ชื่อผู้วิจัย นางบุญรักษา แสงรัตน์
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
จากการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้า กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้า กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้า กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชาย - หญิง ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 5 จำนวน 16 แผน ใช้เวลาทำการสอน 20 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและ
หลังเรียน ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 30 ข้อ เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้า กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่าสถิติ t - test ผลการศึกษาพบว่า
1. การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้า กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ได้กำหนดไว้คือ 80/80 โดยมีประสิทธิภาพ เท่ากับ
E1/E2 = 87.69/88.33 และมีค่าดัชนีประสิทธิ ผลเท่ากับ 0.7549
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นหลังการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดฝึกทักษะปฏิบัติ งานประดิษฐ์ของใช้ในบ้านจากเศษผ้า กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.52