ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนบ้านน้ำไคร้ โดยใช้กิจกรรมเล่นปนเรียน (Play & Learn) ตามรูปแบบ PLEARN Model

บทคัดย่อ

ชื่องานวิจัย : การประเมินโครงการการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนบ้านน้ำไคร้ โดยใช้กิจกรรมเล่นปนเรียน (Play & Learn) ตามรูปแบบ PLEARN Model

ชื่อผู้วิจัย : ธีระ เธียรกิตติกร

ปีการศึกษา : 2562

การประเมินโครงการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการการยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนบ้านน้ำไคร้โดยใช้กิจกรรมเล่นปนเรียน (Play & Learn) ตาม รูปแบบ PLEARN Model ในด้านบริบท ด้านปัจจัยน้าเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ด้าน ผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายทอดส่งต่อ และประเมินความพึงพอใจ ต่อการดำเนินโครงการ ตามขั้นตอนการดำเนินงาน 6 ขั้นตอน คือการศึกษาสภาพปัญหาของนักเรียน (Problem : P) การเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม เป็นไปได้(Likely : L) การจัดเตรียมองค์ประกอบ ในการจัดกิจกรรม (Element : E) การจัดกิจกรรมการเล่นและการเรียนรู้(Activity : A) การสรุป รายงานผลการเล่นและการเรียนรู้(Report : R) และ การอภิปรายผลการจัดกิจกรรมการเล่นและการ เรียนรู้ (Narrative : N) ตามรูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ของ Daniel L.Stufflebeam ประชากรคือ กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ครูและนักเรียน โรงเรียนบ้านน้ำไคร้ปีการศึกษา 2562 จำนวน 106 คน กลุ่มตัวอย่างทุกกลุ่ม ใช้วิธีการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Selection) ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด จ้านวน 90 คน ประกอบด้วย กรรมการสถานศึกษา 7 คน ผู้ปกครอง 41 คน ครู 4 คน และนักเรียน 38 คน โดยใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบ มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ของลิเคอร์ท (Likert) การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการ หาค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (x ̅ ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการประเมินพบว่า การดำเนินโครงการการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนบ้าน น้ำไคร้ในปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งผลการพิจารณาเป็นรายด้าน ดังนี้

1. ด้านสภาพบริบท (Context) พบว่า มีความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ของโครงการกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 นโยบายของหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้อง และ วิสัยทัศน์ของโรงเรียน และสอดคล้องกับสภาพความต้องการของผู้ปกครองและชุมชน มีความจำเป็น ต่อการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนและการพัฒนาคุณภาพนักเรียน มีความเป็นไปได้ ที่จะดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมาย มีความเหมาะสมของแผนการดำเนินงานและกิจกรรม และมี ความเหมาะสมกับสภาพสังคมและสถานการณ์ปัจจุบัน

2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) พบว่า ปัจจัยการดำเนินโครงการตามหลักการใช้ทรัพยากรใน การบริหาร (4 M’s) ด้านบุคลากร (Man) มีความพร้อมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านการบริหาร จัดการ (Management) ด้านงบประมาณ (Money) และด้านวัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ (Material) มีความพร้อมอยู่ในระดับมาก

3. ด้านกระบวนการ (Process) พบว่า กระบวนการดำเนินโครงการตามหลักการบริหาร เชิงระบบ (PDCA) ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยขั้นตอนการเตรียมการ (Plan : P) ขั้นตอนดำเนินงาน (Do : D) และ ขั้นการติดตามประเมินผล (Check : C) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนขั้นการสรุปและนำไปใช้ (Act : A) อยู่ในระดับมาก

4. ด้านผลผลิต (Product) พบว่าผลการจัดกิจกรรมเล่นปนเรียน (Play & Learn) ตาม รูปแบบ PLEARN Model ทั้ง 6 กิจกรรม ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยที่ การศึกษาสภาพปัญหาของนักเรียน (Problem : P) การเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม เป็นไปได้ (Likely : L) การจัดเตรียมองค์ประกอบในการจัดกิจกรรม (Element : E) การจัดกิจกรรมการเล่น และการเรียนรู้(Activity : A) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการสรุปรายงานผลการเล่น และการเรียนรู้(Report : R) และ การอภิปรายผลการจัดกิจกรรมการเล่นและการเรียนรู้ (Narrative : N) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก

5. ด้านผลกระทบ (Impact) พบว่ามีผลกระทบเชิงบวกต่อนักเรียน ในประเด็นนักเรียน ขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจเรียนมากขึ้น นักเรียนมีความสุขกับการเรียนรู้ และนักเรียนมีความสัมพันธ์ภาพที่ดี กับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด มีผลกระทบเชิงบวกต่อโรงเรียน ในประเด็นโรงเรียนได้รับรางวัลจาก หน่วยงานต่างๆ และโรงเรียนได้รับความไว้วางใจ เชื่อมั่น ศรัทธา จากหน่วยงานอื่นๆ และชุมชน อยู่ในระดับมากที่สุด มีผลกระทบเชิงบวกต่อครู ในประเด็นครูผู้สอนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียน และ ครูผู้สอนได้รับการยอมรับนับถือจากนักเรียนและผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก มีผลกระทบเชิงบวกต่อผู้ปกครอง ในประเด็นผู้ปกครองมีความสบายใจ ไม่กังวลเรื่องการเรียนของนักเรียนอยู่ในระดับมาก

6. ด้านประสิทธิผล (Effectiveness) พบว่าประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมเล่นปนเรียน (Play & Learn) ตามรูปแบบ PLEARN Model ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยที่ประสิทธิผล ด้านนักเรียนได้รับความรู้และทักษะจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมุติ นักเรียนได้รับความรู้ และทักษะจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนประเด็นนักเรียน ได้รับความรู้และทักษะจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกม และนักเรียนได้รับความรู้และทักษะจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้คำคล้องจอง อยู่ในระดับมาก

7. ด้านความยั่งยืน (Sustainability) พบว่า มีความยั่งยืนอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะ การดำเนินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์มีขั้นตอนปฏิบัติอย่างเป็นระบบ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบเล่นปนเรียนของครูผู้สอนทุกวิชาเป็นประจำวันทุกวัน อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการจัดกิจกรรมต่างๆได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี โรงเรียนมีนโยบายสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเล่นปนเรียนทุกปีและโรงเรียนจัดสรรงบประมาณในการจัดกิจกรรมอย่างเพียงพอทุกปีอยู่ในระดับมาก

8. ด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability) พบว่า มีการถ่ายทอดส่งต่ออยู่ในระดับมาก โดยที่โรงเรียนนำเสนอ เผยแพร่ผลการดำเนินโครงการการยกระดับผลสัมฤทธิ์นักเรียน และโรงเรียนมี การสร้างเครือข่ายกับโรงเรียนอื่นๆในการยกระดับผลสัมฤทธิ์นักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนประเด็นโรงเรียน มีการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นๆในการยกระดับผลสัมฤทธิ์นักเรียน มีสถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นมาศึกษาดูงานด้านการยกระดับผลสัมฤทธิ์นักเรียนที่โรงเรียนเป็นประจำ และโรงเรียนขยายผลโครงการการยกระดับผลสัมฤทธิ์นักเรียนไปยังสถานศึกษาอื่นๆ อยู่ในระดับมาก สำหรับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมเล่นปนเรียน (Play & Learn) ตาม รูปแบบ PLEARN Model ทั้ง 6 กิจกรรม มีความพึงพอใจเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย teera : [21 ธ.ค. 2563 เวลา 19:13 น.]
อ่าน [5054] ไอพี : 223.24.189.100
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,581 ครั้ง
วิธีการพับเสื้อยืดอย่างรวดเร็ว
วิธีการพับเสื้อยืดอย่างรวดเร็ว

เปิดอ่าน 22,421 ครั้ง
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า

เปิดอ่าน 29,054 ครั้ง
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก

เปิดอ่าน 32,290 ครั้ง
กระบี่กระบอง
กระบี่กระบอง

เปิดอ่าน 11,692 ครั้ง
เคล็ดลับเรียนภาษา ให้ได้ผล
เคล็ดลับเรียนภาษา ให้ได้ผล

เปิดอ่าน 50,928 ครั้ง
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร
jobsDB แนะ 7 แนวทางการรักษาคนเก่ง ดึงดูดคนที่ใช่ ให้อยู่ในองค์กร

เปิดอ่าน 17,167 ครั้ง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง

เปิดอ่าน 32,614 ครั้ง
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 31,098 ครั้ง
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม
รู้แล้ว สโตนเฮนจ์ มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 10,809 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44

เปิดอ่าน 33,285 ครั้ง
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้

เปิดอ่าน 18,983 ครั้ง
โรคฉี่หนู...เชื้อร้ายที่มาพร้อมหน้าฝน
โรคฉี่หนู...เชื้อร้ายที่มาพร้อมหน้าฝน

เปิดอ่าน 11,699 ครั้ง
เที่ยวท่องสองฝั่งโขง อุบลฯ-ปากเซ
เที่ยวท่องสองฝั่งโขง อุบลฯ-ปากเซ

เปิดอ่าน 30,151 ครั้ง
อยากลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น อย่าพลาดผัก-ผลไม้เหล่านี้นะ
อยากลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น อย่าพลาดผัก-ผลไม้เหล่านี้นะ

เปิดอ่าน 18,787 ครั้ง
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566

เปิดอ่าน 65,706 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
เปิดอ่าน 23,705 ครั้ง
รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า
รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า
เปิดอ่าน 41,753 ครั้ง
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
เปิดอ่าน 11,832 ครั้ง
สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป
สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป
เปิดอ่าน 8,386 ครั้ง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ