บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางสุกุลยา พันธ์โนเรศน์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว
สำนักการศึกษา เทศบาลนครอุบลราชธานี
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2562
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว สำนักการศึกษาเทศบาลนครอุบลราชธานี จำนวน 31 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3/1 จำนวน 1 ห้อง ด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 ชุด 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบสอบถามแบบ มาตราส่วน 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาพรวม มีประสิทธิภาพ 81.33/82.58 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 มีความก้าวหน้าทางการเรียนสูงขึ้นร้อยละ 68.72
4. นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.73)