เปรียบเทียบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ประเทศไทยกับประเทศฟินแลนด์
บริบทฟินแลนด์
สภาพของประเทศฟินแลนด์
สาธารณรัฐฟินแลนด์หรือฟินแลนด์เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิกตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยุโรปมีพรมแดนติดกับประเทศสวีเดนนอร์เวย์และรัสเซียรวมทั้งหมู่เกาะโอลันด์มีประชากร 5,451,270 ล้านคนในพื้นที่ 338,435 ตารางกิโลเมตรการปกครองแบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่รัฐและเทศบาลแบ่งการปกครองเป็น 6 จังหวัดและ 90 เขตปกครองท้องถิ่นมีทะเลสาบ 187,888 แห่งและเกาะ 179,584 เกาะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าสนอากาศหนาวเย็นตลอด 8 เดือนมีช่วงพระอาทิตย์เที่ยงคืน 73 วันในช่วงฤดูร้อนและไม่ขึ้นเลย 51 วันในช่วงฤดูหนาวภาษาที่ใช้คือฟินแลนด์และสวีเดนนโยบายการเมืองสำคัญที่สุดที่มีส่วนเร่งการพัฒนาของฟินแลนด์คือใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
ระบบการศึกษาของฟินแลนด์
ฟินแลนด์ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนจัดการศึกษาภาคบังคับ 9 ปีตั้งแต่อายุ 7 -16 ปีโรงเรียนทุกแห่งจะบริการอาหารกลางวันฟรีการเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายไม่บังคับมีการจัดเตรียมอุดมศึกษาในสายสามัญและอาชีวศึกษาและในระดับอุดมศึกษาจะมีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยอาชีวศึกษาขั้นสูงเป็นประเทศที่มีผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD - PISA) สูงและเวิล์ดอีโคโนมิกฟอรัมจัดอันดับการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้เป็นอันดับ 1 ของโลกประชากรที่อายุเกิน 15 ปีอ่านออกเขียนได้ 100 เปอร์เซ็นต์และจานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัยมีจานวน 1.5 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของประชากรฟินแลนด์เน้น๑) การดูแลหลักสูตรโดยส่วนกลาง๒) การศึกษาภาคบังคับแบบให้เปล่า๓) การศึกษาเป็นรายบุคคล๔) การควบคุมมาตรฐานการผลิตและพัฒนาครู๕) การควบคุมมาตรฐานที่เข้มข้นและ๖) การศึกษาตลอดชีวิต
ปัจจัยความสำเร็จของการศึกษาฟินแลนด์
ฟินแลนด์มีนโยบายระดับชาติในการสร้างสังคมฐานเศรษฐกิจความรู้ระบบการศึกษาที่บูรณาการอย่างลงตัวการทำงานระหว่างส่วนราชการในส่วนกลางและท้องถิ่นการส่งเสริมกิจกรรมนักเรียนตั้งแต่ปฐมวัยและเน้นการผลิตครูที่มีศักยภาพโดยครูต้องจบการศึกษาศึกษาศาสตร์อย่างน้อยในระดับปริญญาโท
ฟินแลนด์เน้นคุณลักษณะของคน6ประการคือ
1) การให้ความสำคัญกับการศึกษา
2) ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
3) ความมีระเบียบวินัยสูง
4) ความตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์
5) ความเป็นผู้มีวัฒนธรรมและรักในความเป็นชาติของตน
6) การเป็นผู้มีทักษะในการทางานสูง
บริบทประเทศไทย
สภาพของประเทศไทย
ราชอาณาจักรไทยหรือประเทศไทยเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนตั้งอยู่บนคาบสมุทรอินโดจีนและมลายูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ลาวกัมพูชาและมาเลเซียรวมทั้งอ่าวไทยทะเลอันดามันและแม่น้าโขงมีประชากรประมาณ66ล้านคนในพื้นที่513,115ตารางกิโลเมตรมีศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดินอยู่ที่กรุงเทพมหานครและการปกครองส่วนภูมิภาคจัดระเบียบเป็น 76 จังหวัดประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนหรือแบบสะวันนาแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาลคือฤดูร้อนฤดูฝนฤดูหนาวส่วนภาคใต้มีสภาพอากาศแบบป่าดงดิบซึ่งมีอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปีแบ่งได้เป็น 2 ฤดูคือฤดูฝนและฤดูร้อนภาษาราชการคือภาษาไทยนโยบายการเมืองที่สำคัญคือการศึกษาตลอดชีวิตการปฏิรูปการศึกษาการปฏิรูปหลักสูตรและการเรียนการสอน
ระบบการศึกษาของประเทศไทย
ประเทศไทยให้ความสำคัญกับลดความเหลื่อมล้าและสร้างความเสมอภาคโดยจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบให้เปล่าเป็นเวลา12ปีจัดการศึกษาภาคบังคับ 9 ปีตั้งแต่อายุ 7 15ปีการเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายไม่บังคับเป็นประเทศที่มีผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD - PISA) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและสภาเศรษฐกิจโลกจัดให้คุณภาพการศึกษาของไทยเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศอาเซียนที่พิจารณา
ประเทศไทยกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไว้ดังนี้
มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน รวมทั้งคำนึงถึง 3 เสาหลักอาเซียนโดยให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมประชาชนมีความอยู่ดีกินดีร่วมกันสร้างสถาบันหลักและสังคมให้มีความเสมอภาคบนพื้นฐานของความปรองดองการเมืองโปร่งใสน่าเชื่อถือมีเสถียรภาพยั่งยืนขณะที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศจะต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงแบ่งปันและต้องแข่งขันได้
กระทรวงศึกษาธิการกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ดังนี้
มุ่งปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบโดยยกระดับคุณภาพการศึกษาสร้างโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงและสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อให้พลเมืองมีคุณภาพมีความสมานฉันท์ปรองดองมีระเบียบวินัยมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และความเป็นไทยสามารถเสริมสร้างความมั่นคงของชาติและศักยภาพในการแข่งขันให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นอกจากนี้ยังได้กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์8ประการร่วมกับค่ำนิยมหลักของคนไทย12ประการไว้ดังนี้
คุณลักษณะอันพึงประสงค์8ประการตามหลักสูตรแกนกลางฯ
1) รักชาติศาสน์กษัตริย์
2) ซื่อสัตย์สุจริต
3) มีวินัย
4) ใฝ่เรียนรู้
5) อยู่อย่างพอเพียง
6) มุ่งมั่นในการทางาน
7) รักความเป็นไทย
8) มีจิตสาธารณะ
ค่านิยมหลักของคนไทย๑๒ประการ
1) มีความรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
2) ซื่อสัตย์เสียสละอดทนมีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 3) กตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ปกครองครูบาอาจารย์
4) ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
5) รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6) มีศีลธรรมรักษาความสัตย์หวังดีต่อผู้อื่นเผื่อแผ่และแบ่งปัน 7) เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
8) มีระเบียบวินัยเคารพกฎหมายผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
9) มีสติรู้ตัวรู้คิดรู้ทารู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
10) รู้จักดารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจาเป็นมีไว้พอกินพอใช้ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจาหน่ายและพร้อมที่จะขยายกิจการเมื่อมีความพร้อมเมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี
11) มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสมีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนาผลประโยชน์
12) คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าของตนเอง
งานบริหารบุคคลของข้าราชการครู
ครูฟินแลนด์ได้รับเงินเดือนสูงโดยเทศบาลจะเป็นผู้พิจารณาระดับเงินเดือนของครูใหญ่ / อาจารย์ใหญ่ส่วนสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือนของอธิการบดีมหาวิทยาลัยส่วนครูแต่ละคนจะได้รับเงินเดือนตามภารกิจและผลงานซึ่งครูใหญ่ / อาจารย์ใหญ่ / อธิการบดีเป็นผู้พิจารณาโดยมีสมาคมวิชาชีพครู / สหภาพครูเข้ามาดูแลเจรจาต่อรองได้อัตราเงินเดือนนี้องค์กรท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดสรรส่วนรัฐบาลสนับสนุนเพียงบางส่วนครูมีชั่วโมงของการทางานประมาณ 6๐๐ชั่วโมงต่อปีหรือประมาณ๔บทเรียนต่อวัน
ส่วนครูไทยเงินเดือนไม่สูงมากผู้บริหารสถานศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้พิจารณาเงินเดือนรัฐบาลสนับสนุนเงินเดือนทั้งหมด
ความก้าวหน้าทางวิชาชีพครู
สำนักงานสภาการศึกษากระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรมฟินแลนด์จะกากับมาตรฐานคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและจัดบริการฝึกอบรมพัฒนาตลอดชีวิตการเป็นครูส่วนโรงเรียนจะส่งครูไปฝึกอบรมพัฒนาอย่างเป็นระบบทั้งนี้ฟินแลนด์ได้ยกเลิกการใช้ศึกษานิเทศก์ไปแล้วเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาโดยได้เน้นการสร้างความเข้มแข็งของผู้บริหารสถานศึกษาและครูรวมทั้งได้ทุ่มเทในการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยการจัดการเรียนการสอนและการศึกษาวิจัยเพื่อสร้างฐานข้อมูลและพัฒนานวัตกรรมใหม่
ส่วนครูไทยมีความก้าวหน้าทางวิชาชีพครูโดยทาผลงานเลื่อนวิทยฐานะด้วยตนเองเพิ่งก้าวเข้าสู่ระบบใบประกอบวิชาชีพครูและยังใช้ศึกษานิเทศก์ในการสร้างความเข้มแข็งของผู้บริหารสถานศึกษาและครูรวมทั้งมีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยการจัดการเรียนการสอนและการศึกษาวิจัยเพื่อสร้างฐานข้อมูลและพัฒนานวัตกรรมใหม่