ชื่องานวิจัยและพัฒนา : วิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว
ชื่อผู้วิจัยและพัฒนา : นางวาสนา หาญจริง ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว สังกัดเทศบาลนครเชียงราย
ปีที่ทำการวิจัยและพัฒนา : พ.ศ. 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์สภาพการใช้รูปแบบ การจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว 2) ศึกษา การสร้างรูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว 3) วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการใช้รูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว และ 4) นำผลการพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัวไปแพร่ขยาย ผู้วิจัยได้กำหนดวิธีการดำเนินการออกเป็น 5 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 การประเมินโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการโรงเรียนและการเชื่อมโยงการจัดการความรู้เข้ากับบริบทของโรงเรียน ขั้นที่ 2 การพัฒนาการจัดการความรู้หลังจากการประเมินโครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ การจัดตั้งทีมจัดการความรู้ การวิเคราะห์และตรวจสอบความรู้ที่มีอยู่ทั้งในและนอกโรงเรียน (นวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโรงเรียนด้วยการจัดการความรู้) ขั้นที่ 3 การกระจายสู่การปฏิบัติและการประเมิน ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ การทดลองรูปแบบที่สร้างและพัฒนาขึ้นและปรับปรุงให้เกิดความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขั้นที่ 4 การแพร่ขยาย เชื่อมโยงและสร้างเครือข่าย และขั้นที่ 5 การรวบรวม วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์โครงการวิเคราะห์เนื้อหาและข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์สังคมมิติ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยรองผู้อำนวยการสถานศึกษา หัวหน้าฝ่าย หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้าสาระการเรียนรู้ และหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามโครงสร้างการบริหารสถานศึกษารวมทั้งสิ้น 21 กลุ่มงาน รวม 21 คน ครูหัวหน้ากลุ่มสาระ การเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระและครูหัวหน้าระดับปฐมวัย จำนวน 1 คน รวม 9 คน ครูหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 1 คน ผู้ช่วยครู จำนวน 2 คน รวมประชากรที่ได้นำมาวิจัย และพัฒนาครั้งนี้ จำนวน 37 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ประยุกต์ และปรับปรุงมาจากเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยของสำนักงานเลขาธิการการศึกษาแห่งชาติ โดยเน้นการใช้เครื่องมือ 2 ประเภท คือเครื่องมือการวิจัย ได้แก่ การสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสนทนากลุ่ม การสัมภาษณ์ การศึกษาข้อมูลทุติยภูมิจากเอกสารรายงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ตรงของผู้ร่วมพัฒนาและโรงเรียนมีการทบทวนสอบข้อมูลและผลจากการวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูล โดยการใช้วิธีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ และเครื่องมือในการพัฒนา ใช้กิจกรรม การเรียนรู้หรือกิจกรรมการจัดการความรู้ ได้แก่ กิจกรรมแลกเปลี่ยนการเรียน คลินิกการเรียนรู้ กิจกรรมการเสริมสร้างเครื่องมือการเรียนรู้ กิจกรรมวางแผนการแพร่ขยายการเรียนรู้
ผลการวิจัยและพัฒนา พบว่า
1. ผลการวิเคราะห์สภาพการใช้รูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว พบว่า ฝ่ายวิชาการได้พัฒนารูปแบบการจัดการความรู้มาจากต้นแบบของ สคส. แต่ได้ปรับและพัฒนาโดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญ ฝ่ายบุคลากร ได้ปรับและพัฒนาโดยยึดคนกับงานเป็นสำคัญ ฝ่ายการเงินและงบประมาณปรับและพัฒนารูปแบบใหม่โดยให้ความสำคัญกับแผนงบประมาณ ระเบียบ กฎหมายเป็นสำคัญ และฝ่ายบริหารทั่วไปได้ให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้แบบฝังลึกในตัวบุคคลมากกว่าความรู้ชัดแจ้ง
2. ผลการสร้างรูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว พบว่า การสร้างรูปแบบและขั้นตอนการจัดการความรู้ฝ่ายวิชาการให้ความสำคัญกับรูปแบบขั้นตอนที่เน้นเป้าหมาย การสร้างปัจจัยและกระบวนการที่นำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงเป็นสำคัญ ฝ่ายบุคลากร ฝ่ายการเงินและงบประมาณและฝ่ายบริหารทั่วไปได้ให้ความสำคัญกับรูปแบบขั้นตอนการจัดการความรู้ที่เน้นความต้องการความจำเป็นในเชิงพัฒนา เป็นสำคัญ
3. ผลการวิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการใช้รูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว พบว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดการความรู้ ข้อที่มีระดับสูงสุดกว่าทุกข้อคือ โรงเรียนต้องกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายในการจัดการความรู้ในโรงเรียนอย่างชัดเจน โดยเน้นกระบวนการสร้างความรู้เป็นสำคัญ ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
4. ผลการนำรูปแบบการจัดการความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ไปแพร่ขยาย พบว่า มีการแพร่ขยายการจัดการความรู้ไปสู่หัวหน้าฝ่าย หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่ส่งผลทำให้การบริหารจัดการในฝ่ายและกลุ่มงานมีประสิทธิภาพเพิ่มยิ่งขึ้น โดยผู้วิจัยได้ใช้ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ในการแพร่ขยายการจัดการความรู้ดังนี้ ยุทธศาสตร์การเปิดเวทีและโอกาสในการเรียนรู้ ยุทธศาสตร์การเผยแพร่ขยายรูปแบบ การจัดการความรู้ด้วยกระบวนการสื่อสาร ยุทธศาสตร์การเป็นเพื่อนกะจิตมิตรผู้รู้ใจ และยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายเพื่อนร่วมเดินทาง