ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105–2101

ชื่อรายงาน: การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105–2101

ชื่อผู้วิจัย: นายสิทธิชัย กุลศรี

ปีที่จัดทำ: 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI สำหรับวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 2) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัด

การเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI สำหรับวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา

2105–2101 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI สำหรับวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในเป็นนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคยะลา ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยนี้คือ 1) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 2) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI สำหรับวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย, ร้อยละ, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, และ t–test

ผลการศึกษาวิจัยในครั้งนี้พบว่า

1) ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.65) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมากที่สุดคือ ด้านรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ ( = 4.82) และด้านที่มีค่าค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญน้อยที่สุดคือ ด้านแบบฝึกทักษะ ( = 4.48) น้อยที่สุดรองลงมาคือ ด้านแบบทดสอบ ( = 4.56)

2) ค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 เฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 71.50/68.95 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 70/70 เมื่อพิจารณาค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการสอนแบบ TAI สำหรับวิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 เป็นรายหน่วย พบว่า หน่วยที่มีค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 สูงที่สุดคือหน่วยที่ 1 (91.80/86.00) รองลงมาคือหน่วยที่ 2 (83.10/79.00) และหน่วยที่มีค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 น้อยที่สุดคือ หน่วยที่ 8 (63.70/61.00) รองลงมาคือหน่วยที่ 7 (68.90/66.00) และ 4 (68.95/65.00) ตามลำดับ

3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยที่หน่วย 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหหลังเรียนสูงที่สุดมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนนคิดเป็นร้อยละ 90.60 ของคะแนนเต็ม รองลงมาคือหน่วยที่ 2 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 7.79 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 79.90 ของคะแนนเต็ม

และหน่วยที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนต่ำที่สุดคือหน่วยที่ 8 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 12.74 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 63.70 ของคะแนนเต็ม และหน่วยที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนต่ำรองลงมาคือหน่วยที่ 4 โดยมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 13.11 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 65.60 ของคะแนนเต็ม

4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI วิชาคณิตศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ รหัสวิชา 2105 – 2101 พบว่ามีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.70) เมื่อพิจารณาความพึงพอใจของนักเรียนเป็นรายข้อของการประเมิน พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจมากที่สุด คือ นักเรียนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ( = 5.00) โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และข้อที่มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ การจัดสภาพห้องเรียน ( = 3.60) มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย สิทธิชัย กุลศรี : [14 พ.ย. 2563 เวลา 19:35 น.]
อ่าน [3498] ไอพี : 1.46.33.107
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,211 ครั้ง
ถึงเป็น"หนี้"แต่ก็มีเงินเก็บ
ถึงเป็น"หนี้"แต่ก็มีเงินเก็บ

เปิดอ่าน 36,708 ครั้ง
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต

เปิดอ่าน 9,477 ครั้ง
คำรำพึง ของคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์
คำรำพึง ของคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ในการปฏิรูปการศึกษา : โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 9,028 ครั้ง
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์
กรมทางหลวงแนะ 13 เส้นทางเลี่ยงขึ้นเหนือ-ล่องใต้ ช่วงสงกรานต์

เปิดอ่าน 15,531 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พ.ศ.๒๕๔๗
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พ.ศ.๒๕๔๗

เปิดอ่าน 14,956 ครั้ง
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร
ลดสารพิษเพื่อสุขภาพด้วยสมุนไพร

เปิดอ่าน 11,923 ครั้ง
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน

เปิดอ่าน 13,736 ครั้ง
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)
คนหัวล้านเฮ!นวัตกรรมเจ๋งผมงอกภายใน60วินาที(ชมคลิป)

เปิดอ่าน 9,362 ครั้ง
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)

เปิดอ่าน 13,761 ครั้ง
เปิดเลคเชอร์ของ น้องปราง ศิรดา เด็กเก่งคะแนนแอดมิชชั่นสูงสุด ปี 2558
เปิดเลคเชอร์ของ น้องปราง ศิรดา เด็กเก่งคะแนนแอดมิชชั่นสูงสุด ปี 2558

เปิดอ่าน 9,345 ครั้ง
ฤดูฝน กับยางของท่าน
ฤดูฝน กับยางของท่าน

เปิดอ่าน 11,311 ครั้ง
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 18,446 ครั้ง
เรื่องของ "ชะอม"
เรื่องของ "ชะอม"

เปิดอ่าน 89,888 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : พีธาคอรัส (Pythagorus)
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : พีธาคอรัส (Pythagorus)

เปิดอ่าน 12,545 ครั้ง
ดังพริบตา ช่างภาพชาวอินโดฯหน้าเหมือนโอบามา
ดังพริบตา ช่างภาพชาวอินโดฯหน้าเหมือนโอบามา

เปิดอ่าน 20,873 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
เปิดอ่าน 18,888 ครั้ง
ฎุมิปัญญาชาวบ้าน
ฎุมิปัญญาชาวบ้าน
เปิดอ่าน 29,215 ครั้ง
"เห็ดเผาะ" คืออะไร คุณรู้จักไหม?
"เห็ดเผาะ" คืออะไร คุณรู้จักไหม?
เปิดอ่าน 10,180 ครั้ง
หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว
หนุ่มสาวออฟฟิศ ระวังหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว
เปิดอ่าน 11,389 ครั้ง
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน
5 วิธีชวนขับรถประหยัดน้ำมัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ