ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอน
แบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางนุสรา สมเขาใหญ่
ปีที่วิจัย 2563
สถานศึกษา โรงเรียนคีรีรัฐวิทยาคม อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีดัชนีประสิทธิผล อย่างน้อย 0.5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กับเกณฑ์เป้าหมาย ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่าง ศึกษาจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนคีรีรัฐวิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วย นักเรียนที่มีความสามารถในการเรียนทั้ง 3 ระดับ คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน โดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ดำเนินการทดลองตามแบบการวิจัย แบบกลุ่มเดียวสอบก่อนและหลัง (One - Group Pretest-Postest Design) เครื่องมือการวิจัย ประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ค่าเฉลี่ย
( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบที (t-test-dependent)
ผลการวิจัยพบว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ร่างกายมนุษย์ โดยใช้กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ มีประสิทธิภาพ 83.55/83.25 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.68 แสดงว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีคะแนนจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 70 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.45 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) มีค่าเท่ากับ 0.52