ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ การคิดวิเคราะห์ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต โดยการจัดการเรียนรู้
แบบโยนิโสมนสิการ
ผู้วิจัย นาย พรพจน์ นฤมล
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
โรงเรียน ภูเวียงวิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563
การเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับหลักหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อให้นักเรียนได้มีการพัฒนาการคิดวิเคราะห์ โดยการใช้รูปแบบการสอนแบบโยนิโสมนสิการ สามารถส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อ 1)เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต โดยการจัดการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม
ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ได้มาโดยการ เลือกแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต โดยใช้รูปแบบโยนิโสมนสิการ จำนวน 6 แผน เวลา 12 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิด
4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบวัดความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ แบบปรนัยชนิด 4
ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และตรวจสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 83.17/82.95 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ธรรมะ
เพื่อชีวิต มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนแบบโยนิโสมนสิการ เรื่อง ธรรมะเพื่อชีวิต มีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
โดยสรุป การใช้รูปแบบการเรียนแบบโยนิโสมนสิการเป็นวิธีการสอนที่ช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ให้สูงขึ้น ทั้งยังมีความเหมาะสมที่จะนาไปเป็นแนวทางในการใช้สอนผู้เรียนในระดับต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิผลได้จึงควรได้รับการสนับสนุนให้นำไปทำการวิจัยต่อไป