่ใช้เป็นอาหาร
เปิดอ่าน 22,089 ครั้ง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
20 เคล็ดลับเจ๋ง ๆ ช่วยทำให้ตัวเองดูเด็กลง
เปิดอ่าน 19,767 ครั้ง
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ