ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 2) ศึกษาความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถเกี่ยวกับกระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของครูต่อการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นการกำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ปีการศึกษา 2561 รวม 32 คน แยกเป็นผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 1 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 16 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และครูผู้สอน จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือกระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 2) เอกสารประกอบการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 3) แบบประเมินตนเอง ก่อนและหลังกระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 4) แบบประเมินความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 5) แบบประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอนต่อการดำเนินงานกระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน วิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ 1) วิเคราะห์ประเมินตนเองก่อนและหลังการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) วิเคราะห์ความสามารถในการเขียนแผนจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูผู้สอนโดยหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3) วิเคราะห์แบบประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างต่อการดำเนินงานการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 โดยหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. การพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานสำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ผู้วิจัยได้ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์แนวคิดทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของรูปแบบ พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบ ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการ และการวัดและประเมินผล และจากการวิเคราะห์ สังเคราะห์แนวคิดทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิเทศ และรูปแบบการนิเทศ ทำให้ได้กระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน ที่เหมาะสมกับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการนิเทศ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ร่วมสร้างองค์ความรู้ เป็นขั้นตอนการดำเนินการให้ความรู้ คำชี้แนะจากผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อช่วยให้ครูนำความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่หรือที่ได้รับจากการอบรมไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จตามศักยภาพหรือความสามารถของครูแต่ละคนเป็นการพัฒนากลุ่มครูจำนวนน้อยหรือรายบุคคลอย่างเข้มข้น ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ขั้นตอนที่ 2 ร่วมดูการปฏิบัติ เป็นขั้นตอนการนำความรู้ที่ได้รับมาไปปฏิบัติจริง โดยการร่วมมือกันทำงาน การคิดอย่างมีจารณญาณการแก้ปัญหา การฝึกทักษะต่าง ๆ ที่เป็นการสร้าง

การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานให้กับตนเองและขยายผลสู่ชั้นเรียน และขั้นตอนที่ 3 ร่วมจัดการนิเทศ ติดตามและประเมินผล เป็นขั้นตอนการนิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานในรูปแบบต่าง ๆ ของการทำโครงงาน เริ่มตั้งแต่การนำเสนอหัวเรื่อง ขั้นตอนและวิธีการทำโครงงาน และผลสรุปของโครงงาน เพื่อทราบว่าการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานนั้นบรรลุวัตถุประสงค์ เป้าหมายที่ต้องการมากน้อยเพียงใด ดำเนินการประสบความสำเร็จมีประสิทธิภาพหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานช่วยให้การการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น

2. ความรู้ ความเข้าใจและความสามารถเกี่ยวกับกระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 พบว่า ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของกลุ่มตัวอย่าง หลังการศึกษาเอกสารมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนการศึกษาเอกสารส่วนความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ความพึงพอใจของครูต่อการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน สำหรับครูโรงเรียนบ้านโสกน้ำขาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 พบว่า ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างต่อการพัฒนากระบวนการนิเทศแบบร่วมใจเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย chao : [21 ก.ย. 2563 เวลา 16:36 น.]
อ่าน [4937] ไอพี : 223.206.250.108
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,048 ครั้ง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง
อาหารอันตรายขณะท้องว่าง

เปิดอ่าน 8,482 ครั้ง
กูเกิลทำแว่นวิเศษ
กูเกิลทำแว่นวิเศษ

เปิดอ่าน 65,423 ครั้ง
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์
หลักภาษาไทย ฉันทลักษณ์

เปิดอ่าน 88,765 ครั้ง
"สมุยหอม หรือ หมุย" พืชสารพัดประโยชน์
"สมุยหอม หรือ หมุย" พืชสารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 19,868 ครั้ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง

เปิดอ่าน 803 ครั้ง
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS
สสวท. พารอบรู้คู่เพลิดเพลินกับแอนิเมชัน ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก THE GREAT MATHEMATICIANS

เปิดอ่าน 1,421 ครั้ง
การใช้ AI ในการแก้โจทย์ PISA เครื่องมือ ChatGPT ผู้ช่วยสำหรับครู
การใช้ AI ในการแก้โจทย์ PISA เครื่องมือ ChatGPT ผู้ช่วยสำหรับครู

เปิดอ่าน 12,134 ครั้ง
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ

เปิดอ่าน 49,373 ครั้ง
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู
ว่าด้วยเรื่อง ป.โทวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 9,378 ครั้ง
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป

เปิดอ่าน 14,246 ครั้ง
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร

เปิดอ่าน 10,473 ครั้ง
คลายเครียด ด้วยการดื่มน้ำ
คลายเครียด ด้วยการดื่มน้ำ

เปิดอ่าน 13,568 ครั้ง
สีสันกับสุขภาพจิต
สีสันกับสุขภาพจิต

เปิดอ่าน 24,841 ครั้ง
สวนแนวตั้งสุดฮิปสไตล์คนรักสับปะรดสี
สวนแนวตั้งสุดฮิปสไตล์คนรักสับปะรดสี

เปิดอ่าน 11,845 ครั้ง
สารพัดคุณค่าจาก กล้วย
สารพัดคุณค่าจาก กล้วย

เปิดอ่าน 39,810 ครั้ง
คำน่ารู้ในการสมัครงาน
คำน่ารู้ในการสมัครงาน
เปิดอ่าน 12,492 ครั้ง
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"
เปิดอ่าน 18,025 ครั้ง
อะควาโพนิค ต้นแบบสวนครัวยุคใหม่...ปลูกผักเลี้ยงปลา
อะควาโพนิค ต้นแบบสวนครัวยุคใหม่...ปลูกผักเลี้ยงปลา
เปิดอ่าน 21,498 ครั้ง
คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง
คลอสตริเดียม โบทูลินัม เชื้อโรคร้ายในอาหารกระป๋อง
เปิดอ่าน 18,154 ครั้ง
เลือดกำเดามาจากไหน?
เลือดกำเดามาจากไหน?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ