ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
งานวิจัย

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1

ชื่อผู้ประเมิน นายธันญพฤกษ์ ก้อนทอง

หน่วยงาน โรงเรียนบ้านทะนงชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1

ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ในครั้งนี้ ใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) มีวัตถุประสงค์ในการประเมิน เพื่อวัตถุประสงค์ของการประเมินเพื่อประเมินความพร้อมด้านสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) เพื่อประเมินความพร้อมด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ (Input Evaluation) เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินงานตามโครงการ (Process Evaluation) และเพื่อประเมินผลผลิต ของโครงการ (Product Evaluation) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการตอบแบบสอบถามได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (purposivesampling) จำนวนทั้งสิ้น 76 คน ประกอบด้วย บุคลากรทางการศึกษา 14 คน, นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน จำนวน 49 คน, ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 36 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ไม่ดำรงตำแหน่งครู จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ เป็นแบบสอบถามประเภทมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับคือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อยและน้อยที่สุด มีจำนวนทั้งสิ้น 7 ฉบับ โดยมี ค่าความเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.92 - 0.98 การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินปรากฏ ดังนี้

ผลการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1ในภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยมีผลการดำเนินการอยู่ในระดับมาก ( = 4.17 , S.D. = 0.44 ) และเมื่อพิจารณาประเด็นการประเมินทั้ง 4 ประเด็นพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด เมื่อพิจารณาตัวชี้วัดของประเด็นการประเมินทั้ง 4 ประเด็น จำนวน 14 ตัวชี้วัดพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของ ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.28 , S.D. = 0.60 ) เมื่อพิจารณาพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ด้านความต้องการความจำเป็นของโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.13 , S.D. = 0.39 ) รองลงมา คือ ด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.12 , S.D. = 0.37 )

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของ ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (= 4.26 , S.D. = 0.26 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ด้านวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ อยู่ในระดับมาก (= 4.40 , S.D. = 0.34 ) รองลงมา คือ ด้านบุคลากร อยู่ในระดับมาก ( = 4.19 , S.D. = 0.34 ) และด้านงบประมาณ อยู่ในระดับมาก ( = 4.17 , S.D. = 0.26 ) ตามลำดับ

3. ผลการประเมินด้านประบวนการ ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของ ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.30 , S.D. = 0.19 )ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ด้านการวางแผนโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.45 , S.D. = 0.29 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือ ด้านการประเมิน สรุปและรายงานผลโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.24 , S.D. = 0.24 ) และด้านการดำเนินงานโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.23 , S.D. = 0.30 )ตามลำดับ

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 โดยการประเมิน 3 ประเด็นดังนี้

4.1 ด้านผลผลิตเพื่อประเมินผลสำเร็จของของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของครู และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน ( = 4.49 , S.D. = 0.33 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรก คือการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นไปตามหลักการ วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด( = 4.75 , S.D. = 0.45 ) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ การดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเป็นไปตามหลักการ วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด ( = 4.75 , S.D. = 0.45 ) รองลงมา คือ โรงเรียนมีห้องสมุดและมุมหนังสือเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ โครงการส่งเสริมการอ่าน ( = 4.66 , S.D. = 0.49 )

4.2 ด้านผลผลิตเพื่อประเมินพฤติกรรมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนตามของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของครูและผู้ปกครองโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.25, S.D. = 0.28) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรก คือ นักเรียนชอบอ่านหนังสือทั้งที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิง( = 4.54 , S.D. = 0.50 ) ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านสนใจ แสวงหาความรู้จากแหล่งต่างๆ มากขึ้น ( = 4.54 , S.D. = 0.50 ) รองลงมา คือ นักเรียนหาความรู้จากสื่อที่หลากหลาย เช่น อินเตอร์เนต Line แอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ( = 4.50 , S.D. = 0.50) และ นักเรียนชอบเล่าเรื่องจากหนังสือที่ได้อ่านให้ผู้อื่นฟัง ( = 4.26 , S.D. = 0.44 ) ตามลำดับ

4.3 ด้านผลผลิตเพื่อประเมิน เพื่อประเมินพฤติกรรมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนตามของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.22, S.D. = 0.17) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรก คือ ข้าพเจ้าชอบอ่านหนังสือการ์ตูนนอกจากหนังสือเรียน( = 4.71, S.D. = 0.45 ) รองลงมา คือ ข้าพเจ้าชอบร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของโรงเรียน(= 4.59 , S.D. = 0.46 )และข้าพเจ้าชอบอ่านหนังสือนิทานเป็นประจำ ( = 4.54 , S.D. = 0.50) ตามลำดับ

4.4 ด้านผลผลิตเพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านทะนงชัย ปีการศึกษา 2562 ตามความเห็นของ นักเรียน ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.41 , S.D. = 0.66 ) ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ด้านประโยชน์ของการจัดกิจกรรมอยู่ในระดับมาก ( = 4.47 , S.D. = 0.48 ) รองลงมา คือ ด้านประเภทของกิจกรรรม อยู่ในระดับมาก ( = 4.35 , S.D. = 0.19 )

5. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

5.1 ประเด็นสภาพแวดล้อมของโครงการ ผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีผลการประเมินตัวชี้วัดในด้านความต้องการความจำเป็นของโครงการ มีค่าคะแนนมากเป็นอันดับแรก ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจึงควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หลากหลานและต่อเนื่อง เพราะกิจกรรมส่งเสริมการอ่านนั้น เป็นกิจกรรมที่สำคัญในการพัฒนาปลูกฝังนักเรียนให้มีคุณภาพ ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่แท้จริง

5.2 ประเด็นด้านปัจจัยเบื้องต้น ผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีตัวชี้วัดในด้านบุคลากรมากที่สุด ผลการประเมินด้านที่น้อยสุด คือด้านงบประมาณ ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ควรช่วยกันควรมีการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้อื่นๆ ให้มากขึ้น เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ตลอดจนหางบประมาณเพิ่มเติมในการดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย ต่อเนื่อง

5.3 ประเด็นด้านกระบวนการ ผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยตัวชี้วัดในด้านการวางแผนโครงการมากที่สุด อันดับต่อไป คือด้านการประเมิน สรุปผลและรายงานผล ด้านต่อไปที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาคือ ด้านกระบวนการดำเนินงาน ดังนั้นโรงเรียนดำเนินโครงการอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การดำเนินงาน การประเมินและรายงานผลให้ชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

5.4 ประเด็นด้านผลผลิต ผลการประเมินโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยตัวชี้วัดด้านผลสำเร็จของโครงการมากที่สุด อันดับต่อไป คือด้านประโยชน์ของโครงการ สำหรับด้านที่มีผลการประเมินน้อยสุด คือ ด้านพฤติกรรมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน ดังนั้นโรงเรียนควรจัดกิจกรรมที่นักเรียนชอบหลากหลายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนสนใจเรื่องราว และการอ่าน เช่น การใช้การแข่งขันเล่านิทาน การประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ หรือการเขียนเรียงความจากเรื่องที่อ่าน

โพสต์โดย ธัน : [9 ม.ค. 2564 เวลา 05:09 น.]
อ่าน [3689] ไอพี : 124.122.63.172
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,502 ครั้ง
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต

เปิดอ่าน 11,743 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาที่ห้องเรียนจุดเริ่มต้นการเรียนรู้เด็ก-ครู
ปฏิรูปการศึกษาที่ห้องเรียนจุดเริ่มต้นการเรียนรู้เด็ก-ครู

เปิดอ่าน 8,356 ครั้ง
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!

เปิดอ่าน 18,547 ครั้ง
สุดประทับใจ! ครูสาวแบกนร.หญิงป่วยหนัก เดินลงจากดอยไปส่งรพ.
สุดประทับใจ! ครูสาวแบกนร.หญิงป่วยหนัก เดินลงจากดอยไปส่งรพ.

เปิดอ่าน 24,383 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ

เปิดอ่าน 16,981 ครั้ง
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!

เปิดอ่าน 44,920 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556

เปิดอ่าน 14,337 ครั้ง
10 อาหารดำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ
10 อาหารดำ กินแล้วดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 22,662 ครั้ง
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ
"มองการศึกษาในมุมใหม่" การ์ตูนสะท้อนการศึกษาไทย ที่ "ผู้ใหญ่" ควรทำความเข้าใจ

เปิดอ่าน 18,552 ครั้ง
สาเหตุใหญ่ของป่วยเป็นมะเร็ง มาจากนิสัยการกินอยู่แต่ละคน
สาเหตุใหญ่ของป่วยเป็นมะเร็ง มาจากนิสัยการกินอยู่แต่ละคน

เปิดอ่าน 20,770 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
คู่มือการปฏิบัติงานการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา

เปิดอ่าน 14,605 ครั้ง
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??

เปิดอ่าน 3,906 ครั้ง
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT

เปิดอ่าน 11,169 ครั้ง
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17  :  29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17 : 29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้

เปิดอ่าน 144,895 ครั้ง
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน
ขั้นตอนปลูกผักบุ้งง่ายๆ ในตะกร้า แบบไฮโดรฯไม่ต้องใช้ดิน

เปิดอ่าน 9,134 ครั้ง
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
เปิดอ่าน 15,288 ครั้ง
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
เปิดอ่าน 43,672 ครั้ง
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
เปิดอ่าน 17,724 ครั้ง
MV เพลง จำขึ้นใจ เพื่อรณรงค์ให้ข้าราชการปฏิบัติตนตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
MV เพลง จำขึ้นใจ เพื่อรณรงค์ให้ข้าราชการปฏิบัติตนตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
เปิดอ่าน 27,017 ครั้ง
วิธีกำจัดคราบเหลืองใต้แขนเสื้อผ้า
วิธีกำจัดคราบเหลืองใต้แขนเสื้อผ้า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ