บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สู่การทำโครงงานเกษตร รายวิชา ง32270 งานเกษตรเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ คือ
1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ที่เรียนโดยใช้การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สู่การทำโครงงานเกษตร รายวิชา ง32270 งานเกษตรเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านเชตวัน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 32 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สู่การทำโครงงานเกษตร รายวิชา ง32270 งานเกษตรเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 19 แผนการจัดการเรียนรู้
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนแลtหลังเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า ซึ่งใช้มาตรา 5 อันดับ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สู่การทำโครงงานเกษตร รายวิชา ง32270 งานเกษตรเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.08/83.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่จัดการเรียนรู้ด้วย
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สู่การทำโครงงานเกษตร รายวิชา ง32270 งานเกษตรเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้สู่การทำ
โครงงานเกษตร รายวิชา ง32270 งานเกษตรเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61, S.D. = 0.10) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้