|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการวิธีสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ระบบสุริยะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการวิธีสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ระบบสุริยะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ (3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการวิธีสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ระบบสุริยะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการวิธีสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นเพื่อเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ระบบสุริยะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมายได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลสวนสนุก สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการวิธีสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น แผนการสอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพที่คาดหวังและสภาพปัจจุบันครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ครูคาดหวังให้นักเรียนมีเหตุมีผลตามลำดับขั้นตอน สามารถรู้คิดและนำข้อมูลที่สำคัญเก็บไว้ในความจำระยะยาว แก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุผล มีการแสวงหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายด้วยตนเอง แล้วประมูลความรู้เพื่อการเลือกทางเลือกในการแก้ปัญหา ที่ถูกต้องมีเหตุผล แต่สภาพสภาพปัจจุบัน พบว่าผลการประเมินนักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านการประเมินการคิด การจัดการเรียนการสอนด้านการคิดและวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษายังไม่บรรลุเป้าหมายตามสภาพที่คาดหวัง การเรียนการสอนไม่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง ไม่ฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา ทำให้นักเรียนเรียนวิทยาศาสตร์แบบท่องจำ ไม่มีเหตุผล ลืมง่าย ทำให้นักเรียนคิดไม่เป็น ทำไม่ได้ ไม่รักการอ่าน ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้ และครูมีความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยครูจะต้องจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยการสอนคิดหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การสอนคิดแก้ปัญหาที่ถูกต้อง พัฒนาความสามารถในการการคิดอย่างมีวิจารณญาณและคิดแก้ปัญหาไปพร้อมกับพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนวิทยาศาสตร์โดยเน้นกระบวนการคิด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝนด้วยตนเอง เพื่อให้นักเรียนได้สำรวจ ตั้งคำถาม อธิบายเหตุผล และพบคำตอบโดยการทำกิจกรรมทั้งกายภาพและทางสมองด้วยตนเอง
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เพื่อส่งเสริมเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีชื่อว่า 7ESTEM Modelมีองค์ประกอบหลักคือ หลักการเน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นโดยมีครูคอยเป็นโค้ชหรือผู้แนะนำ วัตถุประสงค์พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การคิดแก้ปัญหาและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการจัดการเรียนการสอน 7 ขั้นตอน คือ1. ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม 2.ขั้นสร้างแรงบันดาลใจ 3. ขั้นสร้างความรู้ (3.1)ขั้นทำความเข้าใจปัญหา(3.2) ขั้นศึกษาสำรวจและรวบรวมข้อมูล(3.3) สร้างนวัตกรรม4.ขั้นสื่อสาร 5.ขั้นขยายความรู้ 6.ขั้นประเมินผล 7.ขั้นนำความรู้ไปใช้ สาระความรู้และทักษะความสามารถ สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ หลักการตอบสนอง สิ่งสนับสนุน และ ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีนำไปหาประสิทธิภาพประสิทธิภาพแบบเดี่ยว กลุ่มเล็กและภาคสนาม โดยมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.66/81.11, 87.80/86.67 และ87.40/86.22 ตามลำดับเมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เพื่อส่งเสริมเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ระบบสุริยะของ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า โดยภาพรวมคะแนนสูงกว่าร้อยละ 80 ซึ่งผลการประเมินระหว่างเรียนมีค่าเฉลี่ย 26.29 คิดเป็นร้อยละ 87.64 ผลการทดสอบหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 8.43 คิดเป็นร้อยละ 84.30 และผลการประเมินทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณมีค่าเฉลี่ย 15.47 คิดเป็นร้อยละ 85.94
4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับวัฎจักรการสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เพื่อส่งเสริมเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ระบบสุริยะของ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า (1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียน 40 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนเต็มจำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 95 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (2) ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ นักเรียน 40 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนเต็มจำนวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 92.50 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยนักเรียนพึงพอใจกระบวนการจัดการเรียนรู้สูงที่สุด เพราะผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง และร่วมกันคิดหาคำตอบร่วมกันกับเพื่อนอย่างสร้างสรรค์ในกลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ตามลำดับ ครูเรียงเนื้อหาและกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม นักเรียนมีความสุขและสนุกสนานในการเรียนรู้ สามารถสรุปความรู้เชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
|
โพสต์โดย ยุ้ย : [5 ม.ค. 2564 เวลา 10:21 น.] อ่าน [3058] ไอพี : 223.206.234.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,429 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,861 ครั้ง
| เปิดอ่าน 89,080 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,962 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,607 ครั้ง
| เปิดอ่าน 619 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,325 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,147 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,271 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,481 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,654 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,487 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,973 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,319 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,593 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 16,174 ครั้ง
| เปิดอ่าน 39,469 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,769 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,990 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,550 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|