ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ เพื่อส่งเสริมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต1

การจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ

เพื่อส่งเสริมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต1

ดร.วิเศษ พลอาจทัน

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1

นายมานพ เทพบุตร

ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ สพป.ปราจีนบุรี เขต 1

การพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม และวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษานั้น นอกจากจะดำเนินการด้วยการส่งเสริม สนับสนุนนักเรียนแล้ว การป้องกันและการช่วยเหลือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งของการพัฒนาเนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทั้งด้านการสื่อสารเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้คนในเชิงบวกแล้ว ในเชิงลบก็ปรากฏเช่นกัน เป็นต้นว่าปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการระบาดของสารเสพติด ปัญหาการแข่งขันในรูปแบบต่าง ๆ ปัญหาครอบครัวซึ่งก่อเกิดความทุกข์ ความวิตกกังวล ความเครียด การปรับตัวที่ไม่เหมาะสมหรืออื่น ๆ ที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพจิตและสภาพกายของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ภาพความสำเร็จที่เกิดจากการพัฒนานักเรียนให้เป็นไปตามความมุ่งหวังนั้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทุกคน โดยเฉพาะบุคลากรครูทุกคนในโรงเรียน ซึ่งมีครูที่ปรึกษาเป็นหลักสำคัญในการดำเนินการต่างๆเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างใกล้ชิดด้วยความรักและเมตตาที่มีต่อศิษย์ และภาคภูมิใจในบทบาทที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนให้เติบโตงอกงาม เป็นบุคลที่คุณค่าของสังคมต่อไป

ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน ให้มีความสมบูรณ์พร้อมอย่างเป็นองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา ความรู้ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนให้มีทักษะในการดำรงชีวิต จึงจำเป็นที่ทุกโรงเรียน ในฐานะหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบในการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตผู้เรียน และแก้วิกฤติสังคม จึงควรนำระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมาประยุกต์ใช้และพัฒนาให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละโรงเรียน ซึ่ง เมื่อกล่าวถึงระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จะหมายถึง กระบวนการดำเนินงานดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนชัดเจน พร้อมทั้งมีวิธีการและเครื่องมือที่มีมาตรฐาน คุณภาพ และมีหลักฐานการทำงานที่ตรวจสอบได้โดยมีครู ประจำชั้น/ครูที่ปรึกษาเป็นบุคลากรหลักในการดำเนินงาน โดยการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน และนอกสถานศึกษา ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน ผู้บริหาร และครูทุกคน มีวิธีการและเครื่องมือ ที่ชัดเจน มีมาตรฐานคุณภาพ และมีหลักฐานการทำงานที่ตรวจสอบได้ ซึ่งกระบวนการและขั้นตอนของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีองค์ประกอบ 5 ประการ คือ 1. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล 2. การคัดกรองนักเรียน 3. การป้องกันและแก้ไขปัญหา 4. การพัฒนาและส่งเสริมนักเรียน 5. การส่งต่อ

นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ เป็นกลุ่มหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องทำการค้นพบ และดูแลช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ร่วมกับนักเรียนคนอื่น ๆ ได้อย่างเต็มตามศักยภาพ ซึ่งเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หมายถึง เด็กที่มีสภาพความบกพร่องในลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะทางด้านพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคม ภาษา หรือสติปัญญา และไม่สามารถปฏิบัติงานในชีวิตประจำวันได้ดังเช่น เด็กปกติทั่วๆไป รวมถึงทางด้านการจัดการศึกษาซึ่งต้องจัดให้มีการเรียนการสอนที่ต่างไปจากเด็กปกติ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพของความบกพร่องของเด็ก ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ แบ่งลักษณะของเด็กที่มีความต้องการพิเศษหรือผิดปกติทางร่างกาย สติปัญญา และทางจิตใจ ออกเป็นประเภทต่างๆ 9 ประเภทคือ

1. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น

2. เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน

3. . เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา

4. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ

5. เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้

6. เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา

7. เด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมและอารมณ์

8. เด็กออทิสติก

9. เด็กพิการซ้อน

ตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ได้กล่าวถึงสิทธิและหน้าที่ทางการ

ศึกษาสำหรับคนพิการไว้ว่า คนพิการมีสิทธิได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความ

พิการจนตลอดชีวิต พร้อมทั้งได้รับเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทาง

การศึกษา และมีสิทธิเลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคำนึงถึง

ความสามารถ ความสนใจ ความถนัด และความต้องการจำเป็นของบุคคลนั้น รวมถึงได้รับการศึกษาที่มี

มาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมทั้งการจัดหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้การทดสอบทาง

การศึกษา ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละประเภทและบุคคล

หากปราศจาก การนำระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนไปปฏิบัติในโรงเรียน ก็จะเป็นการยากที่ครูผู้สอนจะเข้าใจสภาพที่เป็นปัญหาของผู้เรียน และคงไม่สามารถช่วยเหลือหรือส่งเสริมศักยภาพทางการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าในการการช่วยเหลือส่งเสริมนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ครูจะต้องรู้จักนักเรียนอย่างลึกซึ้ง การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลจะช่วยให้ครูมีข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจดำเนินการช่วยเหลือให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน ในกระบวนการคัดกรองนั้น ครูผู้สอนก็ต้องอาศัยข้อมูลจากบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับผู้เรียนมาประกอบในการวิเคราะห์สภาพที่เป็นปัญหาเหล่านั้น ตามที่กำหนดในเครื่องมือคัดกรอง เพื่อที่จะได้สามารถวางแผนการแก้ปัญหา หรือการพัฒนาส่งเสริมได้อย่างถูกต้องแม่นยำ หากว่าปัญหาของผู้เรียนต้องใช้ความร่วมมือจากบุคลากร หรือผู้รู้อื่น ๆ มาช่วยในการแก้ไข ก็จำเป็นต้องมีกระบวนการส่งต่อข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ จึงจะทำให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเหมาะสม และเรียนรู้ในโรงเรียนร่วมกับนักเรียนปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเต็มตามศักยภาพของผู้เรียน สนองตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ดังกล่าวข้างต้น

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ได้พัฒนาการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ เพื่อสนับสนุนให้สถานศึกษาเกิดความเข้มแข็งในการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยมีกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาระบบคัดกรองโดยการให้ความรู้ครูผู้สอนให้มีความรู้ ความเข้าใจกระบวนการคัดกรอง ตามเครื่องมือคัดกรองนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษแต่ละประเภท การพัฒนาผู้คัดกรอง การพัฒนาความรู้ความเข้าใจการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับครูผู้สอน การจัดค่ายพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีความต้อง การพิเศษ การพัฒนาชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพระหว่างครูผู้สอนนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษโดยมีชมรมครูการศึกษาพิเศษเป็นกลจักรสำคัญ และการคัดเลือกครูต้นแบบเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนานักเรียน โดยกลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาได้ใช้กระบวนการดำเนินงานตามรูปแบบ N2I (เอ็น ทู ไอ) เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษของโรงเรียนในสังกัด

รายละเอียดของกระบวนการ N2I ที่ใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพ ประกอบด้วย

1. Networking การใช้ระบบเครือข่ายในการพัฒนา ซึ่งเครือข่ายที่ใช้ประกอบด้วย เครือข่ายดิจิตัล

( Digital Network ) เครือข่ายสถานศึกษา ( School Network ) และเครือข่ายครู (Teacher Network )

2. Information การใช้ระบบข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนาการดำเนินงาน ซึ่งข้อมูลที่ใช้

ประกอบด้วย ข้อมูลพื้นฐานในด้านต่าง ๆ เพื่อประกอบการวางแผน ตัดสินใจ ( Based-line Information ) ข้อมูลระหว่างการดำเนินงานเพื่อพัฒนากระบวนการทำงาน ( Developed Information ) และข้อมูลสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อใช้กำหนดจุดการพัฒนาต่อไป ( Conclusion Information )

3. Inspiration การสร้างแรงบันดาลใจ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาแก่ครู และผู้บริหารในสังกัด

โดยการมอบขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ผ่านกิจกรรมการนิเทศอย่างกัลยาณมิตร

จากการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ส่งผลให้สถานศึกษาในสังกัดเกิดความเข้มแข็งในการดำเนินระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สามารถให้ความช่วยเหลือ และส่งเสริมพัฒนาผู้เรียนในสังกัดได้อย่างทั่วถึง และตรงตามสภาพปัญหา สัมพันธภาพระหว่างครูกับนักเรียนเป็นไปด้วยดี และอบอุ่น นักเรียนรู้จักตนเอง และควบคุมตนเองได้ นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข และได้รับการส่งเสริมพัฒนาเต็มตามศักยภาพอย่างรอบด้าน เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 มีผลการพัฒนาดีเด่นด้านการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้รับรางวัลระดับทอง ของเขตตรวจราชการที่ 9 และรางวัลระดับเงิน จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และในปี 2563 โรงเรียนในสังกัด ได้แก่โรงเรียนชุมชนวัดหนองจวงได้รับรางวัล ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนดีเด่นระดับทอง จากเขตตรวจราชการที่ 9 และรางวัลระดับยอดเยี่ยม จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ในเมื่อโรงเรียนเป็นหน่วยงานในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ซึ่งไม่มีสิทธิ์ในการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย หรือปฏิเสธการให้บริการการศึกษาแก่นักเรียนที่ผ่านเข้ามาได้ ในบางครั้งเราอาจไม่ทราบเลยว่า นักเรียนในความดูแลของเราที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กปกติ ซึ่งน่าจะมีความสามารถเรียนรู้ได้เหมือนเพื่อนๆทั่วไป แต่แท้จริงแล้ว เป็นนักเรียนกลุ่มพิเศษ ที่โรงเรียนต้องจัดการศึกษาให้พวกเขาเป็นกรณีเฉพาะ ให้ตรงตามความต้องการของพวกเขา หากโรงเรียนไม่สามารถค้นพบพวกเขาได้อย่างทันท่วงที ก็ย่อมทำให้พวกเขาเหล่านั้นขาดโอกาสในการพัฒนา และอาจส่งผลเชิงลบที่ไม่พึงประสงค์ตามมา การพัฒนานักเรียนที่มีความต้องการพิเศษจึงเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่บุคลากรในสถานศึกษาต้องร่วมด้วยช่วยกันในการดำเนินงาน ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและตรงกับสภาพปัญหาความต้องการ ส่งผลให้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาเกิดความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย

โพสต์โดย wisade : [24 ต.ค. 2563 เวลา 13:10 น.]
อ่าน [4995] ไอพี : 115.87.82.217
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,919 ครั้ง
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

เปิดอ่าน 13,750 ครั้ง
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค

เปิดอ่าน 208,453 ครั้ง
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี

เปิดอ่าน 15,401 ครั้ง
ออกรถใหม่...วันไหนดี?
ออกรถใหม่...วันไหนดี?

เปิดอ่าน 38,761 ครั้ง
Adjectives (Articles - the )
Adjectives (Articles - the )

เปิดอ่าน 1,401 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 20,027 ครั้ง
การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ

เปิดอ่าน 9,293 ครั้ง
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?
เจาะ..."ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"ครูควรรับมืออย่างไร ?

เปิดอ่าน 12,754 ครั้ง
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์

เปิดอ่าน 7,563 ครั้ง
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ

เปิดอ่าน 946 ครั้ง
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์
เหตุผลที่ควรเลือกใช้แฟลชไดร์ฟสำรองข้อมูลสำคัญ ๆ แทนการจัดเก็บบนคลาวด์

เปิดอ่าน 12,241 ครั้ง
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค

เปิดอ่าน 33,340 ครั้ง
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)
ข้อปฏิบัติสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ( สปช. 105/29 ) ( สปช. 2/28 3ชั้น ) ( สปช. 2/28 4 ชั้น)

เปิดอ่าน 46,194 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556

เปิดอ่าน 24,938 ครั้ง
อวกาศมีกลิ่นเหมือนอะไร?
อวกาศมีกลิ่นเหมือนอะไร?

เปิดอ่าน 10,940 ครั้ง
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
เปิดอ่าน 14,381 ครั้ง
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
เปิดอ่าน 23,542 ครั้ง
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?
เปิดอ่าน 4,261 ครั้ง
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส
เปิดอ่าน 9,044 ครั้ง
ภัยผิวที่แฝงมากับฤดูฝน
ภัยผิวที่แฝงมากับฤดูฝน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ