ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ด้วยวรรณคดีไทยและวรรณกรรมอาเซียน โดยใช้เทคนิค STAD บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับนักเรียนชั้นม

ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณด้วยวรรณคดีไทยและวรรณกรรมอาเซียน บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้เทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางเทวัญ มณีฉาย

สถานศึกษา โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27

ปีที่ศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ 2) พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และ 3) ศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เป็นการวิจัยและพัฒนามีขั้นตอนการวิจัย 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และครูภาษาไทย โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำแนกเป็นนักเรียนจำนวน 40 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่มและครูภาษาไทย จำนวน 15 คน โดยการสุ่มแบบเจาะจง ระยะที่ 2 พัฒนาและหาประสิทธิภาพ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตร และผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผลและการประเมินผล และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) และ ระยะที่ 3. ศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และครูภาษาไทย โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำแนกเป็นนักเรียนจำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐาน มีค่าความสอดคล้องตั้งแต่ 0.71-1.00 2) แผนการจัดการเรียนรู้ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 4.38) 3) แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (4.43) 4) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ มีค่าความยากเท่ากับ .47-.78 มีค่าอำนาจจำแนก 0.25 - 0.77 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .87 และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .95 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐานใช้ t- test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา พบว่า นักเรียน และครู ต้องการให้มีการพัฒนาแบบฝึกการอ่าน ด้วยวรรณคดีไทยและวรรณกรรมอาเซียน ที่มีรูปแบบหลากหลาย รูปเล่มมีภาพประกอบที่มีสีสันสวยงาม และดึงดูดความสนใจ เหมาะสมกับวัยผู้เรียน ด้านเนื้อหามีเนื้อหาที่น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยผู้เรียนด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ นักเรียนและครู ส่วนใหญ่มีความต้องการการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มที่มีการแบ่งกลุ่มคละกันระหว่างกลุ่มเก่ง ปานกลาง และอ่อน เพื่อได้ฝึกเป็นผู้นำ ผู้ตาม ได้ฝึกและเรียนรู้ทักษะทางสังคม น่าตื่นเต้นและสนุกสนาน

2. การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ด้วยวรรณคดีไทยและวรรณกรรมอาเซียน โดยใช้เทคนิค STAD บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้น มีจำนวน 7 ชุด ได้แก่ 1. วรรณคดีไทยล้ำค่า 2. ภาษาอาเซียน 3. เรียนรู้นิทาน 4. ชื่นบานเพลงชาติ 5. นาฏการในบทกวี 6. นำชีวีด้วยพระบรมราโชวาท และ 7. ศาสตร์ศิลป์จากบทเพลงไทย ในแต่ละชุดมีองค์ประกอบดังนี้ คำชี้แจง จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการใช้แบบฝึก แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ ใบกิจกรรม (แบบฝึก) แนวตอบแบบฝึก แบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน และบรรณานุกรม และแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 แผน โดยมีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นนำ ขั้นจัดกิจกรรมการเรียน และขั้นสรุป ผลการทดลองหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ พบว่า รายบุคคล มีค่าเท่ากับ 71.90/66.00 ประสิทธิภาพการทดลองกลุ่มเล็ก มีค่าเท่ากับ 80.16/78.44 และประสิทธิภาพการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 86.29/82.33

3. ผลการทดลองใช้แบบฝึกที่พัฒนาขึ้น พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.75/84.95 นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียน อยู่ในระดับสูง และมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ด้วยวรรณคดีไทยและวรรณกรรมอาเซียน โดยใช้เทคนิค STAD บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 การอ่านด้วยวรรณคดีไทยและวรรณกรรมอาเซียน โดยใช้กระบวนการกลุ่มร่วมมือแบบ STAD เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄=4.71) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกที่พัฒนาขึ้น มีทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณอยู่ในระดับสูง

โพสต์โดย ครูเทวัญ : [16 ต.ค. 2563 เวลา 06:10 น.]
อ่าน [4628] ไอพี : 49.228.138.158
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,745 ครั้ง
รู้ไหมว่า เวลา "ฝนตก" จึงทำให้เรา "นอนหลับ" ได้ลึกขึ้น
รู้ไหมว่า เวลา "ฝนตก" จึงทำให้เรา "นอนหลับ" ได้ลึกขึ้น

เปิดอ่าน 8,544 ครั้ง
ขอเชิญร่วมงานการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอีเลิร์นนิง ปี 2551
ขอเชิญร่วมงานการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอีเลิร์นนิง ปี 2551

เปิดอ่าน 8,939 ครั้ง
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

เปิดอ่าน 14,758 ครั้ง
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ

เปิดอ่าน 7,638 ครั้ง
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"
"ปฏิรูปการศึกษา" ทางรอด "วิกฤติเศรษฐกิจไทย"

เปิดอ่าน 6,671 ครั้ง
การปลูกกระเทียม
การปลูกกระเทียม

เปิดอ่าน 32,455 ครั้ง
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล
ลายมือนักบริหาร ต้องมีเส้นอิทธิพล

เปิดอ่าน 13,643 ครั้ง
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน

เปิดอ่าน 10,319 ครั้ง
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.

เปิดอ่าน 11,491 ครั้ง
ออกกำลังกายคลายเครียดในออฟฟิศ เหนื่อยนักก็พักหน่อย
ออกกำลังกายคลายเครียดในออฟฟิศ เหนื่อยนักก็พักหน่อย

เปิดอ่าน 1,441 ครั้ง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง

เปิดอ่าน 15,298 ครั้ง
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

เปิดอ่าน 16,797 ครั้ง
การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร
การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร

เปิดอ่าน 15,822 ครั้ง
โหงวเฮ้งดี เปลี่ยนได้ไ่ม่ยาก!
โหงวเฮ้งดี เปลี่ยนได้ไ่ม่ยาก!

เปิดอ่าน 10,016 ครั้ง
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดีทันตาเห็น

เปิดอ่าน 16,511 ครั้ง
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
เปิดอ่าน 19,973 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
เปิดอ่าน 11,519 ครั้ง
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?!
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?!
เปิดอ่าน 11,170 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
เปิดอ่าน 38,954 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542  หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ