ชื่อวิจัย : รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 สพม.19
ชื่อผู้วิจัย : จิตติศักดิ์ นามวงษา ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา อำเภอด่านซ้าย
จังหวัดเลย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 สพม.19
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2561
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์สภาพปัญหา ความต้องการ ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 การวิเคราะห์สภาพ ปัญหา ความต้องการ ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ และแนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ (R1) โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 190 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .85 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของโมเดลการวัดแต่ละตัวแปรแฝง และลงเยี่ยมพื้นที่ (Site Visit) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศจากผู้อำนวยการสถานศึกษาต้นแบบ จำนวน 5 โรงเรียน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 2 การสร้างและการตรวจสอบรูปแบบ การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ (D1) ร่างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โดยการประชุมผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 15 คน ตรวจสอบและประเมินรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบบันทึกการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับหลักการ วัตถุประสงค์ แนวคิด องค์ประกอบของรูปแบบ แนวทางการนำรูปแบบไปใช้ การประเมินผลและเงื่อนไขความสำเร็จ ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา สู่ความเป็นเลิศ (R2) นำรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 มาทดลองใช้ ปีการศึกษา 2562 กลุ่มเป้าหมาย คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 64 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน และนักเรียน จำนวน 931 คน รวมจำนวน 1,010 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบบันทึกผลการทดลองใช้รูปแบบ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 4 การประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษา สู่ความเป็นเลิศ (D2) โดยการเก็บข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 280 คน ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มอย่างง่ายและเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมิน มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .96 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่า Intra Class Correlation (ICC)
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 มีองค์ประกอบ 7 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการนำองค์กร ด้านกลยุทธ์ ด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านการวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ ด้านบุคลากร ด้านปฏิบัติการ และด้านผลลัพธ์ ส่วนองค์ประกอบปัจจัย เชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ มีองค์ประกอบ 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้านการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ด้านการสร้าง ความร่วมมือกับชุมชน และด้านการสร้างเครือข่าย
2. ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการบริหารองค์กรที่เป็นเลิศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่า 2 = 129.195, df = 111, p = 0.1142, CFI = 0.993, TLI = 0.989, RMSEA=0.029, SRMR= 0.070 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยมี ค่า 2 = 187.121, df = 162, p = 0.0860, CFI = 0.995, TLI = 0.993, RMSEA=0.025, SRMR= 0.052 ทุกปัจจัยร่วมกันอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ ได้ร้อยละ 88.30 (R2 = 0.883)
3. รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ส่วนนำ ประกอบด้วย แนวคิดพื้นฐาน หลักการและวัตถุประสงค์ของรูปแบบ ส่วนที่ 2 ส่วนเนื้อหา ประกอบด้วย องค์ประกอบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศและกระบวนการบริหารบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ และส่วนที่ 3 เงื่อนไขความสำเร็จ
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศโรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 พบว่า ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ภายในชั้น (Intra Class Correlation: ICC) มีค่าเท่ากับ 0.817 แสดงว่า ความสอดคล้องระหว่างผู้ประเมินมีความสอดคล้องกันในระดับดี ผลการประเมินภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.94, S.D. = .14 )